คำพูดของนางเพิ่งจะหยุดลง ข้างหน้าก็มีเงาดำก็แวบขึ้นมา เฉินซ่าก็มาถึงข้างกายของนางแล้ว นางยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา ก็ถูกบีบคอเอาไว้แล้ว อากาศหายไปในทันที ทำให้นางหายใจไม่ออก นิ้วมือของเขาเย็นเล็กน้อย แฝงไปด้วยความรู้สึกแห่งการสัมผัสของมัจจุราช ถูกสายตาที่แฝงไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างเต็มเปี่ยมคู่นั้นของเขาจ้องมอง เกาอินอินใกล้จะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
แต่ว่าในเมื่อนางกล้ามาคนเดียว ก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว ย่อมต้องพิจารณาถึงสถานการณ์แบบนี้ด้วยอยู่แล้ว
"ข้ามีวิธีที่สามารถ ติดต่อกับ พวกเขา ได้อย่างรวดเร็ว" นางกล่าวคำนี้ออกมาอย่างยากลำบาก รู้ว่าเขาจะเข้าใจความหมายของนาง
ทหารชั้นยอดห้าสิบนายนั่นไปที่หุบเขาร้อยแมลงแล้ว พวกเขาจะรอข่าวทางนี้ของนาง รอให้นางออกคำสั่ง ว่าจะปล่อยโหลชีไป หรือว่าจะลงมือฆ่านาง
มือของเฉินซ่าออกแรงอีก พริบตาเดียวก็บีบจนเกาอินอินหน้าแดง ออกแรงอีกหน่อย เขาก็สามารถหักคอของนางได้อย่างง่ายดาย
"ฝ่าบาท ฟังต่อไปอีกหน่อยไหม......"
เทียนยีอดที่จะกล่าวเกลี้ยกล่อมไม่ได้ เมื่อครู่นี้เขามองดูบาดแผลของอิงแล้ว อาวุธลับนั่นร้ายกาจมากจริงๆ บาดแผลที่เกิดจากมันน่ากลัวมาก องครักษ์อิงแฝงตัวขึ้นไปบนภูเขาโดยที่มีการเตรียมใจเอาไว้อยู่แล้ว เพียงแค่ถูกระเบิดร้อยทำลายแบบนี้ลูกหนึ่งระเบิดเล็กน้อยก็บาดเจ็บเช่นนี้แล้ว ทางฝั่งพระสนมไม่มีการเตรียมใจเลยสักนิด ไม่รู้อะไรเลยสักนิด ถ้าหากระเบิดร้อยทำลายหนึ่งร้อยห้าสิบลูกขว้างไปทางนางพร้อมกัน เช่นนั้น......
แม้กระทั่งเทียนอิ่งที่ซ่อนอยู่ในที่มืดก็ยังรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย
อิงก็เดินเข้ามาข้างหน้าก้าวหนึ่ง มองดูเฉินซ่าด้วยความกังวล ถ้าเป็นเช่นนี้ ความปลอดภัยของโหลชีก็อยู่ในมือของเกาอินอิน ฆ่านางไปเช่นนี้มันไม่ยาก แต่หากเกิดเรื่องขึ้นกับทางฝั่งโหลชีจริงๆจะทำอย่างไร?
ในสายตาของเฉินซ่าคลุกกรุ่นไปด้วยเจตนาฆ่า เขาอยากจะหักคอของเกาอินอินไปโดยตรงเช่นนี้มาก แต่ว่าเขาไม่สามารถเอาความปลอดภัยของโหลชีมาเสี่ยงแม้เพียงเล็กน้อย
เป็นความจริงที่ว่า โหลชีเก่งกาจมาก อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ เกายู่หู่ถึงได้จงใจส่งทหารหลายพันนายมาสร้างความเคลื่อนไหวที่นี่เพื่อดึงดูดความสนใจของเขา ล่อให้เขามา ใช้โอกาสนี้ให้เขาได้เห็นอานุภาพของระเบิดร้อยทำลายแบบนั้น และเพราะรู้ถึงอานุภาพของระเบิดร้อยทำลายแล้ว ตอนนี้เกาอินอินพูดขึ้นว่า มีทหารชั้นยอดห้าสิบนายนำระเบิดร้อยทำลายหนึ่งร้อยห้าสิบลูกไปจัดการกับโหลชีโดยเฉพาะ เขาถึงจะหวาดกลัว เขาถึงจะใส่ใจกับมัน
ระเบิดร้อยทำลายนี่ร้ายกาจมากจริงๆ กองหน้าหนึ่งร้อยคนยังได้รับบาดเจ็บในเวลาเดียวกันได้ ไม่แน่ว่าโหลชีจะสามารถล่าถอยได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ
เขากัดฟัน สะบัดมือออกไป
เกาอินอินถูกเขาสะบัดจนล้มไปบนพื้น ข้อเท้าบิดหมุน เสียงแควกดังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าข้อเท้าพลิกแล้ว แต่ใบหน้าของเกาอินอินเพียงแค่บิดเบี้ยวเพียงเล็กน้อยครู่หนึ่งก็กลับมาเป็นปกติ ทนต่อความเจ็บแล้วกล่าวอีกว่า: "ถ้าหากถึงช่วงใกล้ค่ำแล้วทางข้ายังไม่ส่งสัญญาณ ทหารชั้นยอดห้าสิบนายทางฝั่งหุบเขาร้อยแมลงก็จะลงมือ ถ้าหากฝ่าบาทคิดว่าใช้ชีวิตของอินอินสามารถแลกกับชีวิตของพระสนมได้ เช่นนั้นอินอินก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก"
เมื่อพูดประโยคนี้จบ มุมปากของนางก็มีรอยยิ้มที่หยิ่งผยองและแฝงการเย้ยหยันเล็กน้อย ในสายตาของอิงกับเทียนยีและคนอื่นๆรอยยิ้มนี้มันทำให้คนโกรธมากเป็นพิเศษ
เกาอินอินไม่สนใจพวกเขา มองแค่เพียงเฉินซ่าเท่านั้น เดิมที เฉินซ่าคือผู้ชายที่นางคิดว่าห้าวหาญที่สุดคนหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้เขากลับมีจุดอ่อนแล้ว
ผู้ชายควรที่จะทำการใหญ่ ไม่ยึดติดกับเรื่องเล็กน้อย ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงแล้ว ก็ควรจะเห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องมือในการสืบทอดเชื้อสายแผ่กิ่งก้านใบเท่านั้น ผู้ชายถ้าหากวางผู้หญิงเอาไว้ในใจ ประคบประหงมเอาไว้บนสุดของหัวใจ นั่นคือความรักชายหญิงพันผูกผู้กล้าสูญเสียความทะเยอทะยานได้ง่าย ผู้ชายก็จะมีจุดอ่อนมรณะ
คำพูดนี้ เกายู่หู่พ่อของนางเป็นคนกล่าวเอาไว้ ถึงแม้ในตอนนั้นนางจะรู้สึกว่าการกล่าวเช่นนี้ในใจนางจะรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังเห็นด้วยกับแนวความคิดนี้
เพียงแต่ว่าตอนนี้มองดูเฉินซ่าที่อดทนให้นางทำโอหังต่อหน้าเขาเช่นนี้ เพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ ในใจนางก็รู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย ข้อแรกรู้สึกว่าเฉินซ่าที่มีความหวาดกลัวในใจเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ด้านหนึ่งก็รู้สึกว่าในใจมีความรู้สึกราวกับมีความรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนกับน้ำมันร้อน นั่นน่าจะเป็นความอิจฉา ถูกต้อง มันเป็นความอิจฉา นางอิจฉาโหลชี สามารถเป็นจุดอ่อนของผู้ชายคนหนึ่งได้ สามารถเป็นของล้ำค่าที่เขาวางเอาไว้บนสุดของหัวใจ
คิดถึงตรงนี้ นางอดถามต่ออีกไม่ได้: "ฝ่าบาทรักและทะนุถนอมพระสนม เรื่องนี้ก็เข้าใจได้ แต่ว่า ฝ่าบาทไม่รู้สึกหรือว่า ด้วยฐานะและตำแหน่งของท่าน ยังมีสิ่งที่ต้องทำทางที่ต้องเดินต่อไปอีก ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายยิ่งสมควรจะต้องห้าวหาญมีความสามารถถึงจะถูก? ผู้หญิงที่เดิมทีก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว ถึงจะคู่ควรยืนอยู่ข้างกายของฝ่าบาท เช่นนี้ ถึงแม้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็จะไม่กลายเป็นจุดอ่อนของฝ่าบาท เช่นนี้ถึงจะเรียกได้ว่าพันธมิตรที่แข็งแกร่ง"
คำพูดนี้เมื่อฟังดูแล้วก็มีเหตุผลดี แต่เมื่อคิดดูดีๆ เทียนยีก็ยังอดยิ้มเย้ยหยันออกมาไม่ได้ เพียงแต่ว่าเขาเป็นองครักษ์ลับ ไม่สะดวกออกหน้าพูดอะไรมาก ก็เลยมองไปที่องครักษ์อิงครู่หนึ่ง
อิงเองก็ทนไม่ได้จริงๆ มองดูเกาอินอินด้วยสายตาเย้ยหยัน "ความหมายของเจ้าคือ พระสนมของเราเก่งไม่พอ ดังนั้นถึงได้กลายเป็นจุดอ่อนของฝ่าบาท และตอนนี้ก็กลายเป็นตัวประกันของพวกเจ้างั้นหรือ?"
"วรยุทธของตัวพระสนมเองอาจจะไม่ด้อย แต่ว่า" เกาอินอินยกคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่งแล้วกล่าวว่า: "เหล่าผู้กล้าร่วมชิงใต้หล้า วรยุทธของคนคนหนึ่งจะมีประโยชน์แค่ไหนกัน? ได้ยินมาว่าพระสนมตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีตระกูลคอยช่วยเหลือ ชาติกำเนิดต่ำก็ต้อยด้วยซ้ำไป เดิมทีก็เป็นแค่สาวใช้ของฝ่าบาทเท่านั้น ผู้หญิงเช่นนี้ หลังจากที่สร้างแคว้นแล้ว ให้สถานะนางบำเรอกับนางก็ถือว่ายกย่องนางแล้ว เบื้องหลังของอินอินอย่างน้อยก็มีกองพยัคฆ์สามหมื่นนาย แล้วก็ยังมี ระเบิดร้อยทำลาย ถ้าหากฝ่าบาทไม่โง่ บัญชีนี้น่าจะคำนวณได้อย่างชัดเจนใช่ไหม?"
คำพูดของนางเพิ่งหยุดลง ลมฝ่ามือเย็นเฉียบก็ถูกตบเข้ามา ตบมาถูกหน้าอกของนางพอดี ในปากของนางมีรสชาติคาวหวานขึ้นมากะทันหัน กระอักเลือดออกมาคำใหญ่อย่างควบคุมไม่ได้ แต่ว่ายังไม่ทันที่นางจะได้เรียบเรียงความหวาดกลัวในใจ แสงกระบี่ดำสว่างแวบขึ้นมา นางรู้สึกเพียงว่าบนศีรษะเย็นวาบ ความรู้สึกที่ว่ามัจจุราชมาหมุนรอบอยู่ข้างกายรอบหนึ่งแบบนั้นทำให้นางเกือบจะยืนไม่ไหว มีเหงื่อเย็นไหลออกจากมุมหน้าผาก
"ท่าน......"
นางมองไปด้วยตาที่สั่นเทา เห็นเฉินซ่าเก็บกระบี่พอดี ท่าทางนั่นดุร้ายน่าเกรงขาม
เขากล้าทำได้อย่างไร!
นางพูดไปมากมายขนาดนี้แล้ว ทำไมเขายังกล้าลงมือกับนางเช่นนี้อีก? แต่ว่า หนึ่งกระบี่นั่นคือต้องการจะขู่ให้นางกลัวหรือ? นอกจากถูกลมฝ่ามือตบถูกกระอักเลือดแล้ว นางก็ไม่ได้รู้สึกมีแผลจากกระบี่เลย......
กำลังคิดถึงตรงนี้ เกาอินอินก็รู้สึกเย็นวาบที่หัว จากนั้นเส้นผมสีดำก็พากันร่วงหล่นลงมา ในใจของนางรู้สึกแย่แล้วทันที ยื่นมือไปสัมผัส ผมดำยาวที่รวบสูงอยู่บนหัวกลับร่วงลงมาทั้งมัด ผ้าผูกผมคลายออก ผมยาวร่วงหล่นลงมาทั่วบ่าทั่วตัวของนาง!
และมือของนางก็สัมผัสไปโดนหนังศีรษะที่เรียบเนียนขนาดใหญ่! ! !
เรียบเนียน----
ได้รับบาดเจ็บจากฝ่ามือนางสามารถอดทนเอาไว้ได้ แต่ว่าสัมผัสไปถูกหนังศีรษะแถบนี้ กลับทำให้สีหน้าของเกาอินอินทั้งเขียวทั้งซีดขาวและต่อด้วยแดงก่ำในทันที ในใจของนางมีไฟโกรธที่โหมกระหน่ำและผสมผสานไปด้วยความอับอาย แทบอยากจะกรีดร้องเหมือนกับผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์พวกนั้น กรีดร้องออกมาโดยไม่สนใจอะไรเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ