ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 64

"เมื่อใดกันที่เจ้ามีสิทธิ์สงสัยการตัดสินใจของข้า?" น้ำเสียงเฉินซ่าเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ประกายเย็นเยือกที่สาดออกมาจากดวงตาคู่นั้นเหมือนจริงมาก จนทำให้องครักษ์เสวี่ยตัวสั่นเทา

นางครวญครางอย่างเจ็บปวดในใจ มิใช่เช่นนี้ มิควรเป็นเช่นนี้เลย! ถึงเมื่อก่อนนายท่านจะเย็นชา หากมิได้เย็นชาถึงเพียงนี้กับนาง สมองนางพาดผ่านภาพโหลชี

นาง เป็นเพราะนาง! เพราะหลังจากโหลชีมา นายท่านถึงเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้

นางต้องฆ่าโหลชีให้ได้!

เสวี่ยเก็บงำความในใจ ก้มหน้าลงพลางว่า "ข้าน้อยล้ำเส้นแล้ว"

องครักษ์เยว่หรี่ตามองนางเล็กน้อย แต่มิได้พูดกระไร

"พิธีคัดเลือกพระสนมในวันพรุ่งนี้ยกเลิก" เฉินซ่าพูดประโยคนี้ออกมา ทำเอาทั้งสามคนตกตะลึงไปตามๆกัน อึ้งไม่ได้สติกันอยู่พักหนึ่ง

ยกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนม? เป็นไปได้อย่างไรกัน? เป็นไปได้อย่างไร! พวกเขาตระเตรียมมานานมาก สาวงามนานาประเทศล้วนมากันพร้อมแล้ว และยังแขกเหรื่อที่มาร่วมอวยพร วันนี้ก็พากันมาถึงหมดแล้ว ด้านนอกตำหนักหนึ่งและตำหนักจิ่วเซียว รวมถึงตำหนักสองมีแขกพักเต็มไปหมด ทุกอย่างในวันพรุ่งนี้จัดเตรียมไว้หมดแล้ว ขนาดคนของเขาเวิ่นเทียนยังนำของกำนัลมาอวยพร เวลานี้ถ้ายกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนม นี่ แล้วจะให้พั่วอวี้อธิบายกับคนเหล่านั้นว่าอย่างใด?

"อธิบาย? ข้าจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับผู้ใด" เฉินซ่าพูดอย่างเย็นชา

อิงร้อนใจพลางว่า "ฝ่าบาท มิสมควรขอรับ ถ้าจู่ๆพรุ่งนี้ยกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนม นานาประเทศต้องโกรธมากแน่ ตอนนี้รากฐานพวกเรายังมิมั่นคง หากจะเพิ่มศัตรู..."

เยว่ตัดบทคำพูดเขา เขาพูดเสียงต่ำว่า "ยกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนม ลางทีผลอาจไม่แย่เท่าที่พวกเราคิด อย่างน้อยคงมีคนหนึ่งที่พอใจ"

เสวี่ยเป็นสตรี นางคิดออกโดยพลัน "เจ้าหมายถึง น่าหลานฮั่วซิน?"

"ใช่" เยว่มองนางหนึ่งที "ไม่มีสตรีนางใดปรารถนาจะแบ่งปันสามีตนกับสตรีอื่น หากนายท่านมิคัดเลือกสนม น่าหลานฮั่วซินคงเป็นคนที่ดีใจมากที่สุด หากทว่าเป็นเช่นนี้แล้ว นายท่านคงต้องเลือกนางเป็นฮองเฮาเลย เช่นนี้แล้ว เขาเวิ่นเทียนจึงจะสนับสนุนพวกเรา สาวงามนานาประเทศถึงจะไม่กล้าคัดค้านใดๆ"

"อืม เจ้าพูดประโยคเมื่อครู่อีกครั้ง" เฉินซ่าพลันพูด

เยว่ชะงักเล็กน้อย และทวนคำ "นายท่านคงต้องเลือกนางเป็นฮองเฮาเลย เช่นนี้แล้ว เขาเวิ่นเทียนจึงจะสนับสนุนพวกเรา..."

"ประโยคก่อนหน้านั้น"

"หากนายท่านมิคัดเลือกสนม น่าหลานฮั่วซินคงเป็นคนที่ดีใจมากที่สุด..."

"ประโยคก่อนหน้านั้น"

เยว่ชะงักเล็กน้อย สะท้านเยือกในใจ ประโยคนั้น? "ไม่มีสตรีนางใดปรารถนาจะแบ่งปันสามีตนกับสตรีอื่น..." สวรรค์ คงมิใช่อย่างที่เขาคิดกระมัง หากเป็นจริงเยี่ยงนั้น เขามิสมควรพูดประโยคนี้เลย สามารถคืนคำได้หรือไม่?

หากสวรรค์กลับมิยอมรับฟังคำอธิษฐานของเขา

เฉินซ่าขมวดคิ้ว พลันพูดขึ้น "เอาเยี่ยงนี้ล่ะ พิธีคัดเลือกพระสนมในวันพรุ่งนี้ยกเลิก!"

"นายท่าน..."

"นายท่าน ถ้าอย่างนั้น?" จะแต่งตั้งน่าหลานฮั่วซินเป็นฮองเฮารึ? ถึงนางจะมิได้มา แต่ด้วยความรักของนางที่มีต่อนายท่าน หากแต่งตั้งนางเลย คงมีแต่ยินดีปรีดาแน่

"ไม่มีสิ่งอื่น"

เฉินซ่าสะบัดมือ จัดการสั่งการเรื่องต่างๆหลังจากยกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนม

"อะไรนะ? ยกเลิกพิธีคัดเลือกพระสนม?"

ในส่วนลึกของสวนดอกไม้ เงาพระจันทร์พาดผ่าน โหลชีโดนเยว่กับอิงลากไปที่มุมหนึ่ง และยังไม่ทันเกรี้ยวกราด ก็ได้ยินข่าวที่ทำให้นางประหลาดใจมาก "เพราะอะไร?"

อยู่ดีๆ ตระเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันคัดเลือกใหญ่แล้ว ตอนนี้จู่ๆมาบอกยกเลิก คิดถึงผลกระทบหรือเปล่าเนี่ย? โหลชีส่ายหัว รู้สึกว่าเจ้าอาวุธทำลายล้างเฉินนั่นไม่แค่เป็นไบโพลาร์ ยังกลัวยุทธภพจะไม่ยุ่งเหยิงอีก บรรดาองค์หญิงต่างมากันยังพิธีคัดเลือกพระสนมของเขากันหมดแล้ว ยอมลดตัวลดศักดิ์ศรีลงมารอนายคัดเลือกเหมือนกับสาวงามคนอื่น นี่ถือเป็นเกียรติมากแล้ว เพราะเท่าที่นางรู้มาในหลายวันนี้ ตอนนี้พั่วอวี้ยังรายล้อมไปด้วยอันตรายนานาชนิด ถ้ามีศัตรูภายนอกอีก ถึงเวลานั้นศึกนอกศึกในประชิด ต่อให้เฉินซ่าสามารถสู้ได้หนึ่งต่อหมื่น ก็สู้กลยุทธ์คนหมู่มากของคนอื่นไม่ไหวหรอก

โหลชีขมวดคิ้ว

เยว่กลับมองนางอย่างจริงจังพลางว่า "บางทีแม่นางโหลอาจจะรู้เหตุผล"

"ข้าจะไปรู้อะไรล่ะ ข้าไม่รู้" โหลชีถลึงตาใส่เขา "ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพวกท่านไม่ไปขอร้องเขา กลับแอบซ่อนตัวใกล้ห้องปลดทุกข์ลอบดักข้าเนี่ย!"

นางแค่ออกมาเข้าห้องน้ำ สองคนนี้กลับโผล่มาราวกับโจรปล้นสวาท ทำนางตกใจกระโดดหนี

นางกล่าวเช่นนี้ ผู้ชายสองคนพลันรู้สึกกระดากใจขึ้นมา ใบหน้าของอิงร้อนผ่าว เรื่องนี้ในยุคปัจจุบันไม่ได้มีอะไรมาก แต่พอเป็นที่นี่ ดักจับสตรีใกล้ห้องปลดทุกข์ เรียกได้ว่าเป็นโจรปล้นสวาทแล้วล่ะ

แต่พวกเขาไร้ซึ่งหนทาง ก่อนหน้านี้โหลชีไปพำนักห้องข้างๆ แต่เวลาพวกเขาประชุมกัน ฝ่าบาทก็ไปจับตัวคนทันที และดึงไปเข้าตำหนักบรรทมเขา พวกเขาไหนเลยจะมีโอกาส? ขนาดจะเข้าใกล้เพียงนิด เทียนยีกับตี้เอ้อร์ก็ปรากฏตัวแล้ว

ได้แต่ดักรออยู่แถวห้องปลดทุกข์ ได้แต่หวังว่าโหลชีจะลุกขึ้นกลางดึก เพราะพวกเขารู้เรื่องจากเอ้อร์หลิงว่า ปกติแล้วโหลชีมิชอบใช้กระโถนปลดทุกข์ในตำหนักเฉกเช่นฝ่าบาท เหอะเหอะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ