ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 108

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ใครมันจะยังมีอารมณ์ไปวุ่นวายกับการย่างเนื้อหมาป่า ทุกคนต่างก็เหนื่อยจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะไปถลกหนังหมาป่าแล้วด้วยซ้ำ และอีกอย่าง ยังมีจ่าฝูงที่ยังไม่ออกมาอีก จากนี้ไปยังไม่รู้ว่าจะมีอันตรายแบบไหนรอพวกเขาอยู่ ทุกอย่างยังต้องดำเนินการต่อไปอย่างระมัดระวัง

ในเวลานี้แม้แต่โหลชีก็ไม่มีอารมณ์จะกินเนื้อหมาป่าย่างแล้ว ทุกคนกัดขนมเปี๊ยะคนละแผ่นอย่างเงียบๆแล้วดื่มน้ำหิมะไปสองสามคำ ก็นั่งอยู่กับพื้นครู่หนึ่งฟื้นฟูพละกำลังขึ้นมาได้เล็กน้อย

ยังมีองครักษ์หลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ มีสองคนในนั้นที่บาดเจ็บหนักกว่าเพื่อนเล็กน้อย เมื่อกี้ตอนที่ปีนขึ้นมาอย่างสุดกำลังไม่ทันได้สังเกต ทันทีที่หยุดลงถึงได้พบว่าบนขาถูกหมาป่าหิมะฉีกเนื้อหนังออกไปชิ้นใหญ่ แม้แต่กระดูกก็เกือบจะถูกกัดจนหัก ยังมีหลายคนที่ถูกกัดตรงมือ

ผู้บาดเจ็บต้องการการพักผ่อน

หลังจากที่รู้แล้ว โหลชีไหนเลยจะยังมีเวลามาพักผ่อน รีบฆ่าเชื้อให้พวกเขา ใส่ยา และพันแผล ยุ่งไปเป็นครึ่งชั่วยาม โชคดีที่ช่วงเวลานี้ไม่มีสถานการณ์ใดๆเกิดขึ้น

หิมะหยุดตกนานแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กับฝูงหมาป่า ไม่รู้ว่าแสงจันทร์สว่างขึ้นมากตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่องสว่างไปยังทุ่งน้ำแข็งที่ขาวโพลน ไม่จำเป็นต้องใช้คบไฟก็สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

"เราฆ่าหมาป่าไปมากมายขนาดนั้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเช่นนี้ ยังมีเลือดตรงครึ่งทางของภูเขา เกรงว่าเมื่อฟ้าสางก็จะถูกคนพบทันที" เยว่กล่าวเสียงต่ำ: "ต้องรีบค้นหาแล้ว"

ตอนนี้ฟ้าใกล้จะสางแล้ว พวกเขายังต้องคอยระวังคนของราชวงศ์ตงชิง ยู่ไท่จื่อกับองค์ชายรองก็อยู่ที่นั่น ตามข่าวลือที่โหลชีได้ยินในเต็นท์(เต็นท์ทะเลทรายจีนโบราณ)ของตงสือเหวิน คนของราชวงศ์เป่ยชางก็มา สิ่งที่น่ากลัวคือพวกเขาจะยกทัพมาด้วย

แรงดึงดูดที่ล่อลวงใจของไขหินพันปี มันใหญ่กว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้มาก

"อืม ไม่เพียงแค่คนเท่านั้น เกรงว่ามันยังจะล่อสิ่งอื่นมาด้วย" ในที่สุดโหลชีก็ได้พักผ่อนไปครู่หนึ่ง ดีที่นางมีวิธีการดูดซับที่นักพรตเลวสอนอยู่ชุดหนึ่ง หลังจากที่ทำเสร็จไปหนึ่งก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาไม่น้อย นางจัดแต่งทรงผม กล่าวว่า: "ไปกันเถอะ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดีในการพักผ่อน"

"แยกย้ายกันออกไปตามหา" เยว่มองไปทางเฉินซ่า ภูเขาลูกนี้ใหญ่ขนาดนี้ หากทุกคนเดินไปด้วยกัน ยังไม่รู้ว่าจะต้องค้นหาไปถึงเมื่อไหร่ แยกย้ายกันออกตามหา ใครหาเจอก่อนก็ส่งสัญญาณให้อีกฝ่าย

เฉินซ่าไตร่ตรองครู่หนึ่ง พยักหน้า: "เจ้านำคนกลุ่มหนึ่ง"

เจตนาเดิมของเยว่คือแยกกันไปหลายๆกลุ่ม แต่เฉินซ่ากลับแบ่งออกแค่สองกลุ่ม และ เขากับโหลชีก็อยู่กลุ่มหนึ่ง ส่วนคนอื่นๆอยู่กลุ่มเดียวกับเย่ว

เยว่นิ่งเงียบ ไม่กล้าบอกว่าเป็นห่วงพวกเขาสองคน สองคนนี้อยู่กลุ่มเดียวกันความสามารถก็เก่งเกินกว่าพวกเขาตั้งหลายคนแล้ว

"ผู้บาดเจ็บไม่สามารถวิ่งได้" โหลชีมองไปที่ผู้บาดเจ็บเจ็ดแปดคนนั่น ขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วกล่าวว่า: "พวกเจ้าพาพวกเขาไปหาที่ที่เหมาะสมให้พวกเขาได้พักผ่อนก่อน หลังจากที่เราออกมาแล้วค่อยพาพวกเขาออกไป ไม่อย่างนั้นก็ให้พวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกับข้า ใต้ท่านองครักษ์เยว่กับท่าน......"

"ไม่ได้ โหลชี เจ้าอยู่กับนายท่าน" ยังไม่รอให้สีหน้าของเฉินซ่าขรึมลงมา เยว่ก็คัดค้านแล้ว ตอนนี้เขาต้องยอมรับแล้วว่า โหลชีแข็งแกร่งกว่าเขา แข็งแกร่งกว่าเขามาก

มีนางอยู่ข้างกายนายท่านเขาจะวางใจมากกว่า

ตอนนี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม แยกย้ายกันออกไปค้นหา เยว่พาองครักษ์ เข้าไปในภูเขาจากฝั่งซ้าย ส่วนเฉินซ่ากับโหลชีไปทางขวา

อยู่บนยอดเขาถึงได้รู้ว่าแถบเขียวขจีนั่นเป็นเพียงแค่ทุ่งหญ้าเท่านั้น อยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลนดูโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในเนินด้านหลังถึงได้พบว่า ที่แท้ภูเขาลูกนี้ยังมีดินแดนแบบอื่นอยู่

ด้านหลังของหินก้อนมหึมา ทุ่งเขียวขจีเต็มไปด้วยฤดูใบไม้ผลิ!

ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจี แต่ละก้าวมีความแตกต่างของทิวทัศน์ในภาพเดียวกัน

"นี่มันเรื่องอะไรกัน? มันไม่วิทยาศาสตร์เลย" โหลชีมองไปที่ภาพทิวทัศน์งดงามที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงรัศมีของดวงจันทร์รู้สึกตอบสนองกลับมาไม่ได้เล็กน้อย

เฉินซ่าเดินไปอยู่ข้างกายนาง หลายวันมานี้อยู่แต่ในโลกของหิมะขาวโพลนจู่ๆก็เห็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ เสียงของเขาก็แฝงไปด้วยความผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย

"บนภูเขามีสมบัติล้ำค่า ถึงได้นำมาซึ่งภาพนิมิต"

"ดังนั้น ไม่แน่ว่าที่แห่งนี้อาจจะมีไขหินพันปีอยู่จริงๆ"

"อย่าประมาทไป" เฉินซ่ากุมมือของนางเอาไว้ แล้วจูงเดินไป: "ครั้งนี้ห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด"

ก่อนหน้านั้นปล่อยให้นางไปคนเดียว สุดท้ายทำให้นางถูกไล่ล่าไปทั่วทั้งทุ่งน้ำแข็งตามลำพัง นางไม่รู้ว่า ตอนที่เขาเห็นท่าทางที่เหนื่อยล้านั่นของนางในใจรู้สึกผิดมากแค่ไหน

เขาไม่เคยติดค้างผู้ใดมาก่อน และยังคิดมาตลอดว่าขอเพียงเป็นคนของเขา ทำอะไรเพื่อเขาก็เป็นเรื่องที่สมควรทั้งนั้น แต่ในตอนนั้นเขารู้สึกว่าตนเองติดค้างนาง ไม่ เขาติดค้างนางมาตลอด ติดค้างความสงบสุขที่นางควรจะได้รับ ผู้หญิงของเขา ควรจะแค่อยู่อย่างสงบสุขในอ้อมกอดของเขา แต่ว่าหลังจากอยู่กับเขา นางก็รับมือกับปัญหาและอันตรายไม่รู้จบมาโดยตลอด

แต่ว่า ผู้หญิงที่สามารถเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขาเช่นนี้ เขาชอบ!

โหลชีรับคำ มองหารูถ้ำอย่างระมัดระวัง

ดอกไม้ที่เติบโตบนภูเขาหิมะนี่ กลิ่นหอมแตกต่างจากดอกไม้ทั่วไปจริงๆ มีกลิ่นหอมที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า

ตอนที่โหลชีเห็นผึ้งตัวแรกยังรู้สึกทอดถอนใจ ผึ้งที่นี่ช่างมีความสุขจริงๆ ดอกไม้ทั้งหมดน่าจะเป็นดอกไม้ชั้นเลิศ หากเป็นยุคปัจจุบัน น้ำผึ้งที่ผลิตได้ในที่แห่งนี้สามารถเรียกราคาได้สูงลิบลิ่วแล้ว

แต่เมื่อเห็นแกนดอกไม้ดอกหนึ่งมีผึ้งเจ็ดแปดตัวพร้อมกัน นางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดอกไม้มากมายขนาดนี้ สามารถเห็นได้ในพื้นที่กว้างใหญ่ แต่ในดอกไม้แต่ละดอกกลับมีผึ้งมากกว่าสองตัวขึ้นไปทุกดอก เช่นนั้นที่นี่......

จะมีผึ้งมากมายเท่าไหร่กันแน่?

เมื่อคำถามนี้ผุดขึ้นมา นางตกตะลึงในทันที คว้าเฉินซ่าเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ