เพล้ง! เพล้ง!
กรี๊ดดดด!
ภายในจวนตระกูลโจวเกิดเสียงกรีดร้องระคนเสียงข้าวของแตกกระจายดังไปทั่วเรือนของบุตรสาวคนโต เหล่าข้ารับใช้ต่างยืนก้มหน้าด้วยความเงียบและสงบนิ่งเพราะรู้สึกหวาดกลัว กลัวว่าตนเองจะต้องกลายเป็นกระโถนให้อีกฝ่ายระบายอารมณ์ ยามที่นางโกรธ
ภายนอกคุณหนูใหญ่จวนตระกูลโจวมักได้รับสายตาชื่นชมอยู่เป็นนิจ ด้วยภาพลักษณ์ดอกบัวขาวที่สั่งสมมานานทำให้ผู้คนต่างลือกันหนาหูว่านางเป็นสตรีเรียบร้อยอ่อนหวาน เหมาะเป็นสาวงามอันดับหนึ่งยิ่งกว่าไป๋ฟางเซียน
ทว่าสำหรับเหล่าบ่าวไพร่ข้ารับใช้ในจวนแล้ว นิสัยของคุณหนูใหญ่ต่างจากที่คนภายนอกร่ำลือไปกันลิบลับ ยามอารมณ์ดีนางมักมีรอยยิ้มไว้ล่อลวงผู้คน แต่เมื่อใดที่นางอารมณ์ไม่ดีนางจะกลายเป็นสตรีร้ายกาจทันควัน ทำร้ายบ่าวไพร่ คำผรุสวาทมักจะออกมาจากริมฝีปากเล็กอยู่เสมอ ที่สำคัญนางหาได้ใจดีและอ่อนโยนอย่างที่ผู้อื่นคิดไม่
โจวเฟิ่งจิ่ว... เป็นสตรีร้ายกาจอย่างแท้จริง!
นางต่อว่าเหยียดหยามบ่าวไพร่ ทำสิ่งใดไม่ถูกใจล้วนต้องถูกสั่งโบยหรือสั่งทำโทษทั้งสิ้น ซึ่งบทลงโทษแต่ละครั้งก็แล้วแต่นางจะคิดหาวิธีการได้ บ่าวคนไหนหน้าตาดีหน่อยนางก็ไม่คิดปล่อยเอาไว้ หากไม่ถูกทำร้ายจนเสียโฉมก็จะถูกขายออกสู่หอนางโลม มีข้ารับใช้หลายคนที่ตกตายไปเพราะนาง แต่แล้วอย่างไร พวกเขาเหล่านั้นเป็นเพียงบ่าวทาสในเรือน มีสิทธิ์อันใดไปเรียกร้องความยุติธรรมหรือความเห็นใจจากเจ้านายเล่า
วันนี้พอเห็นคุณหนูใหญ่ของจวนกลับมาด้วยใบหน้าไม่สู้ดี พวกนางก็เตรียมใจกันบ้างแล้ว เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ต่างคนต่างมองว่าใครจะเป็นคนต่อไป ใครที่จะกลายเป็นเหยื่อให้คุณหนูใหญ่ของจวนได้ระบายอารมณ์
‘หากเจ้าแต่งเข้าตระกูลหลี่ตอนนี้ เห็นทีฐานะภรรยาที่เจ้าจะได้คือฮูหยินรอง หาใช่ฮูหยินเอกที่เจ้าเฝ้าฝันไม่ เจ้าสามารถทนรับสถานะนี้ได้หรือไม่เล่า ถ้าทนได้ก็แต่งเข้ามาเถิด เอ๊ะ! แต่ข้าว่าอย่างเจ้า... แค่ฐานะอนุอุ่นเตียงก็เกินพอ’
กรี๊ดดดด!
เพล้ง!
คำพูดของสตรีที่นางเกลียดชัง ผู้ซึ่งเป็นมารหัวใจยังดังก้องอยู่ในหู ยิ่งคิดถึงถ้อยคำเหล่านั้นที่เสียดแทงความรู้สึกของนางมากเท่าใด หัวใจและความรู้สึกของนางก็ยิ่งคุกรุ่นด้วยไฟโทสะมากเท่านั้น โจวเฟิ่งจิ่วแทบอยากจะฉีกปากของไป๋ฟางเซียนเป็นชิ้น ๆ
‘ฮูหยินรองรึ อนุรึ ไม่มีวันเสียหรอก อย่างข้าต้องเป็นฮูหยินเอกเท่านั้น ส่วนเจ้า! ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย ฆ่าให้ตายเหมือนนางพวกนี้’
โจวเฟิ่งจิ่วนึกคิดด้วยความเดือดดาลก่อนหันหน้ามามองเหล่าข้ารับใช้ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร สายตาของนางมืดมนจนคนที่ถูกจ้องมองรู้สึกว่าชีวิตของตนกำลังถูกกระชาก
“เจ้า!”
“จะ... เจ้าคะ” ข้ารับใช้นางหนึ่งรีบคุกเข่าก้มหน้าละล่ำละลักรับคำ นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตาผู้เป็นนายเลยสักนิด ยิ่งได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของคุณหนูใหญ่แล้ว นางก็ยิ่งกลัวไปกันใหญ่
“ไปเอาหวายมา ข้าจะโบยมัน” ความโกรธที่มีในตอนนี้ หากนางไม่ระบายออกคงได้กระอักเลือดตายแน่ นางจึงสั่งข้ารับใช้ไปหยิบหวายมาให้ทันที ส่วนใครจะเป็นผู้ถูกเลือกนั้น ย่อมต้องเป็นคนที่ได้ยินน้ำเสียงดูถูกและดูแคลนที่ไป๋ฟางเซียนว่านางน่ะสิ
“เจ้าค่ะคุณหนู ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” ข้ารับใช้นางนั้นรีบตอบและออกจากเรือนคุณหนูใหญ่ของจวนตระกูลโจวไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักนางก็กลับมาพร้อมไม้หวายอย่างดี
“มาแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”
เพียะ!
“ชักช้านัก กล้าปล่อยให้ข้ารอรึ” โจวเฟิ่งจิ่วตบไปที่หน้าของนางรับใช้คนดังกล่าวทันที ทั้งยังมองด้วยสายตาดุร้าย ส่งผลให้ข้ารับใช้นางนั้นทรุดตัวคุกเข่า โขกศีรษะขอโทษร้องขอชีวิตเป็นยกใหญ่
“เจ้า! มาใกล้ ๆ ข้า... เร็วสิ อยากตายมากหรือไร!” นางตะคอกเสียงเรียกคนรับใช้ที่ตามนางไปยังจวนตระกูลหลี่ให้เดินออกมาตรงหน้านาง แต่รอแล้วรอเล่าข้ารับใช้นางนั้นก็ไม่ยอมเดินเข้ามาเสียที
“ดี ดียิ่ง! กล้าท้าทายข้า พวกเจ้าจับมัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ