ในรอบนอกของค่ายกลนี้ ทหารที่ล้มระนาดอยู่มากมาย บนตัวพวกเขามีประกายไฟสีฟ้ากำลังลุกไหม้อยู่
โหลชียังไม่ทันดูโดยละเอียด แส้ยาวในมือก็ตวัดเข้าไปรัดเทียนยีเข้าไป ส่วนกระบี่มารล้างผลาญของเฉินซ่าพลันสะบัดใส่เสานั่นไป
โหลฮ่วนเทียนจับมือเขา "ชีวิตของจ้าวหยุนเฟิงเจ้าจะเอาด้วยรึ?"
ถึงเขาจะไม่สนิทกับจ้าวหยุนเฟิง แต่ได้ยินว่าเจ้าหมอนี่ดีกับน้องสาวเขาไม่น้อยเลย
เวลานี้แส้ของโหลชีได้ตวัดรัดเอวเทียนยีแล้ว พริบตาเดียวก็สลัดเขาออกไป
"ใครก็ห้ามเข้ามา!"
พอนางเห็น "หยุนเฟิง"ที่เป็นตงฟางปู๋ไป้เวอร์ชั่นบ้าคลั่ง ความแค้นเก่าใหม่ประทังขึ้นมา
วันนี้นางจะสู้กับผู้หญิงบ้าคนนี้เอาให้ตายไปข้างหนึ่ง!
"โหลชี! เจ้าไม่เป็นอะไร!"
"หยุนเฟิง"ผมเผ้าสยาย ดวงตานั่นเหมือนจะเขียวแล้ว จับจ้องมาที่นางราวกับอยากจะกลืนร่างนางเข้าไปในคำเดียวเลย
"จักรพรรดินี!"
พวกเฉิงสิบและโหลวซิ่นอยากพุ่งเข้าไป กลับโดนเฉินซ่าซัดฝ่ามือออกไป
เขาพูดเสียงต่ำว่า "ไม่ได้ยินจักรพรรดินีของพวกเจ้าพูดรึ? ใครก็ห้ามเข้ามา" ระหว่างพูด เขายืนข้างตัวโหลชี แต่พอพูดจบ โหลฮ่วนเทียนก็เข้ามายืนอีกข้างหนึ่งของโหลชี
"ข้าไม่ใช่ใครที่ไหน ข้าเป็นพี่ชายของเสี่ยวชี เรื่องนี้ข้ามีเอี่ยวด้วย" โหลชีพยักหน้า พูดอย่างไม่หันหลังกลับ "นักพรตเลวล่ะ?"
"เมื่อครู่ท่านอ๋องเกิดเรื่องแล้ว ใช้หญ้าปีศาจที่ตนปรับปรุง ตอนนี้อยู่ในสภาพนิทรา!" เยว่รีบรายงานเรื่องโดยละเอียด
โหลชีสีหน้าดุดันขึ้นทันที แววตาที่มองดู "หยุนเฟิง"เหมือนจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ
"ผู้หญิงบ้า ครั้งนี้เรามาคิดบัญชีกันสักที!"
"โหลชี เจ้าเป็นของข้า เจ้าใช้ร่างกายนี้ ใช้พรสวรรค์นี้ได้สิ้นเปลืองจริงๆ! พอโดนชายผู้หนึ่งครอบครองก็รู้สึกว่าชีวิตสมบูรณ์แล้ว? ชีวิตของเจ้าน่ะหมุนรอบผู้ชายคนนี้หรือไง? เจ้ารู้ไหม ด้วยร่างกายนี้ของเจ้า ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า ทำอะไรได้บ้าง? มาเถิด! โหลชี! ข้าจะปกครองใต้หล้าร่วมกันกับเจ้า!ถึงเวลานั้น เจ้าอยากได้บุรุษรูปงามกี่คนก็นอนไปได้เลยทุกคน!"
"ไปตายซะ!"
เฉินซ่าเดือดจัดทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ ชักกระบี่แทงใส่ทันที
ต่อให้เป็นหยุนเฟิง ก็ต้องจัดการให้เกือบตายก่อนค่อยว่ากัน ค่อยว่ากัน
"ในรถเสด็จอาสามมีขวดหนึ่ง บอกว่าเอามาทากระบี่ได้! อีกอย่าง เอามาทาแส้ให้เจ้า!" โหลฮ่วนเทียนร้องบอก "คนด้านนอก เอาขวดสีดำบนรถม้านั่นโยนเข้ามา!"
"หยุนเฟิง"ได้ยินดังนั้นก็คิดจะขัดขวาง แต่เฉินซ่ามีหรือจะยอมให้เขาเข้าไป? ไออำมหิตของกระบี่มารล้างผลาญทะลุฟ้า ไออำมหิตที่ออกมานั้นปราดเปรียวราวกับมังกรพลิกทะเลดำ มีมากคละคลุ้งและบีบให้เขาไปอย่างบ้าคลั่ง
พริบตาเดียว "หยุนเฟิง" ก็มือไม้เป็นพัลวัน
โหลชีเจ้าเล่ห์ ร่างลื่นไหลดุจไส้เดือนทะเล ว่ายตามเฉินซ่าหรือโหลฮ่วนเทียนตลอด เพราะต้องการคุ้มครองร่างกายนาง "หยุนเฟิง"ก็เลยไม่กล้าระเบิดโครงกระดูกเสาอีก นางแค้นใจจนดวงตาแดงก่ำ
"โหลชี! เจ้าบ้าไปแล้วรึ! เจ้าอยู่กับเขาแล้วมีอะไรได้? เจ้าอยู่กับข้า ข้าจะพาเจ้าไม่แก่ไม่ตายไปด้วย!"
"ถุย! ข้าไม่คิดจะไม่แก่ไม่ตาย!" ในมือโหลชีมีเข็มเงินหนึ่งเล่ม ก็แทงเข้าไปหาเขาทันที
เวลานี้ อวิ๋นร้องขึ้นเสียงดังว่า "นายน้อยรับไว้!"
ขวดยาสีดำขวดหนึ่งโยนเข้ามาจากรอบนอก โหลฮ่วนเทียนกระโดดสูง รับได้พอดี และไม่สนอะไร ถอดเสื้อคลุมตนออกมาเทน้ำยานั้นจนชุ่ม จากนั้นทาบนกระบี่ยาวทั้งสองด้าน
"ชีชี มา แส้ของเจ้า!"
โหลชีโยนแส้ของตนเองให้ โหลฮ่วนเทียนช่วยทาน้ำยาบนแส้แทนนาง จากนั้นโยนคืนกลับให้นาง "น้องเขย กระบี่!"
เฉินซ่าตอบกลับเสียงเย็น บอกเขาว่า "โยนมา เจ้าไม่อาจแตะต้องกระบี่ดื่มเลือดของข้าได้"
ตอนนี้กระบี่ดื่มเลือดถูกเขาใช้เป็นกระบี่มารล้างผลาญ จิตวิญญาณกระบี่ยิ่งโหดร้ายหนักหนา มีเพียงเขาที่สะกดไว้ได้
"พวกเจ้าลืมข้าไปแล้วรึ?"
"หยุนเฟิง"ได้กลิ่นยานั้นแล้ว ยังไงก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาจับจ้องมองขวดสีดำที่โยนไปทางเฉินซ่าเขม็ง นิ้วมือดีดไป ปราณหนึ่งจะพุ่งเข้าไปทำลายขวดนั่น
แส้ปลิดวิญญาณของโหลชีตวัดรัดข้อมือเขาไว้ "เจ้ามิใช่จะต่อกรกับข้ารึ? ข้าอยู่นี่ไง มาสิ!"
จิตวิญญาณของอาวุธวิเศษของแส้ปลิดวิญญาณเหมือนตื่นเต้นขึ้นมา ทำให้นางสะบัดแส้ได้คล่องแคล่วรุนแรงมากขึ้น ข้อมือแค่ขยับนิดเดียว แส้ก็สะบัดไปที่ข้อมือ "หยุนเฟิง"ทันที นางกระชากอย่างแรง มือเขาโดนกระชาก ปราณที่ยิงออกไปเอนเอียง พุ่งไปชนเสาต้นหนึ่ง เสาต้นนั้นระเบิดและล้มลง เกือบโดนโหลฮ่วนเทียนเข้า
เขากระโดดหลบทันที เห็น "หยุนเฟิง" มือพันกันยิ่งกว่าโหลชี รีบชักกระบี่แทงไปที่ไหล่เขา ในเวลาเดียวกัน เฉินซ่าเองก็ทากระบี่ดื่มเลือดเสร็จแล้ว ขนาดปลายกระบี่ที่เลือดออกมายังเป็นสีดำ และแทงไปที่ไหล่อีกด้านของเขา
ทั้งสามคนลงมือพร้อมกัน
"หยุนเฟิง" บ้าคลั่งใหญ่ แต่แส้ปลิดวิญญาณที่รัดข้อมือเขากลับยิ่งรัดแน่นขึ้น ไออำมหิตสีดำของกระบี่ดื่มเลือดเฉินซ่าทำให้เขาเริ่มสั่นสะท้านจากใจ
รังสีกระบี่ของโหลฮ่วนเทียนก็รังสีอำมหิตไร้ขอบเขตเช่นกัน
บนอาวุธของพวกเขาต่างมีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านมากเหมือนกัน
ฉึก
กระบี่ดื่มเลือดของเฉินซ่าแทงเข้าที่ไหล่เขา มีไอหมอกสีเขียวกระฉูดออกมาจากบาดแผล
"อ๊า!"
เสียงผู้หญิงร้องขึ้น พวกเขาต่างเห็นร่างหยุนเฟิงเริ่มรางเลือน เหมือนมีเงาหนึ่งซ้อนอยู่บนตัวเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ