ประเทศต้าเซิ่งต้อนรับความเจริญรุ่งเรืองที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าอยู่ในช่วงวันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์เป็นครั้งแรก
กลางฤดูร้อน พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า สาดส่องลงมายังดินแดนอันกว้างใหญ่ ในวันนี้ ใต้เท้าองครักษ์อิงที่เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพกับใต้เท้าขุนนางหญิงชิวชิ้นเซียนขุนนางหญิงที่ติดตามจักรพรรดินี และโหลวซิ่นหัวหน้าองครักษ์กับใต้เท้าอิ้นเหยาเฟิงหัวหน้าทีมหน่วยรบพิเศษหญิงที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ กำลังจะแต่งงานกันแล้ว
นี่คือเรื่องมงคลเรื่องแรก หลังจากที่จักรพรรดิกับจักรพรรดินีแต่งงานกันแล้ว
ทุกหนทุกแห่งของเมืองหลวงเต็มไปด้วยโคมไฟลูกบอลหลากสีและผูกริบบิ้น ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสงดงามราวกับดอกไม้ ร่วมใจกันแสดงความยินดีกับคู่แต่งงานใหม่สองคู่นี้ หน้าประตูของบรรดาขุนนางเต็มไปด้วยชาวบ้าน และทั้งหมดล้วนมามอบของขวัญแสดงความยินดี
แน่นอนว่า ของขวัญแสดงความยินดีพวกนี้ย่อมไม่ได้มีราคาแพงเหมือนที่เหล่าขุนนางมอบให้อยู่แล้ว
"นี่คือลูกแพร์ที่บ้านข้าน้อยปลูกเอง ข้าน้อยเลือกลูกที่ดีและหวานที่สุดมาสองตะกร้า ขอใต้เท้าได้โปรดช่วยข้าน้อยส่งต่อให้กับแม่ทัพอิงและหัวหน้าองครักษ์โหลวด้วย!"
"พ่อบ้านพ่อบ้าน ข้าน้อยมอบปลอกผ้าห่มเป็ดยวนยางสองผืนนี้ให้ใต้เท้า เป็นของเมียข้าปักเองกับมือเลย ขอฝากบอกท่านหน่อย "
"ยังมีของข้ายังมีของข้า นี่คือรูปปั้นหินที่ท่านปู่ข้าแกะสลักเอง"
"นี่คือยาวิเศษที่ข้าขุดได้บนภูเขา"
"แล้วก็ยังมีของยายแก่อย่างข้าคนนี้ นี่คือไข่ที่ออกโดยไก่ที่เลี้ยงในบ้านตัวเอง อร่อยมากนะ"
รถม้าคันหนึ่งส่ายง่อนแง่นเข้ามาในเมืองหลวง คนที่อยู่ในรถยื่นมือมาเปิดผ้าม่านออก มองดูความครึกครื้นทุกหนทุกแห่งของที่นี่ อดที่จะกระตุกมุมปากขึ้นมาไม่ได้
"ก็แค่แต่งงานไม่ใช่หรือ? ต้องถึงขนาดนี้เลย?"
หลงฉือที่เป็นคนขับรถม้าปาดเหงื่อที่อยู่ตรงหน้าผาก ตอบกลับมาว่า: "ฝ่าบาท ถ้าหากพระองค์แต่งงาน ต้องครึกครื้นกว่านี้มากอย่างแน่นอน ไม่เชื่อพระองค์ก็ลองแต่งงานดูสิ"
คนที่นั่งอยู่ในรถม้าก็คือโหลฮ่วนเทียนที่ชิงหนีออกมาก่อนก้าวหนึ่ง ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนนามสกุลกลับไปเป็นซวนหยวน และก็เป็นฮ่องเต้มานานหลายเดือน ตอนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรก็ค่อนข้างเหมือนเช่นนั้นจริงๆ แต่ว่าตอนนี้เขากำลังกลอกตามองบน เก็บพัดที่ใช้พัดลมในมือขึ้น แล้วเคาะไปบนหัวของหลงฉือทีหนึ่ง
"ทำไมเจ้าถึงไม่แต่งงานล่ะ? เรื่องแบบนี้บอกจะแต่งก็แต่งได้เลยงั้นหรือ?"
"แต่ว่าฝ่าบาท ท่านก็โตเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ต้องรีบผลิดอกใบออกผลเพื่อราชวงศ์ในเร็ววันแล้ว"
"ข้าว่า ไอ้เจ้าหลงฉือแม่ข้าส่งเจ้ามาใช่ไหม? แม่ข้าใช้อะไรซื้อตัวเจ้าล่ะ?"
หลงฉือแสดงออกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก "ไม่ใช่ไทเฮาซื้อตัวข้าน้อยจริงๆ ท่านลองถามหลงเอี๋ยนดู เขาได้รับจดหมายขององค์หญิงน้อย องค์หญิงน้อยบอกว่า หากท่านไม่เร่งมือหน่อย เกิดไท่ซ่างหวงไทเฮาชิงให้กำเนิดอีกก่อน......"
"เหลวไหล!" ซวนหยวนฮ่วนเทียนระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที: "พวกเขายังคิดจะให้กำเนิดอยู่? รอเดี๋ยว หลงเอี๋ยนเจ้าออกมา ทำไมเสี่ยวชีถึงต้องเขียนจดหมายให้เจ้าด้วย? ยังพูดอะไรอีก?"
"แค่กๆ" หลงเอี๋ยนแวบออกมา กล่าวออกมาอย่างร้อนตัวเล็กน้อย: "ฝ่าบาท องค์หญิงน้อยก็แค่ห่วงใยท่าน......"
ซวนหยวนฉงโจวหรี่ตาลงเล็กน้อย ดึงคอเสื้อของเขาเอาไว้ "หลอกใครน่ะ? ถึงแม้ว่าเสี่ยวชีต้องการจะห่วงใยข้า นั่นก็ต้องเขียนจดหมายให้ข้าด้วยตัวเอง เขียนให้เจ้าทำไมกัน? เป็นเพราะเจ้าเคยเป็นองครักษ์ลับของนาง นางก็เลยสนิทสนมใกล้ชิดกับเจ้าหน่อย? เจ้าอย่าแม้แต่จะคิดเชียว คนที่เสี่ยวชีใกล้ชิดสนิทสนมมากที่สุดคือข้า พูด พูดความจริงมา มิเช่นนั้นข้าจะถีบทำลายของสำคัญเท่าชีวิตจิตใจของเจ้าซะ ให้ชาตินี้เจ้าไม่สามารถแต่งเมียได้อีก"
หลงเอี๋ยนหน้าแดงก่ำขึ้นมาในทันที อดที่จะบ่นไม่ได้: "ฝ่าบาท องค์หญิงน้อยแทบอยากจะให้องครักษ์ของนางทุกคนล้วนหาคู่แต่งงานได้กันทุกคน มีอย่างท่านที่ไหนกัน เอะอะก็จะทำลายของสำคัญเท่าชีวิตจิตใจของข้าน้อย"
"ใช่ ข้าก็เป็นเช่นนี้แหละ มีปัญญาเจ้าก็ไปเป็นองครักษ์ของเสี่ยวชีสิ" น่าโมโหจริงๆ ดีร้ายก็เป็นถึงองครักษ์พกอาวุธชั้นหนึ่งของราชวงศ์ซวนหยวนเขา มีปณิธานแค่ไหน แค่เพื่อจะแต่งเมียคนหนึ่งเนี่ยนะ?
เขาหัวเราะแฮะๆๆขึ้นมา: "มิเช่นนั้นเจ้าก็ลองคิดถึงเฉิงสิบดูสิ ข้าว่าเจ้าหมอนั่นก็คือคนที่หาเมียไม่ได้ทั้งชีวิตแน่ พวกเจ้าติดตามเสี่ยวชี ช้าเร็วก็จะเหมือนกับเขานั่นแหละ"
"เฉิงสิบก็ค่อนข้างดีอยู่ไม่ใช่หรือ?"
"ดีอะไรกัน? นั่นก็แค่คนหัวดื้อคนหนึ่ง"
ทันทีที่คำพูดของซวนหยวนฮ่วนเทียนหยุดลง เสียงของเฉิงสิบก็ดังมา
"ฮ่องเต้ซวนหยวนนินทาข้าน้อยลับหลังเช่นนี้ดีหรือ?"
เงาร่างสูงและหล่อเหลาบินโฉบเข้ามา หยุดอยู่ตรงด้านหน้ารถม้า ซึ่งคือเฉิงสิบนั่นเอง
เฉินสิบในเวลานี้ไม่มีความไร้เดียงสาอย่างตอนที่เพิ่งเริ่มติดตามโหลชีในตอนแรกแล้ว ยังคงหล่อเหลาดังเดิม แต่ความสุขุมเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ก็เหมือนกระบี่ล้ำค่าที่เดิมทีสวยงามหรูหราเกินไปหลังจากที่ถอดความสดใสออกไป กลับดูมีเสน่ห์ที่ทำให้คนหลงใหลมากขึ้นมาเล็กน้อย
"อ๊า นั่นคือแม่ทัพน้อยเฉิงสิบนี่!"
ซวนหยวนฮ่วนเทียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ด้านข้างก็มีเสียงกรี๊ดที่ตื่นเต้นดังขึ้นมา จากนั้นก็มีสาวน้อยกลุ่มหนึ่งกระโจนเข้ามากันอย่างบ้าคลั่ง
บนใบหน้าของพวกนางแต่ละคนล้วนแดงก่ำ ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกาย มองดูเฉิงสิบราวกับผึ้งที่เห็นดอกไม้
"แม่ทัพน้อยเฉิง ข้าจะแต่งงานกับท่าน!"
"แม่ทัพเฉิง แต่งกับข้าแต่งกับข้า สินเดิมเจ้าสาวข้าก็เตรียมเอาไว้แล้ว!"
"แม่ทัพเฉิงสิบ ข้าชอบท่านมานานแล้ว อ่า ได้เห็นตัวเป็นๆดีใจจังเลย!"
ชั่วขณะหนึ่งทั่วทั้งถนนราวกับถูกต้มจนเดือดระอุ คนกลุ่มหนึ่งโอบล้อมเข้ามาอย่างตื่นเต้น
ใบหน้าหล่อเหลาของเฉิงสิบดำมืด รีบกระโดดขึ้นรถม้าไปทันที ให้หลงฉือรีบขับรถม้าออกไปอย่างรวดเร็ว
กว่าที่จะฝ่าวงล้อมหนีออกไปไม่ง่ายเลย ซวนหยวนฮ่วนเทียนหัวเราะฮ่าๆๆจนยืดตัวตรงขึ้นมาไม่ได้
"โอ้ แม่ทัพน้อยเฉิงสิบนี่คือค่าตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างมากหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพแล้วนี่นา"
เฉิงสิบรู้สึกอายเล็กน้อย "ทั้งหมดนี้เป็นเพราะจักรพรรดินีพูดไร้สาระกับคนอื่นตอนที่ออกมาเดินเล่นเมื่อสองวันที่แล้ว!" พูดถึงเรื่องนี้ เขาก็ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเล็กน้อย
จริงๆเลย ไม่อยากแต่งงานน่าแปลกมากหรือ?
"เสี่ยวชีพูดอะไรหรือ?" ซวนหยวนฮ่วนเทียนสนใจขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ