ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 523

"เจ้ากำลังสะใจ?" คนประหลาดนั่นชี้นิ้วมาที่โหลชีทันที สายตาส่อแววอำมหิตออกมา

เมื่อครู่โหลชีไม่ได้เผยสีหน้าพิเศษอะไรออกไปเลย ได้แต่บอกว่าคนนี้เซนซิทีฟมาก แค่นางมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็โดนนางจับได้แล้ว

ใช่ นาง

นี่เป็นสตรีคนหนึ่ง เพราะลักษณะทางกายภาพนางชัดเจนมาก ถึงทั้งร่างจะมีหญ้าน้ำพันเต็มไปหมด แต่ไหล่กลมมนที่เผยออกมา แขนและขาเล็กเรียว สามารถดูออกได้เป็นสตรีคนหนึ่ง

จะบอกว่านางแปลก ไม่เพียงแค่เพราะนางใช้หญ้าน้ำทำเสื้อผ้า แต่เพราะใบหน้านางเต็มไปด้วยขน สีขาวด้วย จากหัวถึงหน้า ถึงคาง ตัวนางโดนขนสีขาวปกคลุมทั้งตัว โผล่แค่ดวงตาคู่หนึ่ง ปลายจมูกและริมฝีปาก

ขนาดผมนางยังเป็นสีขาว ดังนั้นเลยมองไม่ออกว่าอายุและหน้าตานางเป็นอย่างไร

อันที่จริงโหลชีรู้ว่ามันอาจจะเป็นภาวะย้อนกลับชนิดหนึ่ง เรียกว่าคนขนดก เมื่อก่อนก็เห็นรายงานข่าวคล้ายกันอยู่บ้าง แต่ขนของมนุษย์ภาวะย้อนกลับพวกนั้นมักจะเป็นสีดำ และไม่แปลกประหลาดเหมือนของนาง ปกติมีแทบทั้งตัว แต่ผู้หญิงตรงหน้านี้กลับมีแค่ใบหน้าและคอที่เต็มไปด้วยขน แขนและขาที่โผล่นอกร่มผ้ากลับเรียบลื่น ไม่มีขนสีขาวเลย

นี่ก็แปลกมากแล้ว

และแรงของหญิงขนขาวก็มากนัก นางดูแล้วไม่เหมือนมีกำลังภายใน น่าจะแรงมากแต่กำเนิด เมื่อกี้แรงมหาศาลที่ลากนางกับเฮ่อเหลียนเจี๋ยลงมาเป็นของนางนี่แหละ

พอลากพวกเขาลงมาแล้ว นางก็ลากพวกเขามาใส่หลุมขนาดใหญ่ที่เป็นแนวตั้งติดกำแพง ในเวลาเดียว นางนั่งลงก็ดันหินก้อนมหึมาข้างๆปิดลงไป ปิดอยู่ด้านหน้าอย่างแน่นหนา หินก้อนมหึมานี้อย่างต้องมีเป็นพันกรัม สูงราวหนึ่งเมตรหก ยังไงซะพอปิดแล้วก็สูงถึงระดับไหล่นาง นางชะโงกก็สามารถมองเห็นด้านนอก

ด้วยสภาพร่างกายนางตนนี้ไม่สามารถผลักก้อนหินนี้ออกได้ เฮ่อเหลียนเจี๋ยเองก็ดูจะลำบากพอดู เพราะหน้าอกพวกเขาแนบติดกับก้อนหินนี้แล้ว ด้านหลังเกือบติดกำแพงแล้ว ไม่มีทางใช้แรงได้เลย

ตอนนี้ทั้งคู่เหมือนกับโดนจับแปะตรึงเข้าผนังกำแพง อยู่นิ่งๆให้หญิงขนขาวมองสำรวจ

"เจ้าว่ามาสิ เจ้ากำลังสะใจใช่หรือไม่?"

หญิงขนขาวยังคงชี้นิ้วมาที่โหลชี น้ำเสียงนางตอนพูดดูสับสน แต่ถือเป็นตงชิง และพูดค่อนข้างช้า

"ข้าสะใจอะไรล่ะ?"

โหลชีรู้สึกว่า หญิงขนขาวนี่ชอบคุยกับพวกเขา เพราะทุกคำพูดของนางล้วนหวังได้รับคำตอบจากพวกเขา

บางทีเพราะอยู่ในหุบเขานี้มานานแล้ว ไม่มีคนคุยด้วย ดังนั้นพอจับคนได้เลยจับมาขังไว้คุยเล่น?

บางทีอาจเพราะรู้ว่าเฉินซ่ามาแล้ว ดังนั้นนางเลยอารมณ์ดีมาก แทบจะไม่กลัวอะไรแล้ว

"ถ้าถ้ำของข้าจมน้ำ พวกเจ้าก็ต้องจมน้ำตายด้วย" หญิงขนขาวบอก

โหลชีมองสำรวจถ้ำนี้ เรียกว่าจวน มันก็ดูเกินจริงไปหน่อย ได้แต่เรียกว่าถ้ำใต้ดินที่เรียบง่ายอันหนึ่งกระมัง เพราะใต้ลำธาร ความชื้นสูงมาก พื้นเป็นหินกรวดที่น้ำซึมทั้งหมด ยังไงก็ตามจุดที่พวกเขาอยู่ยังดีหน่อย แต่พอนางหันมองก็เห็นมีสัตว์ตัวอ่อนสีดำเจ็ดแปดตัว แขวนอยู่บนกำแพงที่มองตรงๆแล้วอยู่ไม่ไกล เหมือนเป็นพวกปลิง ขนลุกขนพองขึ้นมาเลย

เฉินซ่ารีบมาเร็ว ถ้าเจ้านั่นคลานมาบนตัวนาง นางต้องเลาะกระดูกคนแน่

ตอนนี้จักรพรรดินีของต้าเซิ่งของเราลืมไปชั่วคราวว่าตนเองกินดีจิ้งจอกมารไปแล้ว หนอนกู่ยังไม่กลัว ปลิงเล็กอย่างนี้จะคลานมาบนตัวนางได้ยังไง?

"ที่นี่ไม่จมหรอก" เฮ่อเหลียนเจี๋ยพูดเสียงเรียบ สายตาเขาปรายไปมองเถาวัลย์ที่ที่งอกออกมาบนกำแพงด้านหนึ่งฝั่งขวามือของหญิงขนขาว "ทางนั้นมีทางออกกระมัง น้ำจะไหลไปทางนั้น"

หญิงขนขาวแค่นเสียงหึ "ไอ้หนู อย่านึกว่าเจ้าหน้าตาดีแล้วข้าจะให้เจ้าดูสมบัติในนี้นะ เจ้าว่ามาสิว่า พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อสมบัติของข้าใช่หรือไม่?"

"ไม่สนใจ" เฮ่อเหลียนเจี๋ยสะบัดใส่สามคำ และหันมองเส้นทางน้ำนั่นอีก สายตามีประกายดำมืดวาบผ่าน "แต่ว่า ตอนนี้คนที่คิดจะจมถ้ำของเจ้าบางทีอาจจะมาเพราะสมบัติของเจ้าก็ได้ และเขาจะพาแม่นางคนนี้ไปด้วย"

หญิงขนขาวกระโดดผลุงขึ้นมาทันที "อะไรนะ? เขาอยากตายชัดๆ ข้าจะฆ่าเขาเอง!"

โหลชีหรี่ตาจ้องมองเขา "นี่ เฮ่อเหลียนเจี๋ยเจ้าไม่อยากจากไปแล้วใช่ไหม?" เวลานี้ยังคิดจะถ่วงเฉินซ่าอีก? ทำไมเมื่อก่อนไม่รู้ว่าเขายังมีพาร์ทชั่วร้ายแบบนี้ด้วยนะ?

เฮ่อเหลียนเจี๋ยพูดเสียงต่ำ "ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเฉินซ่าที่สุด"

ขอเพียงเฉินซ่าตาย หรือบาดเจ็บสาหัส เขาก็คิดหาวิธีออกไปได้

โหลชีโดนย้อนเข้าให้ ขี้เกียจสนใจเขา ทนไม่ไหวหันไปจ้องทางเข้าถ้ำ และเห็นว่ามีเงาคนตกลงมา รีบร้องบอก "ระวัง! อีกฝ่ายแรงเยอะจนน่ากลัว!"

พอพูดจบ ก็มีนิ้วหนึ่งยื่นมาจี้จุดใบ้นางไว้

โหลชีถลึงตาใส่เฮ่อเหลียนเจี๋ยอย่างโกรธจัด เขากลับยิ้มบางพลางว่า "ในใจองค์หญิงน้อยมีข้า ไม่งั้นจะตามข้าลงมารึ? เรื่องที่ราชวงศ์เฉินเจอไม่ใช่เรื่องยุ่งยากลำบากที่เจ้าจะคาดคิดได้ เจ้าติดตามเขามีแต่จะเจอกับอันตรายมาก สู้ติดตามข้าดีกว่า"

ตามแกจะผีสิ

โหลชีโดนเขาจี้จุดไว้พูดไม่ได้ ได้แต่ถลึงตาใส่เขาและรีบหันไปมองคนที่มา

"บุรุษ?" ยามหญิงขนขาวเห็นคนที่ตกลงมาคนแรกก็พุ่งออกไปอย่างโกรธจัด "ข้าต้องการสตรี! ไม่ต้องการบุรุษ!" บุรุษต่อให้รูปงามเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์ นางต้องการสตรี สตรีที่หน้าตางดงาม! ที่นี่มีคนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่พอ ไม่พอ

คนแรกที่ตกลงมาเป็นเฉินซ่าอยู่แล้ว เขาได้ยินเสียงโหลชีเลยเหมือนกัน ถึงนางจะเตือนเขา แต่ฟังออกว่านางไม่เป็นไร เขาก็ถอนหายใจโล่งอกไปเยอะเลย

เพียงแต่ไม่รอให้เขาหันไปหานางตามเสียง เงาร่างหนึ่งก็โผเข้าหาเขา เร็วมาก แขนอีกฝ่ายปัดใส่หัวเขาทันที เร็วกว่าวู๊วูเสียอีก และมีแรงมากจนเกิดเสียงผ่านลม ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายยิ่งยวดเหนือหัว

เฉินซ่าสูงมาก คนปกติไม่มีทางยืนโจมตีเขาจากเหนือหัวได้แน่ ดังนั้นโหลชีเลยมองไปที่เท้าหญิงขนขาวนั่น พอมองนางถึงพบว่า มีเสือขาวตาหงายโผล่ออกมาจากที่ไหนเมื่อไหร่ไม่รู้ หญิงขนขาวยืนบนตัวมัน

ที่เร็วเมื่อครู่คือเสือขาวตัวนี้?

และในเวลาเดียวกันที่หญิงขนขาวพุ่งเข้าตวัดมือทุบลงเหนือหัวเฉินซ่า เสือขาวตัวนั้นก็กางกรงเล็บอ้าปากกว้างกัดลงเอวเฉินซ่าทันที

แม่เจ้า! ต่ำช้ามากจริงๆชั่วช้ามาก นี่เล่นคนมากกว่ารุมกันนี่นา! ไม่ คือคนและสัตว์รุมรังแกคน! โหลชีเบิกตากว้าง อ้าปากแต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา ส่วนเฮ่อเหลียนเจี๋ยถอนหายใจอยู่ข้างๆ

"สตรีประหลาดขนขาวผู้นี้ได้เปรียบนี่นา..."

ได้เปรียบ...ได้เปรียบบ้านแกสิ!

ในวินาทีน่าตกใจนี่ เฉินซ่าชักกระบี่ดื่มเลือดออกมา ปลายกระบี่สั่นระริก ตวัดฟันอันแหลมคนของเสือตัวนั้นทันที และมือซ้ายก็ซัดฝ่ามือใส่หญิงขนขาวไปด้วย ไม่เห็นเขาใช้แรงอะไรที่ขา แต่ร่างสูงใหญ่หลบหลีกทันได้อย่างเฉียดฉิว

แกร่กดังขึ้น ฟันของเสือขาวตาหงายโดนกระบี่ดื่มเลือดฟันหล่นไปหนึ่งซี่แหลมๆ และหญิงขนขาวก็หลบฝ่ามือของเฉินซ่าได้ทัน

เฮ่อเหลียนเจี๋ยถอนหายใจอีก "เฉินซ่าโดนสตรีแปลกประหลาดแบบนี้บีบคั้นจนล่าถอย..." ความหมายนั้นคือดูจะขายขี้หน้า

เจ้ายังโดนสตรีแปลกคนนี้จับขังอยู่ที่นี่น่ะ

โหลชีมองบน

สตรีแปลกราวกับไม่คิดว่าจะมีคนหลบหลีกการโจมตีพร้อมกันของนางกับเสือขาวได้ อึ้งไปครู่หนึ่ง เวลานี้ถึงได้เห็นใบหน้าเฉินซ่าชัดเจน ส่งเสียงเอ๋ออกมา

"เอ๋ เจ้าหน้าตาไม่เลวเลยนี่ ชายผู้นั้นก็หน้าตาไม่เลว!" นางชี้ไปที่เฮ่อเหลียนเจี๋ย "น่าเสียดายนัก ข้าไม่ต้องการบุรุษ เป็นสาวงามสองคนมาเป็นไร?"

เฉินซ่าลงมายังไม่ทันได้มีเวลาดูว่าโหลชีอยู่ที่ไหน พอนางชี้ไป เขาเห็นโหลชีที่โดนจับยันหลุมกำแพงข้างกันกับเฮ่อเหลียนเจี๋ย เห็นนางกะพริบตากลมโตปริบๆใส่เขา ในใจไม่รู้จะใจอ่อนหรือโกรธขึ้งดี

แต่สายตาเขาที่เย็นชามานานกลับเริ่มอบอุ่นขึ้นเมื่อสะท้อนภาพนางออกมา เดิมดำมืดยิ่งนัก บัดนี้กลับมีประกายสว่างไสว

เขาบอกนางว่า "ระวังคนข้างเจ้าให้ดี รอข้าอุ้มเจ้าออกมา"

อุ้มนางออกมา...

โหลชีพูดอะไรไม่ได้ ได้แต่กะพริบตาปริบๆใส่เขา

เฉินซ่าดูออกว่านางโดนจี้จุดใบ้ สายตาปรายผ่านหน้าเฮ่อเหลียนเจี๋ย เฮ่อเหลียนเจี๋ยเดิมคิดว่าสายตาเขาจะเป็นความแค้นและอาฆาต แต่กลับไม่มี ไม่มีเลย

เขาคล้ายจะไม่แยแส เพราะตนเองถูกขังอยู่ที่นี่?

สายตาเฮ่อเหลียนเจี๋ยเผยแววหม่นหมอง

เวลานี้คนอื่นก็กระโดดลงมาเหมือนกัน

อวิ๋นรีบขวางกั้นหน้าสตรีแปลกผู้นั้น "ฝ่าบาท พวกข้าน้อยมารับมือเจ้าสิ่งนี้เอง ท่านไปช่วยจักรพรรดินีเถิด"

เฉินซ่ารับคำ สะบัดชายเสื้อเดินไปทางโหลชี

"อย่าแตะต้องสาวงามของข้า นั่นของข้าของข้านะ!" หญิงขนขาวเห็นอย่างนั้นก็ร้องเสียงดัง พุ่งเข้าหาด้านหลังเฉินซ่าอย่างบ้าคลั่ง

"เหอะ ตัวประหลาด ทางนี้!" โหลวซิ่นรีบชักกระบี่แทงใส่ด้านหลังนางทันที

"ห้ามเรียกข้าว่าตัวประหลาด! ข้าไม่ใช่ตัวประหลาด! เสือขาว กัดพวกมันให้ตายซะ!" หญิงขนขาวกระโดดลงมาจากหลังเสือขาว ตนเองตวัดมือรับกระบี่โหลวซิ่น ในเวลาเดียวกันก็โผเข้าใส่เฉินซ่าอีก

ส่วนเสือขาวก็โผเข้าหาพวกอวิ๋นอย่างรวดเร็ว มันเร็วมากจริงๆ กระโดดหาคราวนี้กว่าครึ่งไหล่ของโหลวซิ่นโดนกระแทก จนแทบด้านชาไปหมด กระบี่ก็จับไม่อยู่ ตกลงพื้นดังแกร๊ง ส่วนเสือขาวตวัดหางใส่เฉิงสิบ และกางกรงเล็บหาอวิ๋นไปด้วย

หนึ่งเสือต่อสามคน เดิมซวนหยวนฉงโจวอยากไปช่วยเฉินซ่า พอเห็นอย่างนี้ก็ได้แต่ลงมือรับมือเสือขาวตัวนี้

และพวกเขาไม่เห็นว่าชิงยีค่อยๆย่องเข้าใกล้หินก้อนใหญ่ เตรียมอาศัยจังหวะช่วยท่านอ๋องของเขา

"สาวงามเป็นของข้า!"

เสียงร้องแหลมดังมา เฉินซ่าตวัดกระบี่ออกไป ประกายเย็นเยียบวาบขึ้น ฟันขนขาวบนใบหน้านางหล่นร่วง

"ห้ามแตะต้องสาวงามของข้า!"

หญิงขนขาวกรีดร้องพลางโผเข้ามา เฉินซ่ารำคาญจัด สะบัดกระบี่ใส่คอนางทันที "จักรพรรดินีของข้า ตัวประหลาดอย่างเจ้าแตะต้องได้รึ?"

"นั่นของข้า สาวงามของข้า หน้ากากหนังมนุษย์สาวงามของข้า!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ