Bad Love มาเฟีย นิยาย บท 68

@หนึ่งเดือนต่อมา

#งานแต่งสุดหรูในโรงแรมห้าดาว

เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเดินเคียงคู่กันมาในชุดสีขาวสวยงามสง่า แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือรัวๆ ให้จนเกิดเสียงดังขึ้นชั่วขณะ

ทั้งสองสวยและหล่อเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ลูกฝาแฝดทั้งสองก็ใส่ชุดไทยชายหญิงน่ารักสมวัย

"คนเยอะจังเลยคุณ ไหนบอกว่าคนไม่เยอะไง" หญิงสาวกระซิบถามคนข้างๆ เพราะเข้าใจว่างานแต่งจัดเป็นงานเล็กๆ เชิญแขกเหรื่อมาไม่กี่คน

แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ และแต่ละคนก็เป็นนักธุรกิจระดับแนวหน้าทั้งนั้น

"นี่แค่คนรู้จักที่สนิทกันนะ พ่อผมแค่จัดให้เบาะๆ ไม่ใหญ่โตมาก"

"นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าไม่ใหญ่โต" มายบ่นพึมพำ สำหรับพวกเขาอาจจะไม่ใหญ่โตอะไร สำหรับเธอมันใหญ่โตมาก คนมาร่วมงานแต่งนี้เยอะมากๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่คนทางนั้น

"ลูกชายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แต่งงานทั้งทีก็ต้องให้สมฐานะหน่อยสิ จะให้น้อยหน้าคนอื่นได้ยังไง" เวคินบอก ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับแขกที่มาร่วมงาน

ก็นั่นน่ะสินะ ลูกชายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะแต่งงานทั้งทีก็ต้องจัดให้สมฐานะหน่อยสิ ไหนจะเปิดตัวหลานฝาแฝดอีก งานนี้พ่อของเวคินจัดหนักจัดเต็มเลย

มายเคยเห็นแต่ในทีวีกับการจัดงานแต่งแบบนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ เธอไม่ได้มีความคิดเลยว่าจะต้องได้แต่งงานมีครอบครัวดีๆ แค่ชีวิตนี้ได้เป็นแม่ที่ดีคอยเลี้ยงดูลูกๆ จนพวกแกได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพแค่นี้ก็มากพอสำหรับคนอย่างเธอแล้ว

มายเธอก็ไม่ได้มีญาติหลงเหลืออยู่ที่ไหน มีเพียงพี่ชายคนเดียวเท่านั้นที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอ

@เวลาต่อมา

งานแต่งดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งถึงตอนที่พิธีกรเชิญทั้งสองขึ้นไปกล่าวคำพูดบนเวที เวคินไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมายเพราะเขาเองก็เข้าสังคมเจอคนเยอะแยะมากมายแบบนี้อยู่แล้ว

แต่กับมายเธอตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นจนมือเย็นเฉียบไปหมด เพราะเธอไม่เคยเข้าสังคมไม่เคยเจอคนเยอะๆ แบบนี้เลย และเธอก็ไม่เคยอยู่ตรงไหนแล้วเป็นจุดเด่นได้มากขนาดนี้

"กลัวเหรอ?"

"ไม่ได้กลัวค่ะ ฉันแค่ตื่นเต้น" เธอบอกไปตามตรง พร้อมกับปั้นหน้ายิ้มให้กับเขา

ไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นวันไม่ดีสำหรับเธอ แต่เพราะเธอตื่นเต้นมาก จนเวลายิ้มก็ต้องฝืนเอา

"ไปเถอะไม่ต้องกลัวหรอก วันนี้เป็นวันดีของเรานะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นไม่มีใครว่าอะไรคุณหรอก"

"..."

ก็ถ้าพ่อของเวคินอนุมัติแล้วก็ไม่มีใครกล้าพูดกล้าทำอะไรทั้งนั้น ทุกคนที่มาก็ล้วนแต่เป็นนักธุรกิจที่ทำงานร่วมกัน และทุกคนก็เกรงใจพ่อของเวคินมาก

เวคินจับมือเจ้าสาวของเขาแล้วพาเธอเดินขึ้นไปบนเวที ก่อนจะมีเสียงปรบมือดังขึ้นรัวๆ ต้อนรับคู่บ่าวสาว

"เอ่อ...ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดมากหรอกนะครับ เอาเป็นว่าเราสองคนผ่านอะไรด้วยกันมามาก ผิดใจกันบ้างทะเลาะกันบ้างดีกันบ้างเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ครับ มันต้องมีสีสันแต่งเติมกันบ้างจะได้ไม่จืดชืดจนน่าเบื่อมากเกินไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็...คงจะอีกไม่นานครับ ที่ทุกคนจะได้เจอหน้าหลานคนที่สามเร็วๆ นี้ แหะๆ ผมกำลังเร่งปั๊มทายาทให้กับพ่ออยู่ครับ" เวคินพูดจบก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย ส่วนมายก็ยืนหน้าแดงเพราะอายมากๆ

"เจ้าสาวล่ะครับพูดอะไรสักหน่อยมั้ย"

"..." เธอส่ายหัวรัวๆ เพราะไม่กล้าพูด พร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ แก้เขิน

"อ่าไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าเจ้าบ่าวพูดคนเดียวก็พอครับ เจ้าสาวของเราคงอายเพราะวันนี้คนเยอะมากๆ เลย" พิธีกรพูดแซว

"เชิญทุกท่านตามสบายเลยนะครับ ผมขอตัวก่อน"

เวคินพาเจ้าสาวเดินลงมาจากเวที ก่อนจะพากันไปเปลี่ยนชุดในห้องของโรงแรม

เพื่อให้เธอสบายใจและคลายความกดดัน เขาจึงพาเธอมาอยู่ในห้องนอนก่อนแทน

"เป็นไงบ้าง หายตื่นเต้นหรือยัง"

"ไม่รู้สิ ฉันบอกไม่ถูกเหมือนกัน นี่ฉันเกิดมาอายุจะ 30 แล้วนะ งานแต่งของฉันมีคนมาเยอะขนาดนี้ แถมยังมีนักข่าวด้วย ไม่คิดไม่ฝันเลย"

"ที่คุณตื่นเต้นเพราะแบบนี้สินะ"

"อื้อ...มันแปลกไหมอ่ะ?"

"ไม่หรอก งานแต่งของตัวเองใครๆ ก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา"

"คุณไม่ตื่นเต้นบ้างเหรอ หรือว่าคุณเคยแต่งงานมาแล้วก็เลยไม่ตื่นเต้น"

"ไม่หรอก ผมเข้าสังคมบ่อยเจอคนเยอะแยะแบบนี้มาก็มาก แค่นี้ไม่ทำให้ผมตื่นเต้นขนาดนั้นหรอก"

"อ๋อ.." เธอไม่อยากถามอะไรต่อ ไม่อยากให้มันเสียฤกษ์วันพิธีมงคลในวันนี้ของเธอ เรื่องเก่าๆ ไม่อยากรื้อฟื้นขึ้นมาให้ต้องรู้สึกไม่ดีอีก ตอนนี้ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง ต่างคนต่างมีครอบครัว แค่ไม่ยุ่งต่อกันไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น อะไรปล่อยวางได้ก็ปล่อยวางแค่นั้นก็เป็นพอ

"คุณจะออกไปในงานอีกหรือเปล่า"

"คนยังเยอะอยู่เลยนะ ว่าแต่ลูกๆ ล่ะอยู่ไหนกัน"

"ก็คงจะอยู่ในงานแหละ พ่อก็คงจะจูงมือหลานๆ ไปแนะนำให้คนอื่นรู้จักนั่นแหละ"

"นี่ลูกของฉัน..."

"ไม่สิ ไม่ใช่ลูกของคุณ ลูกของเราสองคนต่างหาก"

"..." เธอยิ้มหวานเมื่อเขาแก้ไขคำพูดของเธอให้

จนถึงตอนนี้เธอก็ยังติดใช้คำคำนั้นอยู่ คำว่าลูกของฉัน

"เราแต่งงานกันแล้ว เด็กๆ ก็เป็นลูกของผมทั้งทางสายเลือดและก็ทางกฎหมาย"

"..."

"เหนื่อยหรือเปล่า"

"เหนื่อยอะไรคะ วันนี้ฉันยังไม่ได้หยิบจับทำอะไรสักอย่างเลยนะคะ ตื่นมาก็มีช่างแต่งหน้ามาคอยแต่งหน้าให้แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลย"

"เมื่อไหร่เราจะมีลูกคนที่ 3 สักที"

"ทำไมคุณเร่งรีบจังเลยคะ"

"ดูอายุของเราสิ กว่าลูกจะโต กว่าเราสองคนจะได้อุ้มหลาน ก็คงจะแก่หงำเหงือกกันแล้ว"

"อะไรจะขนาดนั้นคะ มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ" เธอหัวเราะใส่เขา

"ผมพูดจริงๆ นะ"

"เวอร์ไปละ"

"หลังจากเราแต่งงานกัน เราสองคนก็มีลูกกันอีกสัก 2-3 คน ลูกๆ โตแล้วเราก็จะได้ซื้อบ้านสักหลัง เอาไว้อยู่ด้วยกันตอนบั้นปลายชีวิต"

"ฉันผ่าคลอดหมอเคยบอกเอาไว้ว่าไม่สามารถมีลูกติดกันได้ และก็ไม่สามารถมีลูกเยอะได้"

"งั้นก็อีกสองคนพอเนาะ"

"ก่อนจะพูดน่ะ ดูน้ำยาตัวเองก่อนว่าดีหรือเปล่า"

"ดีอยู่แล้วล่ะ คอยดูก็แล้วกัน"

"..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Bad Love มาเฟีย