ตอน บทที่ 94 ไม่ได้แพ้อย่างสูญเปล่า จาก บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 94 ไม่ได้แพ้อย่างสูญเปล่า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง! ที่เขียนโดย เทียนมาสิงคง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“เอาล่ะ ตอนนี้พวกนายบอกฉันได้แล้ว ว่าใครกันแน่ที่ส่งพวกนายมาฆ่าฉัน” หลินฮ่าวเอ่ยเสียงเรียบ
“อย่าคิดว่าเอาชนะฉันได้แล้ว ก็จะล้วงความลับอะไรได้ ชื่อของนายจ้างต้องถูกเก็บเป็นความลับ” เสว่อิงเอ่ยอย่างเยือกเย็น
หลินฮ่าวผุดยิ้มมุมปาก ยิ้มเอ่ยว่า “เก็บเป็นความลับงั้นเหรอ ฉันว่าพวกนายน่าจะเป็นนักฆ่าขององค์กรเสว่หวินสินะ นายว่าถ้าฉันขจัดองค์กรพวกนายทิ้ง ฉันจะสามารถหาข้อมูลมาได้ไหม?”
“ขจัดองค์กรพวกเรางั้นเหรอ แกคิดมากไปแล้ว!” เสว่จือเอ่ยอย่างดุแคลน เสว่อิงเองก็เหยียดยิ้มเสียดสี
หลินฮ่าวดูแล้วแข็งแกร่งมาก ทว่าเสว่หวินคือองค์กรอะไร นั่นคือองค์กรนักฆ่าอันดับห้าของโลกเชียวนะ จะขจัดองค์กรแบบนี้ด้วยตัวคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เพ้อฝันชะมัด
“บางที ถ้าพวกนายได้เห็นของสิ่งหนึ่งแล้วจะเข้าใจ” หลินฮ่าวเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะเผยบางอย่างบนแขนตัวเอง
อีกฝ่ายเห็นรอยสักบนแขนหลินฮ่าวก็พลันอึ้งชะงัก ก่อนจะชี้ไปที่หลินฮ่าว เอ่ยว่า “นาย นาย นายคือ......”
“พวกเราไม่ได้แพ้อย่างสูญเปล่า!” ทั้งสองคนถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าเป้าหมายในครั้งนี้จะเป็นบุคคลในตำนาน ถึงแพ้ก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หลินฮ่าวพูดถูก ตราบใดที่เขาต้องการขจัดองค์กร แม้เสว่หวินจะเก่งกาจขนาดไหน ทว่าก็ไม่อาจต้านทานพวกของหลินฮ่าวได้เลยด้วยซ้ำ
“ตอนนี้บอกฉันได้หรือยัง?” หลินฮ่าวถามอย่างราบเรียบ
“ฉันรู้สึกอนาถใจแทนคนคนนั้นที่มาหาเรื่องนายจริงๆ เกรงว่าตอนนี้เขาก็คงยังไม่รู้ว่าตัวเองมีเรื่องบาดหมางกับใคร” เสว่อิงเอ่ยเสียงขรึม
“นายจ้างคือฮุนหยู เขาจ่ายสามพันล้านเพื่อเอาหัวนาย ดังนั้นพวกฉันก็เลยรับภารกิจนี้ เสว่จือเองก็มากับฉัน” เสว่อิงเอ่ย
“สามพันล้าน ฉันมีค่าแค่สามพันล้านได้ยังไงกัน นี่มันดูถูกฉันเกินไปแล้วหรือเปล่า” หลินฮ่าวเอ่ยอย่างไม่พอใจ
ทั้งสองคนกลอกตาบน นี่มันเป็นคนยังไงกัน ตอนนี้ยังมาคิดเรื่องค่าตัวตัวเองอีก น่าหมั่นไส้เกินไปแล้ว ทว่าทั้งคู่เองก็รู้ว่าคนตรงหน้านี้คือใคร ฐานะของเขา ประเมินค่าได้ยากมากจริงๆ
“เอาล่ะ เรื่องที่ฉันอยากรู้พวกนายก็บอกฉันแล้ว ถึงเวลาที่พวกนายต้องลาโลกแล้วล่ะ” หลินฮ่าวเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ
ทั้งคู่สบตากันครู่หนึ่ง แม้ตั้งแต่ที่เริ่มเหยียบเข้ามาในวงการนี้ ก็รู้แล้วว่าสักวันหนึ่งพวกเขาก็ย่อมต้องมีวันที่พ่ายแพ้ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าความพ่ายแพ้จะมาถึงเร็วขนาดนี้
“จะฆ่าก็ฆ่าซะ ไม่ต้องยืดเยื้อ!” เสว่อิงเอ่ยเสียงขรึม
หลินฮ่าวถือกริชเอาไว้ ก่อนจะแทงไปยังหัวใจของเสว่อิง เสว่อิงหลับตาลงด้วยสีหน้านิ่งเฉย เสว่จือที่อยู่ข้างๆเองก็หลับตาลงเช่นกัน
ทว่าผ่านไปหลายนาที ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้สึกอะไรสักที ลืมตาขึ้นก็เห็นหลินฮ่าวนั่งอยู่ตรงหน้ากำลังมองดูพวกเขา
“ฉันคิดมาสักพัก ฉันตัดสินใจจะให้โอกาสกับพวกนายสักครั้ง ถือว่าช่วยชีวิตพวกนายด้วย พวกนายจะเอาไหม?” หลินฮ่าวถามเสียงเรียบ
ทั้งคู่ได้ยินว่ายังมีชีวิตต่อไปได้ ดวงตาพลันเผยประกายแห่งความหวัง จ้องมองหลินฮ่าวอย่างไม่อยากเชื่อ
เสี่ยวญามาสัมภาษณ์งานที่บริษัท อีกนิดก็จะไม่ทันแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจู่ ๆจะโดนชนได้ เอกสารร่วงหล่นกระจัดกระจายบนพื้น สัมภาษณ์งานครั้งนี้คงจะหลุดมือไปแล้ว นึกมาถึงตรงนี้เสี่ยวญาก็รู้สึกเสียใจ
“คุณ......”
ทั้งคู่สบตากัน พลันอึ้งชะงัก คิดไม่ถึงว่าพวกเขาต่างรู้จักกับอีกฝ่าย
“ขอโทษครับ!” หลินฮ่าวขอโทษอย่างจริงใจ
“เป็นความผิดฉันเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันวิ่งเร็วเกินไป ก็คงไม่ชนโดนคุณ” เสี่ยวญาส่ายหน้าเอ่ยกับหลินฮ่าว
“คุณกำลังจะไปสัมภาษณ์งานงั้นเหรอ?” หลินฮ่าวช่วยเสี่ยวญาเก็บเอกสาร พอเห็นข้อมูลบนกระดาษ ก็พลันถามเสี่ยวญา
“อืม ฉันมาสัมภาษณ์งานน่ะ ทั้งที่จะได้เข้าบริษัทนี้แล้วแล้วแท้ๆ แต่ตอนเช้าเจอรถติด เลยเสียเวลาไปมาก ตอนนี้ก็ไม่ทันเวลาสัมภาษณ์แล้ว” เสี่ยวญาเผยแววตาหม่นหมอง
สวัสดิการของบริษัทนี้ดีมากๆ เป็นบริษัทที่เสี่ยวญาอยากเข้ามาทำงานโดยตลอด ตอนนี้เสียโอกาสนี้ไป ในใจก็ย่อมต้องรู้สึกเสียใจ
หลินฮ่าวเองก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ที่เป็นตัวถ่วงในการทำงานของผู้หญิงคนหนึ่ง
“ให้ผมช่วยคุณไหมครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บอดี้การ์ดเนื้อหอม ออกโรง!