บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! นิยาย บท 59

อวี้หยูเฉินพยักหน้าเมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลินฮ่าว เธอรู้ว่าเมื่อก่อนคนในแผนกรักษาความปลอดภัยเป็นคนของหงห่าวฟาน

เห็นได้ชัดว่าเหตุผลที่หงห่าวฟานสามารถรู้การเคลื่อนไหวของเธอ และสามารถลักพาตัวอวี้หยูเฉิน ได้อย่างง่ายได้จากภายในเทียนหยูกรุ๊ปในครั้งนี้นั้น ก็เป็นเพราะในเทียนหยูกรุ๊ปมีคนของหงห่าวฟาน

ตอนนี้หงห่าวฟานและลูกชายของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่มีภัยคุกคามต่ออวี้หยูเฉินในตอนนี้ แต่ถ้าเกิดวิกฤติใดๆขึ้น คนเหล่านี้จะเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุด

ความคิดของหลินฮ่าวนั้นถูกต้อง เราควรต้องจัดการกับแผนกรักษาความปลอดภัยก่อน กำจัดคนที่ไม่ได้ทำเพื่อบริษัทออกให้หมด บริษัทถึงจะสามารถพัฒนาได้อย่างราบรื่น

แล้วมีความคิดบางอย่างโผล่ขึ้นในใจของอวี้หยูเฉิน แต่ความคิดนี้ยังคงต้องปรึกษากับหลินฮ่าวก่อน

“หลินฮ่าว เดี๋ยวก่อน!” อวี้หยูเฉินตะโกน

หลินฮ่าวหยุดและหันไปมองอวี้หยูเฉิน “มีอะไร?”

“ฉันอยากให้นายเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย” อวี้หยูเฉินมองไปที่หลินฮ่าวและกล่าวขึ้น

หลินฮ่าวเข้าใจความคิดของอวี้หยูเฉินทันที หากเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย เขาก็จะสามารถจัดการกับแผนกรักษาความปลอดภัยได้อย่างสมเหตุสมผล

ข้อที่สอง อวี้หยูเฉินต้องการผูกมัดหลินฮ่าวไว้ในกับเทียนหยูกรุ๊ปจริงๆ ไม่ต้องการปล่อยให้หลินฮ่าวจากไป

หลินฮ่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังไงก็ไม่มีอันตรายใดๆจึงพยักหน้าทันที “ตกลง!”

“ฉันจะประกาศหน้าที่ของนายในตอนนี้ แล้วให้เสี่ยวเยว่ติดตามนายไป” อวี้หยูเฉินพูดกับหลินฮ่าว แล้วหลินฮ่าวก็พยักหน้า ไม่ว่าใครจะไปด้วยก็ไม่สำคัญ

ในไม่ช้าหลินฮ่าวและเสี่ยวเยว่ก็มาถึงแผนกความปลอดภัย เสี่ยวเยว่เรียกตัวบุคลากรที่อยู่เหนือระดับรองแผนกรักษาความปลอดภัย หลังจากพบบุคลากรทั้งหมดแล้ว เสี่ยวเยว่ได้ประกาศแต่งตั้งหลินฮ่าวเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย

ในเวลานี้มันเหมือนกับหยดน้ำที่ตกลงไปในกระทะน้ำมัน จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงในทันที

“หงห่าวฟานตายแล้ว เจ้านี่ได้เป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย?” หัวหน้าแผนกต่างๆที่คิดว่าอยู่มานานแล้ว ได้มองมาที่หลินฮ่าวแล้วแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ

“เขาหลินฮ่าวที่พึ่งเข้าทำงานในบริษัท และไม่มีผลงานอะไรเลย ทำไมเขาถึงได้เป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยได้ล่ะ” ทันใดนั้นก็มีใครบางคนเริ่มคัดค้านต่อหลินฮ่าวทันที คนที่พูดแบบนี้ชื่อเจิงฉี เรียกได้ว่าเป็นคนมีประสบการณ์ค่อนข้างมากแล้ว

“ใช่แล้ว ไม่ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาเลย” ใครบางคนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ใบหน้าของเสี่ยวเยว่มืดมนทันที แล้วจ้องมองไปที่คนเหล่านี้ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น: “แม้แต่คำสั่งของประธานอวี้พวกคุณก็ไม่ฟังเหรอ”

ข้อมูลในการตรวจสอบของโจวฉวนได้แสดงทุกอย่างไว้แล้ว เจิงฉีเคยใช้ตำแหน่งหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยทำเงินเป็นจำนวนมาก และที่อวี้หยูเฉินถูกลักพาตัวในคราวนี้ ก็เป็นฝีมือของชายคนนี้เช่นกัน

“อะไรนะ ไล่ฉันออก? นายที่พึ่งถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนก จะมาไล่ฉันออกเนี่ยนะ” เจิงฉีไม่กลัวหลินฮ่าวเลย แล้วนั่งบนที่นั่งของเขาอย่างไม่เกรงกลัว

ส่วนคนอื่นๆก็ทำท่าเหมือนกำลังดูการแสดงอยู่ พวกเขาทั้งหมดต้องการดูว่าหลินฮ่าวมีวิธีอย่างไร

หลินฮ่าวเหลือบมองคนเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม “ทำไม? ยังไม่อยากจากไปเหรอ?”

“พ่อหนุ่ม เมื่อเทียนหยูกรุ๊ปก่อตั้งขึ้น ฉันก็เป็นสมาชิกของแผนกรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำผลงานอะไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ฉันก็ทำงานอย่างหนักเช่นกัน แล้วนายยังอยากจะไล่ฉันออกตรงๆ?” เจิงฉีทำหน้าเหน็บแนมและดูหมิ่น แล้วมองไปที่หลินฮ่าวและ หัวเราะเยาะในความไม่เจียมตัวของเขาที่กล้ามาต่อกรกับตัวเอง

“ลากออกไปเลย!” หลินฮ่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

โจวฉวนพาลูกน้องจะจับเขา เจิงฉีก็ตบโต๊ะและพูดด้วยความโกรธเคืองว่า: “ดูว่าใครกล้า! โจวฉวน ทางที่ดีนายที่มีฝีมือแค่นี้อย่าเข้ามาเลยจะดีกว่า มิฉะนั้นมันจะไม่ดีถ้านายเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดของเจิงฉี ทุกคนก็หัวเราะออกมา เพราะฝีมือของเจิงฉีนั้นแข็งแกร่งมาก แน่นอนว่าเขาก็แย่กว่าหงห่าวฟานเพียงเล็กน้อย ดังนั้นโจวฉวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย