บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! นิยาย บท 15

สรุปบท บทที่ 15 ไม่ใช่คนธรรมดา: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!

สรุปเนื้อหา บทที่ 15 ไม่ใช่คนธรรมดา – บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! โดย เทียนมาสิงคง

บท บทที่ 15 ไม่ใช่คนธรรมดา ของ บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เทียนมาสิงคง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เจ้าหน้าที่ทั้งสามคน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

จากบทสนทนาเมื่อกี้นี้ ผนวกกับฟังจากเสียงของผู้หญิงคนนั้นในสายโทรศัพท์ พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าคนในสายก็คืออวี้หยูเฉิน

“เอาล่ะ นายกลับบ้านได้ หรือจะไปหาหัวหน้าแผนกที่นายพูดก็ได้ ดูว่าเขาจะเก็บนายไว้ได้ไหม!” หลินฮ่าววางสาย ก่อนจะหันไปยิ้มเอ่ยกับเจ้าหน้าที่ที่พูดตอบเมื่อกี้นี้

สีหน้าของเจ้าหน้าที่คนนั้นพลันย่ำแย่ลงในทันที

สวัสดิการของเทียนหยูนั้นดีมากๆ แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา ทุกๆเดือนก็จะมีรายได้ถึงห้าหกพันหยวน สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในบริษัทอื่น นี่นับว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นแต่ไม่อาจหวังได้

เจ้าหน้าที่ของที่นี่ ต่างไม่มีใครต้องการจากไป เพราะถ้าออกไปจากที่นี่ แล้วอยากจะหางานรักษาความปลอดภัยที่มีรายได้เท่ากันนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

“หัว......หัวหน้า......” เจ้าหน้าที่คนนั้นรีบเอ่ยเรียกทันที

“ไสหัวไปซะ......”หลินฮ่าวตวาดเสียงต่ำอย่างไร้ความปราณี

เจ้าหน้าที่คนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ณ วินาทีนี้ บนตัวหลินฮ่าวเผยรังสีบางอย่างที่ไม่อาจขัดขืนได้ ทำให้คนไม่กล้าแม้แต่จะอ้อนวอนร้องขอ

เจ้าหน้าที่คนนั้นมองหลินฮ่าวด้วยแววตาที่ซ่อนความหวาดกลัว จนในที่สุด ก็ไม่อาจเอ่ยคำร้องขอออกมาได้

เขาก้มหน้า แล้วค่อยๆหันตัวเดินจากไปอย่างจนใจ

“นายสองคนล่ะ?” หลินฮ่าวหันไปมองเจ้าหน้าที่ที่เหลืออีกสองคน น้ำเสียงเย็นชาราบเรียบ ทว่ากลับแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม

เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนรู้สึกเข่าอ่อนเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลินฮ่าวยังไม่ปริปากพูดนั้นยังไม่มีอะไร ทว่าพอเอ่ยปาก ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าหลินฮ่าวเปรียบเสมือนเทพผู้สูงศักดิ์ ไม่อาจขัดใจเขาได้

“หัว......หัวหน้า......หัวหน้าหลิน......” ทั้งสองคนขานเรียกเสียงสั่นอย่างตะกุกตะกัก

“ให้เวลาพวกนายสามนาที ไปแจ้งให้ทุกคนมารวมตัวกัน บอกพวกเขา ว่าถ้ามีใครบังอาจไม่มา ก็เตรียมขนของแล้วไสหัวออกไปได้เลย!” หลินฮ่าวเอ่ยเสียงเย็นชา

“ครับๆๆ......” เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนจะกล้าพูดอะไรอีกล่ะ? แน่นอนว่าก็ทำได้แค่รีบพยักหน้าตอบรับ

แม้ไม่ใช่เพื่อรักษางานนี้เอาไว้ เพียงแค่รังสีกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวหลินฮ่าว พวกเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธแล้ว

เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนเร่งฝีเท้าจากไป ทั้งติดต่อทางโทรศัพท์ ทั้งวิ่งวุ่นประกาศแจ้งอย่างรวดเร็ว

รังสีบนตัวหลินฮ่าวค่อยๆสลายหายไป ตอนที่หันกลับมามองโจวฉวนอีกครั้ง ก็เห็นใบหน้าของโจวฉวนมีเม็ดเหงื่อไหลรินลงมาหยดสองหยดโดยไม่รู้ตัว

“คุณเป็นคนมีความคิดดี อีกทั้งยังละเอียดรอบคอบ แต่คุณต้องจำไว้ ว่าคนที่จะทำการใหญ่ จะต้องมีมือที่แข็งแกร่ง” หลินฮ่าวหันไปมองโจวฉวนพลางเอ่ยเสียงเรียบ

เขารู้สึกถูกชะตากับโจฉีไม่น้อย แม้จะขาดความน่าเกรงขามไปหน่อย ทว่าในด้านความคิด กลับยังสามารถขัดเกลาอีกได้

หลังจากที่เข้ามาในเทียนหยู แม้ปากจะไม่พูดอะไร ทว่าปัญหาที่หลินฮ่าวพบเห็น กลับไม่ได้มีเพียงน้อยนิด

ในเมื่อเขารับตำแหน่งนี้แล้ว อีกทั้งอวี้หยูเฉินเองก็เชื่อมั่นในตัวเขา สำหรับเขาแล้วนี่ก็คือหน้าที่ เขาไม่เพียงแค่ต้องปกป้องอวี้หยูเฉิน แต่ยิ่งต้องปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ และถ้าจะทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ เขาก็ต้องการพลังบางส่วน ซึ่งพลังนี้เขาต้องเป็นคนปลูกสร้างมันขึ้นมาเอง และโจวฉวนก็คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด

“อืม......”โจวฉวนพยักหน้าตอบ

แต่ทำไมตอนนี้พอมาเห็นแล้ว กลับธรรมดาขนาดนี้ได้?

รังสีแข็งแกร่งอะไรกัน? ก็เป็นแค่ไอ้เอ๋อที่ใช้สถานะตัวเองมาอวดเบ่งอำนาจก็เท่านั้น!

พวกฉันยังไม่คิดจะฟังนาย นายมีสิทธิ์อะไรให้ใครสักคนมาเป็นตัวแทน แล้วเราก็ต้องทำตามกัน? ไอ้เอ๋อนี่ จะเอ๋อไปจนถึงขั้นไหนกันแน่?

พอไม่รู้สึกถึงรังสีกดดันบนตัวหลินฮ่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็อดมองไปยังเจ้าที่สองคนที่ไปแจ้งข่าวเมื่อกี้นี้ไม่ได้

จนท้ายที่สุด จู่ ๆก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก้าวออกมา เอ่ยว่า “หัวหน้าหลิน พวกผมยังอยู่ในระหว่างทำงานกันอยู่เลย? คุณเรียกพวกผมมารวมตัวกันทั้งหมด คงไม่ใช่เพื่อจะมาพูดอะไรที่ไร้ประโยชน์แบบนี้หรอกใช่ไหม? นี่ถ้าการทำงานเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา คุณเป็นคนรับผิดชอบ หรือรองหัวหน้าโจวเป็นคนรับผิดชอบ? หรือพวกผมเป็นคนรับผิดชอบกันล่ะ?”

หลินฮ่าวหรี่ตาลงเล็กน้อย โจวฉวนที่ยืนฟังอยู่ข้างๆพลันแค่นเสียงเย็นทันที

“เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พวกนายสอดรู้ได้หรือไง? เอาล่ะ ตอนนี้นายไปขนของไสหัวไปได้แล้ว!” เดิมทีโจวฉวนก็เคยเป็นทหารมาก่อน ปกติตอนที่ยังเป็นกันเองนั้นยังดี ทว่าพองัดวิธีเด็ดขาดออกมาแล้ว ก็สัมผัสได้ถึงรังสีของความเป็นทหารจริงๆด้วย คำพูดท่าทางนั่น ไม่อาจขัดขืนตอบโต้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“โจวฉวน แกหมายความว่ายังไง? แค่เคารพแกนิดหนึ่ง เรียกแกว่ารองหัวหน้าก็จะเหิมเกริมยังไงก็ได้งั้นเหรอ? ถ้าไม่เคารพแก แกก็เป็นแค่คนง่อยเท่านั้น แกคิดว่าแกมีสิทธิ์อะไรมาไล่คนอื่นออกแบบนี้? แกคือหัวหน้าแผนก หรือรองหัวหน้าแผนกหรือไง? แกมีสิทธิ์อะไรกันแน่?”

เจ้าหน้าที่คนนั้นได้ยินน้ำเสียงแข็งกร้าวของโจวฉวนแล้วก็พลันโมโหทันที

แกเคยเป็นทหารมาก่อน มีใครบ้างที่ไม่เคยเป็นทหาร อย่าลืมซะล่ะ ว่าที่นี่ไม่ใช่ค่ายทหาร ทุกคนก็เป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดา แกมาทำตัวเป็นผู้บังคับบัญชาขู่ใครกัน?

“ไสหัวออกไป......” โจวฉวนเลียนแบบหลินฮ่าว สั่งไล่ออกอย่างไม่เกรงใจ

“โจวฉวน อย่ามากไปหน่อยเลย!” เจ้าหมอนั่นโกรธเกรี้ยว พลันกำหมัดตั้งท่าต่อสู้ทันที ก่อนจะแค่นเสียงเย็น เอ่ยว่า “ไอ้ง่อยแบบแก มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออก? ทุกคนที่นี่ก็เคยเป็นทหารมาก่อนทั้งนั้น แกเหยียดหยามฉัน แน่จริงก็มาสู้กับฉันสิวะ!”

“กรอด......” โจวฉวนได้ยินดังนั้น ก็กำหมัดทันที เสียงกระดูกกรอบแกรบพลันดังขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!