ด้านนอกอาคาร หลิงหยิงเสวี่ยสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนัง และดวงตาของเธอดูมึนเมาเล็กน้อย
หลังจากที่ถูกหลินฮ่าวเอาเปรียบ เธอยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห อดไม่ได้ที่จะพาเพื่อนสาวไปดื่มเหล้าที่บาร์ ขณะที่กำลังดื่มอย่างมีความสุขก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา ได้รู้ว่าอาคารเทียนหยูถูกลายรอบไปด้วยทหารรับจ้างจำนวนมาก จู่ ๆ ก็ตกใจตื่นจากอาการเมาและ รีบขับรถไปด้วยอาการเมา
เข้าไปในอาคาร ฉากในห้องโถงทำให้พวกเขาตกใจอย่างยิ่ง
ปกติคดีใหญ่ๆมีคนตายไม่กี่คน แต่ตอนนี้ลิฟต์หนึ่งตัวพังพินาศ ในลิฟต์เต็มไปด้วยเนื้อตัวของผู้คนที่ทุบเป็นชิ้นๆ เจ้าหน้าที่หน่วยสวาทหลายคนอาเจียนออกมา และเมื่อพวกเขาเห็นศพเจ็ดหรือแปดศพซ้อนกันอยู่ในลิฟต์อีกตัวหนึ่ง ก็ยิ่งผวามากขึ้น
การต่อสู้ในนี้ดุเดือดมากแค่ไหน โหดร้ายสักเพียงใด?
“ฉันขอแนะนำ ให้ส่งทหารกำลังเสริมมา” หวังจงเคอกล่าว
เขาเป็นรองผู้อำนวยการของสำนักความมั่นคงสาธารณะเทศบาล ผู้อำนวยการอยู่ในสถานะกึ่งเกษียณอายุ โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นคนดูแล ปีนี้เขาเพิ่งจะอายุ 40 ปี อายุเหมาะสมและแข็งแรง พอเห็นศพเหล่านี้สีหน้าก็ดูไม่ได้เลย รู้สึกแย่จนท้องไส้ปั่นป่วน
เมื่อระบุตัวตนของฆาตกรหลายคน ได้รู้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นที่ต้องการของตำรวจสากล เหล่าตำรวจก็ยิ่งตกใจ
ยอดฝีมือเช่นนี้เสียชีวิตที่นี่ทั้งหมด ตายอย่างคนธรรมดา ดังนั้นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้ามาในอาคารจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน? ในนั้นจะมีสุดยอดฝีมือระดับสูงกี่คน? แม้ว่าตำรวจติดอาวุธเหล่านี้จะได้รับการฝึกฝน แต่จะไปต่อต้านกับพวกที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่เลียเลือดบนขอบมีดพวกนี้ได้ที่ไหนกันล่ะ
“ฉันเห็นด้วย” หัวหน้าทีมตำรวจอาชญากรรมหลายคนรีบพยักหน้าแสดงความเห็นชอบ ทุกคนต่างก็กลัวเล็กน้อย ยังไงตำรวจก็เป็นคนเหมือนกัน!
พวกเขาคิดว่าทำได้เพียงอาศัยยุทธวิธีของกองทัพเท่านั้น รวมถึงอาวุธที่ได้เปรียบมาก ถึงจะสามารถต่อกรกับฆาตกร ทหารรับจ้างต่อสู้พวกนั้นได้
“หัวหน้า แล้วตอนนี้ล่ะ?” หลิงหยิงเสวี่ยถาม
รอคนของกองทัพมา เกรงว่ายอดฝีมือเหล่านั้นถอนตัวไปหมดแล้ว
หัวหน้าหลายคนจ้องไปที่หลิงหยิงเสวี่ย ไม่มีเรื่องอะไรแล้วจะพูดเยอะแยะไปทำไม? ในใจของทุกคนเข้าใจใช้ยุทธวิธีในการรอคอยไปโดยปริยาย ต่างก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย สุดท้ายและเพียงแค่รออย่างเดียวมันก็ดูไม่ดีนักหรอก พวกเขาคือตำรวจติดอาวุธ เป็นตำรวจติดอาวุธที่แบกรับความปลอดภัยของประชาชนไว้บนบ่าของพวกเขา ก็เลยไม่ต้องพูดถึงหัวข้อนี้เลยละกัน
สุดท้ายแล้วข้างต้นนี้ก็คือนักฆ่าและทหารรับจ้างที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาจริงๆ!
แต่ตอนนี้หลิงหยิงเสวี่ยพูดเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ทำได้เพียงเผชิญหน้ากับคำถามนี้โดยตรงเท่านั้น
“อืม คุณมีข้อแนะนำอะไร?” หวังจงเคอเอ่ยถาม สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ฉันแนะนำให้ตำรวจติดอาวุธขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยึดดาดฟ้าก่อน ฉันกังวลว่าพวกเขาพร้อมที่จะหนีบนดาดฟ้า แม้ว่าเราไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาแบบตัวต่อตัวได้ แต่ก็ยังสามารถตัดทางหนีทีไล่ได้อยู่ ตำรวจติดอาวุธของเราจะไม่ยอมให้คนในกองทัพดูถูกได้” หลิงหยิงเสวี่ยกล่าว ไม่สนใจสีหน้าที่ดูแย่ของหวังจงเคอ
หัวหน้าหน่วยหลายคนอดหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ หลิงหยิงเสวี่ยดื่มมากเกินไปหรือเปล่า? อยากสร้างคุณงามความดีจนบ้าแล้วสินะ?
"อันตรายเกินไปไหม? หัวหน้าหลิงประเมินพวกนักฆ่าและทหารรับจ้างต่ำไปหรือเปล่า?” หวังจงเคอมองหลิงหยิงเสวี่ยและกล่าว แม้ว่าเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลิงหยิงเสวี่ย แต่เห็นได้ชัดว่ายุยงให้หลิงหยิงเสวี่ยทำตามความคิดของตน
“อธิบดี ฉันยินดีจะนำทีมด้วยตัวเองเพื่อปิดกั้นดาดฟ้า” หลิงหยิงเสวี่ยพูดเสียงดัง
ความคิดของหวังจงเคอเธอรู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ตั้งแต่เธอตกลงมาอยู่ที่สำนักงานความมั่นคงสาธารณะของเทศบาล หวังจงเคอก็สนใจเธอ ให้ท่าหลายครั้ง แต่เธอไม่สนใจเลย ต่อมาหวังจงเคอก็แอบเกลียดเธอ มักจะกลั่นแกล้งบีบให้เธอยอมจำนน
ในตอนนี้เธอเข้าใจความคิดสกปรกของหวังจงเคอ แต่เธอไม่ได้เอามาใส่ใจเลย เธอต้องการมุ่งไปข้างหน้า เอาตัวเองออกนำหน้าดิ้นรนสุดชีวิต มุ่งไปอยู่แนวหน้า
ไม่ใช่เพื่อสร้างคุณงามความดี เพียงเพื่อสำนึกผิดชอบชั่วดีในใจเธอ เกียรติของตำรวจ
และในใจเธอมีความคิดหนึ่ง สถานการณ์ตอนนี้ หมอนั่นจะต้องปรากฏตัวขึ้นแน่? เป็นเวลาที่ดีที่จะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของกันและกัน
ส่วนอันตราย? เธอไม่กลัวเลยด้วยซ้ำ การเป็นตำรวจเดิมทีก็เป็นการทำงานของวันนี้ที่ไม่มีวันพรุ่งนี้
สำหรับเธอ การเสียสละคือเกียรติอย่างหนึ่ง!
“โอเค คุณไปเถอะ แต่ก็ต้องระวังด้วยนะ” หวังจงเคอกล่าว
เขามีความคิดในใจอยู่แล้ว ถ้าหลิงหยิงเสวี่ยประสบความสำเร็จแล้ว เขาที่เป็นหัวหน้าก็จะได้ผลงานไปด้วย
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมากับหลิงหยิงเสวี่ย ก็เปลี่ยนหัวหน้าคนใหม่พอดี ในเมื่อไม่สามารถสั่งงานหลิงหยิงเสวี่ยได้ งั้นก็เปลี่ยนเป็นคนสนิทของตัวเองแทน ต่อไปก็จะไม่มีใครให้จ้องจับผิดแล้ว ทั้งสถานีตำรวจก็จะต้องฟังแค่หัวหน้า ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น
หลิงหยิงเสวี่ยขับเครื่องบินลำหนึ่ง เธอรับสมาชิกในทีมของเธอสองสามคนแล้วบินขึ้นเครื่องบินไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนเป็นเจ้าหน้าที่รุ่นเยาว์ ซึ่งเป็นคนมีไฟ ปรารถนาที่จะสร้างผลงาน แม้รู้ว่ามีอันตราย แต่ตอนที่หลิงหยิงเสวี่ยถามพวกเขาว่ายินดีจะเข้าร่วมปฏิบัติไหม ต่างก็ตอบรับกัน
แต่หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในชั้นดาดฟ้า กลับพบว่าบนชั้นดาดฟ้าไม่มีใครอยู่เลย
พวกเขาเลือกเข้าไปในอาคารทันที แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ชั้น 14 มากนัก แม้ว่าหลิงหยิงเสวี่ยกระตือรือร้นที่จะสร้างผลงาน แต่เธอก็ไม่ได้เสียสติ เธอสั่งให้ลูกน้องวางมาด ทำเป็นว่ากำลังตำรวจเข้าไปในอาคารแล้ว ให้บุคคลอันตรายตกใจกลัว ให้พวกเขาไม่กล้ากำเริบเสิบสานจนเกินไป!
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!