เจ้าหน้าที่ทั้งสามคน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
จากบทสนทนาเมื่อกี้นี้ ผนวกกับฟังจากเสียงของผู้หญิงคนนั้นในสายโทรศัพท์ พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าคนในสายก็คืออวี้หยูเฉิน
“เอาล่ะ นายกลับบ้านได้ หรือจะไปหาหัวหน้าแผนกที่นายพูดก็ได้ ดูว่าเขาจะเก็บนายไว้ได้ไหม!” หลินฮ่าววางสาย ก่อนจะหันไปยิ้มเอ่ยกับเจ้าหน้าที่ที่พูดตอบเมื่อกี้นี้
สีหน้าของเจ้าหน้าที่คนนั้นพลันย่ำแย่ลงในทันที
สวัสดิการของเทียนหยูนั้นดีมากๆ แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา ทุกๆเดือนก็จะมีรายได้ถึงห้าหกพันหยวน สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในบริษัทอื่น นี่นับว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นแต่ไม่อาจหวังได้
เจ้าหน้าที่ของที่นี่ ต่างไม่มีใครต้องการจากไป เพราะถ้าออกไปจากที่นี่ แล้วอยากจะหางานรักษาความปลอดภัยที่มีรายได้เท่ากันนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
“หัว......หัวหน้า......” เจ้าหน้าที่คนนั้นรีบเอ่ยเรียกทันที
“ไสหัวไปซะ......”หลินฮ่าวตวาดเสียงต่ำอย่างไร้ความปราณี
เจ้าหน้าที่คนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ณ วินาทีนี้ บนตัวหลินฮ่าวเผยรังสีบางอย่างที่ไม่อาจขัดขืนได้ ทำให้คนไม่กล้าแม้แต่จะอ้อนวอนร้องขอ
เจ้าหน้าที่คนนั้นมองหลินฮ่าวด้วยแววตาที่ซ่อนความหวาดกลัว จนในที่สุด ก็ไม่อาจเอ่ยคำร้องขอออกมาได้
เขาก้มหน้า แล้วค่อยๆหันตัวเดินจากไปอย่างจนใจ
“นายสองคนล่ะ?” หลินฮ่าวหันไปมองเจ้าหน้าที่ที่เหลืออีกสองคน น้ำเสียงเย็นชาราบเรียบ ทว่ากลับแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนรู้สึกเข่าอ่อนเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลินฮ่าวยังไม่ปริปากพูดนั้นยังไม่มีอะไร ทว่าพอเอ่ยปาก ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าหลินฮ่าวเปรียบเสมือนเทพผู้สูงศักดิ์ ไม่อาจขัดใจเขาได้
“หัว......หัวหน้า......หัวหน้าหลิน......” ทั้งสองคนขานเรียกเสียงสั่นอย่างตะกุกตะกัก
“ให้เวลาพวกนายสามนาที ไปแจ้งให้ทุกคนมารวมตัวกัน บอกพวกเขา ว่าถ้ามีใครบังอาจไม่มา ก็เตรียมขนของแล้วไสหัวออกไปได้เลย!” หลินฮ่าวเอ่ยเสียงเย็นชา
“ครับๆๆ......” เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนจะกล้าพูดอะไรอีกล่ะ? แน่นอนว่าก็ทำได้แค่รีบพยักหน้าตอบรับ
แม้ไม่ใช่เพื่อรักษางานนี้เอาไว้ เพียงแค่รังสีกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวหลินฮ่าว พวกเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธแล้ว
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนเร่งฝีเท้าจากไป ทั้งติดต่อทางโทรศัพท์ ทั้งวิ่งวุ่นประกาศแจ้งอย่างรวดเร็ว
รังสีบนตัวหลินฮ่าวค่อยๆสลายหายไป ตอนที่หันกลับมามองโจวฉวนอีกครั้ง ก็เห็นใบหน้าของโจวฉวนมีเม็ดเหงื่อไหลรินลงมาหยดสองหยดโดยไม่รู้ตัว
“คุณเป็นคนมีความคิดดี อีกทั้งยังละเอียดรอบคอบ แต่คุณต้องจำไว้ ว่าคนที่จะทำการใหญ่ จะต้องมีมือที่แข็งแกร่ง” หลินฮ่าวหันไปมองโจวฉวนพลางเอ่ยเสียงเรียบ
เขารู้สึกถูกชะตากับโจฉีไม่น้อย แม้จะขาดความน่าเกรงขามไปหน่อย ทว่าในด้านความคิด กลับยังสามารถขัดเกลาอีกได้
หลังจากที่เข้ามาในเทียนหยู แม้ปากจะไม่พูดอะไร ทว่าปัญหาที่หลินฮ่าวพบเห็น กลับไม่ได้มีเพียงน้อยนิด
ในเมื่อเขารับตำแหน่งนี้แล้ว อีกทั้งอวี้หยูเฉินเองก็เชื่อมั่นในตัวเขา สำหรับเขาแล้วนี่ก็คือหน้าที่ เขาไม่เพียงแค่ต้องปกป้องอวี้หยูเฉิน แต่ยิ่งต้องปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ และถ้าจะทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ เขาก็ต้องการพลังบางส่วน ซึ่งพลังนี้เขาต้องเป็นคนปลูกสร้างมันขึ้นมาเอง และโจวฉวนก็คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด
“อืม......”โจวฉวนพยักหน้าตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!