บทที่ 13 งานของเหยาซือหย่า – ตอนที่ต้องอ่านของ บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!
ตอนนี้ของ บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! โดย เทียนมาสิงคง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 13 งานของเหยาซือหย่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ว่ากันว่าผู้ชายมักดูดีที่สุดตอนที่กำลังจดจ่อกับอะไรบางอย่าง
แม้จะเป็นคนขับรถที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ก็ตาม ก็ยังคงหลุดพ้นไปจากออร่าแบบนี้ไม่ได้
บนรถ อวี้หยูเฉินมองไปที่หลินฮ่าวอย่างเงียบๆ อดไม่ได้ที่จะเผลอจ้องมองจนเพ้อไปโดยไม่รู้ตัว
นึกถึงก่อนหน้านี้ที่แม้เผชิญกับสถานการณ์อันตราย ทว่าหลินฮ่าวก็ยังคงดูสุขุมเยือกเย็น ประหนึ่งปรมาจารย์ในนิยายกำลังภายใน แล้วดูตอนนี้ที่กำลังขับรถ ท่าทางหนักแน่นและสายตาที่เคร่งขรึมนั่น แม้แต่อวี้หยูเฉินเองก็อดเผลอหลงใหลไม่ได้
“มีคนเคยบอกนายไหม ว่านายหล่อมาก?” จู่ ๆอวี้หยูเฉินก็โพล่งถามขึ้นมากะทันหัน
“มี หลายๆคนเคยพูดแบบนี้กับผม” หลินฮ่าวพยักหน้าตอบตามจริงอย่างตรงไปตรงมา
“ฮ่าฮ่า......”อวี้หยูเฉินอดหลุดขำไม่ได้
“นายหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า? มีใครบ้างที่เคยพูดแบบนี้?” อวี้หยูเฉินยิ้มถาม
แม้ตอนนี้หมอนี่จะดูหล่อมากก็จริง ทั้งยังเผยสีหน้าเย็นชาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขายิ่งดูเท่เข้าไปอีก
ปกติเองก็ไม่พูดไม่จา แต่จู่ ๆมาพูดโพล่งแบบนี้ ยังตลกกว่านี้ได้อีกไหม?
“ทุกคนที่เคยเห็นผมมาก่อน ไม่มีใครไม่บอกว่าผมหล่อ” หลินฮ่าวตอบอย่างซื่อสัตย์
ที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ทว่าพอพูดออกมาโต้งๆแบบนี้แล้ว กลับฟังดูหลงตัวเองขึ้นมาทันที
“งั้นหรอกเหรอ นายนี่ก็เอาแต่ตีหน้านิ่งทั้งวัน เหมือนใครติดหนี้นายเป็นล้านยังไงอย่างงั้น ปกติก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา พอพูดที ก็ทำให้คนอยากขำซะจริงๆ!” อวี้หยูเฉินโบกมือพูด
“ผมพูดเรื่องจริง ผมไม่ชอบคนพูดปด” หลินฮ่าวเอ่ยเสียงเรียบ พลางขับรถมุ่งไปยังบริษัทอย่างรวดเร็ว
ไร้บทสนทนามาตลอดทั้งทาง กระทั่งรถถูกจอดที่ลานจอดรถของบริษัทแล้ว หลินฮ่าวก็ลงมาเปิดระตูรถให้อวี้หยูเฉิน
“จริงสิ คืนนี้ย้ายไปที่บ้านฉัน ไปอยู่กับฉันเถอะ!” อวี้หยูเฉินลงจากรถ พลันเอ่ยอย่างกะทันหัน
“ครับ ไม่มีปัญหา” หลินฮ่าวตอบเสียงเรียบ
โอกาสที่จะได้อยู่ใต้หลังคาเดียวกันกับคนสวยแบบนี้ เขากลับแสดงท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจ ซ้ำยังตอบกลับอย่างเป็นการเป็นงาน
อวี้หยูเฉินรู้สึกจนใจ หมอนี่เฉยชาเหมือนท่อนซุงจริงๆด้วย จริงจังเคร่งขรึมสุดๆ ไม่รู้จักคว้าโอกาสสานสัมพันธ์กับคนสวยเลยสักนิด นี่ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่าก็คงปลื้มปริ่มจนไม่รู้จะยังไงแล้ว มีแต่เขานี่แหละที่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่หวั่นไหวเลยสักนิด
“หลินฮ่าว......” เพิ่งจะเดินเข้ามาในบริษัท จู่ ๆก็มีเสียงเรียกมาจากตรงเคาน์เตอร์
“ซือหย่า!” หลินฮ่าวหันไปมอง ใบหน้าพลันเผยยิ้มอบอุ่นที่เห็นได้ยาก
เหยาซือหย่าเหมือนกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับพนักงานตรงเคาน์เตอร์ เมื่อเห็นหลินฮ่าวเข้ามา ก็เดินไปหาทันที
“สวัสดีค่ะประธานอวี้!” เมื่อมาถึงตรงหน้า เหยาซือหย่าก็ทักทายอวี้หยูเฉิน ก่อนจะหันไปมองหลินฮ่าว
“พวกคุณคุยกันเถอะ ฉันขึ้นไปก่อนละกัน” อวี้หยูเฉินพยักหน้าเอ่ยอย่างเข้าอกเข้าใจ
พูดเสร็จ เธอก็หันตัวเดินไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล
“เป็นไงบ้าง สมัครงานผ่านไหม?” รอจนอวี้หยูเฉินเดินจากไป หลินฮ่าวก็ยิ้มถามพลางยื่นมือไปลูบผมนุ่มสลวยของเหยาซือหย่าอย่างอ่อนโยน
“อืม ผ่านแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเองก็เป็นพนักงานของเทียนหยูกรุ๊ปแล้ว!” เหยาซือหย่าเอ่ยอย่างภูมิใจเล็กน้อย
เพราะการที่สามารถเข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่อย่างเทียนหยูได้ แม้จะเป็นนักศึกษาดีเด่นที่จบจากมหาวิทยาลัยปินเจียงก็นับเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การภูมิใจเช่นกัน
หลังจากที่พูดคุยกับเหยาซือหย่าไปสักพัก เหยาซือหย่าก็เอ่ยว่า “จริงสิ หลินฮ่าว เราค่อยมาคุยกันอีกทีตอนค่ำเถอะ ฉันยังต้องทำงานอีกนะ เพิ่งเข้ามาก็ห้ามแอบอู้งาน เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี ถ้าเป็นแบบนั้นจะแย่เอาได้!”
หลินฮ่าวยิ้มเบาๆ ตอบว่า “เข้าใจแล้ว รีบไปเถอะ ตั้งใจทำงานนะ ฉันเชื่อในตัวเธอ!”
“อืม......” เหยาซือหย่าพยักหน้า กำลังใจจากหลินฮ่าวทำให้เธอมั่นใจขึ้นกว่าเดิม
เหยาซือหย่าจากไป หลินฮ่าวเองก็กำลังจะกลับไปยังห้องทำงานประธานบริษัท ทว่าทันใดนั้น กลับมีชายวัยกลางคนที่สวมชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินมา คนคนนั้นก็คือโจวฉวน
“หลินฮ่าว......” โจวฉวนหยุดอยู่ตรงหน้าหลินฮ่าวแล้วเรียกเขา
“อืม คุณหาผมเหรอ?” หลินฮ่าวเองก็หยุดฝีเท้า พลันเอ่ยถามโจวฉวน
“นายมากับฉันครู่หนึ่ง!” โจวฉวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อ้อ ได้ครับ!” หลินฮ่าวไม่ได้ว่าอะไร ดูจากท่าทางของโจวฉวน เขาก็รู้ ว่าโจวฉวนมีเรื่องงานจะพูดกับเขา เขาย่อมไม่มีความเห็นอะไร
“มีอะไรงั้นเหรอครับ?” ทั้งคู่มุ่งไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดิน หลินฮ่าวเดินไปพลางถามไปพลาง
“พวกลูกน้องบางคนไม่ยอมฟังคำสั่งสอน ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าหน่วย ก็ควรจะลงไปจัดการนี่จริงไหม?” โจวฉวนเอ่ยยิ้มๆ
“คุณหมายความว่ายังไง?” หลินฮ่าวขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะมองไปที่โจวฉวน
“ไม่ได้หมายความว่ายังไง ในสายตาคนอื่น นายขึ้นมาตำแหน่งนี้ได้เพราะประธานอวี้ แต่ฉันกลับเชื่อในสายตาของท่านประธาน ในเมื่อท่านกล้ายกตำแหน่งนี้ให้นาย นั่นก็พอจะบ่งบอกถึงความสามารถของนายแล้ว ตอนนี้ พวกลูกน้องต่างไม่พอใจในการมาเยือนของนาย ยิ่งไม่พอใจที่นายเป็นแค่เด็กใหม่ แต่ละคนกำลังหงุดหงิดโวยวายกันแล้ว เรื่องนี้ ฉันว่านายสามารถจัดการได้นี่ใช่ไหม?” โจวฉวนมองตอบหลินฮ่าวยิ้มๆ
หลินฮ่าวหรี่ตาเล็กน้อย มองโจวฉวนอย่างพินิจตั้งแต่หัวจรดเท้าครู่หนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าหมอนี่ไม่มีนัยแฝงในคำพูด ก็จึงจะยิ้มเบาๆ เอ่ยว่า “วางใจเถอะ ปล่อยให้ผมจัดการเอง นอกเหนือจากนี้ ช่วยอธิบายเนื้องานของหน่วยสามให้ผมฟังคร่าวๆด้วยครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!