ยามโหย่ว
หน้าจวนตระกูลหลี่มีบุรุษหนุ่มรูปงามร่างใหญ่โตนั่งอยู่บนอาชาทมิฬสีดำอย่างองอาจ สายตาของเขาจับจ้องประตูจวนด้วยแววตาลึกล้ำ หลายวันก่อนเขาถูกบิดามารดาต่อว่าโดยมีต้นเหตุมาจากสตรีที่ตนรังเกียจ ทำให้เขาไม่กลับบ้านตนเองเป็นเวลาสามวัน ทว่าวันนี้เขากลับมาแล้ว กลับมาด้วยใบหน้าไม่ใคร่จะแจ่มใสเท่าใดนัก บุรุษผู้นั้นคือ หลี่
เหวินหลาง
สามวันที่ผ่านมาเขาต้องนอนที่ค่ายทหารทั้ง ๆ ที่สามารถกลับมานอนที่จวนได้ แต่เขาก็ไม่มา เพียงเพราะกลัวว่าตนจะพลั้งมือทำร้ายลูกรักของบิดามารดาเข้า แต่ว่าวันนี้เขากลับมาแล้ว กลับเพราะทนฟังเสียงชื่นชมของสหายสนิทที่มีต่อไป๋ฟางเซียนไม่ได้
คิดดูเถิด ขนาดนางไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับสหายของเขาเป็นการส่วนตัว ยังทำให้สหายหน้ามึนผู้นั้นพูดถึงนางแทบจะตลอดเวลา กล่าวชมนางไม่หยุดหย่อน จนเขามิสามารถทนฟังเสียงชื่นชมเหล่านั้นได้ จำต้องควบขี่ม้ากลับมาที่จวน นี่ขนาดยังไม่รู้จักกันสหายเขายังเป็นได้ถึงเพียงนี้ หากได้รู้จักและสนิทสนมกันมากเล่า เกรงว่าซูเฉินสหายของเขาคนนี้คงได้หลงใหลสตรีร้ายกาจยากถอนตัวแล้ว
เพียงแค่คิดถึงชื่อของสตรีที่มีฐานะเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของตน ใบหน้าที่ไม่แจ่มใสในตอนแรกก็กลับกลายเป็นมืดครึ้ม เขาไม่อยู่จวนสามวันไม่รู้ว่าสตรีร้ายกาจนางนั้นเป่าหูอันใดบิดามารดาของตนอีกบ้าง
หลี่เหวินหลางบังคับม้าเข้าไปในประตูจวนที่มีบ่าวเปิดรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเข้ามาแล้วก็ลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว โดยให้บ่าวรับใช้คนสนิทนามตงผิง นำอาชาทมิฬตัวโปรดไปเก็บไว้ที่คอกส่วนตัวของมัน
“ตงผิง นำเสี่ยวเฮยไปเก็บที่คอก และหาน้ำให้มันกินด้วย” เสี่ยวเฮยคือชื่อของม้าที่เขาควบขี่มานั่นเอง
“ขอรับท่านแม่ทัพ” ตงผิงรับคำ แล้วนำเสี่ยวเฮยเดินแยกจากไปทันที
หลังบ่าวรับใช้คนสนิทและม้าตัวโปรดเดินแยกไปอีกทาง หลี่เหวิน
หลางก็ตรงไปที่เรือนใหญ่ทันที ที่ตรงไปที่นั่นก็เพราะว่าตอนนี้คงได้เวลาอาหารเย็นของจวนแล้ว ที่สำคัญเขาต้องไปคารวะบิดามารดาด้วย เพื่อให้รู้ว่าเขากลับมาแล้ว ไม่นานชายหนุ่มก็เดินมาถึงเรือนใหญ่ที่ว่า
หลี่เหวินหลางได้ยินเสียงใสหัวเราะพูดคุยกับบิดามารดาตนเองอย่างสนุกสนาน พลันรู้สึกไม่พอใจที่เห็นไป๋ฟางเซียนมีความสุข นางมีสิทธิ์อันใดถึงได้ยิ้มแย้มและหัวเราะ ในขณะที่เขาไม่สบายใจคิดเรื่องของนางจนปวดหัวกัน ยิ่งคิดหลี่เหวินหลางก็ยิ่งหงุดหงิด ทว่าต้องรีบปรับอารมณ์ของตนเพราะกลัวว่า หากเข้าไปหาบิดามารดาด้วยใบหน้ามืดครึ้ม เกรงว่าจะโดนต่อว่าอีก
ครั้นปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งได้แล้ว หลี่เหวินหลางจึงเดินเข้าไปหาทุกคน เพียงร่างของเขาปรากฏเสียงหัวเราะและพูดคุยก่อนหน้าก็เบาบางลงก่อนจะเงียบไป นี่คืออะไร เขากลายเป็นคนนอกอีกแล้วใช่หรือไม่?
“คารวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ ข้ากลับมาแล้ว” หลี่เหวินหลางเอ่ยทักทายบิดามารดาที่มองมายังตนด้วยสายตาราบเรียบ ทว่าเขาก็รับรู้ได้ถึงความไม่พอใจซุกซ่อนอยู่
“หึ กลับมาแล้วหรือพ่อตัวดี ไม่นอนที่ค่ายทหารของเจ้าไปเลยล่ะ”
“โธ่... ท่านแม่ขอรับ นี่บ้านข้านะขอรับ อย่างไรข้าก็ต้องกลับมา ข้าจะทิ้งบ้านตนเองไปได้เช่นไร”
คำพูดของหลี่เหวินหลางทำให้ไป๋ฟางเซียนมุ่นคิ้วก่อนจะคลายออกอย่างรวดเร็ว คงจะบอกนางอ้อม ๆ สินะว่านี่คือบ้านของเขา นางไม่มีสิทธิ์ แล้วอย่างไร ใครอยากได้กัน นางสร้างใหม่เองก็ได้!
“มาแล้วก็ดี บ้านก็อยู่แค่นี้ทำไมต้องนอนที่ค่ายทหารด้วยก็ไม่รู้” เหลียนฮวาเอ่ยกับบุตรชายด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ