ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 629

เขาหันกลับไปมอง ก็เห็นหลายคนของลัทธิสิ้นโลกีย์กำลังเหาะเข้ามา สายตาพลันบ้าคลั่งขึ้นมา "เจ้าพวกโง่! ใครให้พวกเจ้ามา!ไสหัวกลับไปซะ!"

เขาสะบัดเสื้อคลุมยาว หลายคนนั้นถูกพัดกลับไป

"สตรีบ้า ไม่เคยมีโลกใดที่เป็นของเจ้าหรอก!" ซวนหยวนคงทุบไหเปล่าแตกละเอียด

สายตา "หยุนเฟิง"บ้าคลั่งขึ้นมา หมัดเดียวซัดไหนั่นแตกทันที "ข้าเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า! ข้าเป็นอัจฉริยะ ข้าคือหงส์ฟ้า!"

"เจ้าน่ะโรคจิต!" ซวนหยวนคงกลับพูดอย่างไม่ไว้หน้า ร่างทะยานขึ้นสูง ถีบเท้าใส่เขาทันที

"อัจฉริยะมักจะเหงา! ไม่มีใครเข้าใจข้า! ขนาดหมิงเลี่ยที่พูดว่าจะอยู่เป็นเพื่อนข้าจนแก่ยังเปลี่ยนใจ! พวกเจ้าต่างเปลี่ยนใจ พวกเจ้าล้วนสมควรตาย!"

ใบหน้า "หยุนเฟิง" เริ่มบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ เขากระโดดลงจากยอดตำหนัก ไม่รู้ว่าซัดฝ่ามือสองฝ่ามือไปทางไหน ด้านหน้าตำหนักพลันมีเสาโผล่ขึ้นมาจากพื้นสิบกว่าต้น เสาสิบกว่าต้นนั้นแต่ละต้นล้วนแขวนศพเอาไว้ เนื้อเน่าเปื่อยหมดแล้ว เหลือเพียงกระดูกเท่านั้น บนกระดูกแขวนเศษผ้าขาดวิ่นเอาไว้ กะโหลกห้อยต่องแต่งราวกับพร้อมจะหล่นได้ทุกเมื่อ ในรูตาของหัวกะโหลกมีหนอนมุดออกมาเป็นระยะ ดูแล้วน่ารังเกียจยิ่ง

"แม่เจ้า! มิน่าเฮ่อเหลียนเจี๋ยไม่อยากกลับพระราชวังแล้ว ที่แท้ก็โดนโรคจิตอย่างเจ้าทำจนกลายเป็นสุสานน่ารังเกียจนี่ไปแล้ว หนอนศพคลานไปทุกที่! นี่ยังเรียกวังหลวง? เปลี่ยนเป็นวังศพดีกว่า!"

"เจ้าเก่งก็ร้องอีก อีกเดี๋ยวดูสิว่าเจ้าจะร้องออกมาได้อยู่ไหม!" "หยุนเฟิง"ชี้หน้าเขาอย่างโกรธๆ "มดตัวน้อยอย่างพวกเจ้า ล้วนสมควรโดนสับเป็นหมื่นๆชิ้น!"

"ท่านอ๋อง!"

เยว่และอวิ๋นรวมถึงพวกเฉิงสิบโหลวซิ่นได้นำกองทหารห้าพันนายบุกเข้ามา พอเห็นภาพเบื้องหน้า อวิ๋นทำสัญลักษณ์มือ เหล่าทหารรีบกระจายกันออกไป ล้อมกรอบตำหนักนี้และลานหน้าตำหนักเอาไว้หมดแล้ว

ชิวชิ่นเซียนห่อร่างไว้แน่น นางเองก็โดนพิษ แต่เพราะนางพึ่งติดต่อจากองครักษ์เมื่อคืน ดังนั้นโหลชีเลยไม่ได้ให้นางเข้ามาด้วยกันกับองครักษ์อิง แต่กลับปลอมแปลงใบหน้าเป็นนางเข้ามาแทน

"นั่นคือ...ใต้เท้าองครักษ์อิง!"

ชิวชิ่นเซียนมองแวบเดียวก็เห็นอิงที่นอนข้างเสาต้นหนึ่งอย่างไร้เสียง นางร้องอย่างตกใจ ก่อนวิ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว

"ชิ่นเซียนกลับมา!" เฉิงสิบเห็นสถานการณ์ไม่ถูก ยื่นมือออกไปหวังจะดึงรั้งนาง แต่ช้าไปแล้วก้าวหนึ่ง ชิวชิ่นเซียนพึ่งวิ่งเข้าไป "หยุนเฟิง"นั่นสายตาเย็นเยียบขึ้น ดีดนิ้ว พลังปราณพุ่งยิงไปที่เสาข้างอิงทันที

"อย่า!"

ชิวชิ่นเซียนตกใจมาก ไม่รู้เรี่ยวแรงมาจากไหน มือหนึ่งคว้าสายรัดเอวของอิง และโยนเขาออกไปอย่างไม่คิดเลย

เสียงบรึ้มดังขึ้น โครงกระดูกบนเสาต้นนั้นพลันระเบิดกระจาย เศษผงหล่นโดนชิวชิ่นเซียน พริบตาประกายไฟสีฟ้าก็ลุกพรึบ

แค่ชั่วกะพริบตา ทั้งตัวชิวชิ่นเซียนก็โดนเปลวไฟสีฟ้าห่อหุ้ม ราวกับกองไฟรูปคน

ทุกคนโกรธจนเบิกตาโพลง"

"ชิ่นเซียน!"

เฉิงสิบ โหลวซิ่นและอิ้นเหยาเฟิงพุ่งเข้าหานางพร้อมกัน เฉิงสิบถอดเสื้อคลุมตนออกมาตีนางอย่างบ้าคลั่ง

"หนาวนัก เจ็บนัก..."

เสียงของชิวชิ่นเซียนขาดๆหายๆ นางนอนกลิ้งเกลือกไปมาอยู่บนพื้นอย่างเจ็บปวด

"มดน้อย! ไม่ประเมินตนเองเสียเลย!"

"หยุนเฟิง" ปรายตามอง และหันหาอวิ๋นและเยว่อีก "พวกเจ้าก็มาลองรสชาติไฟเถ้ากระดูกพิษร้ายที่ข้าปรับปรุงหน่อยเป็นไร!" ระหว่างพูด ก็ยื่นมือจะจับพวกเขา

"เจ้าโรคจิต! พวกข้าจะสู้ตายกับเจ้าแล้ว!"

เยว่และอวิ๋นรวมถึงเทียนอิ่งใหญ่ เทียนยีตี้เอ้อร์พร้อมกันโจมตีเขา

ซวนหยวนคงยืนอยู่เหนือตำหนัก สองมือวาดคาถา ร้องตะโกนดังว่า "ไปตายซะ!"

"หยุนเฟิง" ยืนแข็งอยู่กับที่ ร่างกายเริ่มมีควันลอยออกมา นี่เป็นผลมาจากน้ำยาที่ซวนหยวนคงเทใส่ตอนร่ายคาถา

"ซวนหยวนคง! เจ้าสมควรตาย เจ้าสมควรตายนัก! อ๊า!"

"หยุนเฟิง"สองมือกอดรัดตัวเอง ร้องอย่างเจ็บปวดออกมา บิดเร่าไปทั้งร่าง เหมือนหนอนเจ็บปวดบิดเร่าไปมา พวกอวิ๋นกับเยว่รีบชักกระบี่แทงใส่เขาพร้อมกันทันที

แต่ในตอนที่กระบี่ของพวกเขาจะแทงโดนเขา เสียงของเขากลับกลายเป็นเสียงหยุนเฟิง "ฆ่าข้าซะ!"

พวกอวิ๋นต่างชะงัก เมื่อครู่พวกเขาลืมไปแล้วว่า นี่คือหยุนเฟิงนะ ถ้าพวกเขาฆ่าหยุนเฟิงจริงๆ คนในนั้นไม่แน่ว่าจะตาย แต่หยุนเฟิงต้องตายแน่ๆ!

ในจังหวะที่พวกเขาลังเลนี้ "หยุนเฟิง"ได้ถอดเสื้อผ้าตนออกหมดแล้ว เช็ดอย่างแรง น้ำยาโดนเช็ดออกไปกว่าครึ่ง ถึงเขาจะสภาพอนาถนัก แต่ตอนนี้ก็ยังบ้าเหมือนเดิม มองไม่เห็นใบหน้า แต่เผยร่างท่อนบนออกมา

"แทงไปที่จุดชีพจรของเขา หนีจุดตายก็ได้แล้ว!" ซวนหยวนคงพลันตะคอกเสียงดัง สองแขนกางออก กระโดดลอยลงมาจากตำหนัก เข็มยาวในมือแทงลงไปที่จุดชีพจรเขาสองจุดอย่างแรง

"ไสหัวไป!"

"หยุนเฟิง"ตะคอกเสียงดัง ยื่นมือจับโครงกระดูกร่างหนึ่ง โยนใส่ซวนหยวนคงไป เสียงบรึ้มดังขึ้น โครงกระดูกนั่นระเบิดออกมาต่อหน้าซวนหยวนคง

เทคนิคที่พอแตะนิดเดียวก็ระเบิดนี้ หาดูได้น้อยนักในยุคโบราณ ซวนหยวนคงมาจากยุคปัจจุบันรู้ดีเลยทีเดียว ในตอนที่โครงกระดูกนั่นโยนมาเขาก็สีหน้าเปลี่ยนแล้ว แต่ตอนนี้แก่แล้ว เลยหนีไม่ทัน

สะเก็ดที่ลอยออกมาจากการระเบิดโดนตัวซวนหยวนคง และจุดไฟขึ้นมาอีก

"ท่านอ๋อง!"

พวกอวิ๋นตกใจสีหน้าเปลี่ยนสี ถ้าซวนหยวนคงเกิดเรื่อง พวกเขาจะมีหน้าไปพบจักรพรรดินีได้ยังไง?

"น่าตายนัก!" มือของซวนหยวนคงวาดคาถาหลายอัน และเทหญ้าปีศาจที่ตนเองปรับปรุงมาเทใส่จุดที่ไฟลุกบนร่างตน

"ไฟดับแล้ว!"

อวิ๋นดีใจนัก "ท่านอ๋อง ชิวชิ่นเซียนทางนั้น!"

พวกเฉิงสิบและอิ้นเหยาเฟิงโหลวซิ่นยังคงพยายามดับไฟบนตัวชิวชิ่นเซียน แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ไฟนั่นก็ไม่ยอมดับเลย

"สิ่งนี้ใช้แล้ว...จะ...นิทรา...เอาไป" ตอนนี้ซวนหยวนคงพูดไม่คล่องแคล่วแล้ว เขาโยนยาขวดหนึ่งให้ไป แต่ทุกคนก็พบว่าเขายังทำท่าโยนขวดค้างอยู่อย่างนั้น ทั้งตัวแข็งค้างอยู่ตรงนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ