บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 114

เมื่อกล่าวถึงตอนที่หลีฉือยังเล็กนั้น เพราะว่าหน้าตาหล่อเหลาเอาการ ถูกหญิงอัปลักษณ์ลวนลามมาก่อน ยังถูกบังคับให้ทำเรื่องที่ไม่อาจพรรณนาออกมาได้อีก

ดังนั้นสิ่งที่นางรังเกียจที่สุดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรก็คือผู้หญิงที่หน้าตาอัปลักษณ์ ในสำนักหากมีผู้ที่หน้าตาอัปลักษณ์ไม่นานนักก็จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พอตอนที่หาพบหน้าตาของศพก็ดูไม่ออกแล้วว่าเป็นใครกันแน่

ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเป็นฝีมือของหลีฉือ แต่ทางสำนักก็ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง ไม่มีใครไปเค้นหาความจริง

พอระยะเวลาผ่านมานานและนานมาก คนภายนอกต่างก็รู้ข่าวลือเรื่องนี้ ศิษย์ผู้หญิงที่หน้าตาอัปลักษณ์พวกนั้นก็ไม่กล้ามาลงชื่อสมัครยังสำนักเมฆแดงอีกเช่นกัน

เย่เจียหรงก็กำลังอยากจะรู้ถึงจุดนี้เช่นกัน จึงจงใจให้ หลีฉือได้รู้ มีเพียงเย่จายซิงที่ติดต่อกับอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดผู้ลึกลับ รอตอนที่เขาเห็นเย่จายซิง ก็จะต้องถูกความอัปลักษณ์ของนางไปกระตุ้นปมในตอนเด็ก หลังจากนั้นก็ฆ่าเย่จายซิงทิ้งภายใต้อารมณ์โกรธ

ศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้ของนาง หากพูดถึงเรื่องกลั่นยาแล้ว เขาชอบกลั่นพิษมากยิ่งกว่า เพียงแค่เขาแอบวางยาพิษเย่จายซิงอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่องครักษ์ลับผู้นั้นก็ไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน

“น้องสี่ผู้นั้นของเจ้านางอยู่ที่ไหน ข้าจะไปถามนางให้ชัดเจนไปเลย!”

หลีฉือร้อนใจจนแทบทนไม่ได้

อาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดที่สามารถกลั่นยานิพพานออกมาได้นั้น ต่างก็เป็นผู้สูงส่งแห่งแผ่นดินเทียนเหย้าทั้งแผ่นดินเป็นแน่ หากเขาสามารถคารวะขอเป็นศิษย์ได้นั้น ความสามารถในการกลั่นยาก็จะพุ่งทะยานไปถึงขีดสุดเป็นแน่

เขากำลังกลัดกลุ้มกับความสามารถในการกลั่นยาเข้าไปในขวด

“ศิษย์พี่ใหญ่ท่านอย่างใจร้อนไป ท่านไม่ใช่แปลกใจว่าพิษที่อยู่บนร่างของข้าคือพิษอะไรหรือ? ท่านช่วยดูให้ข้าก่อนเถอะ”

ขณะที่พูดอยู่ เย่เจียหรงก็ยื่นมือออกมา

หัวคิ้วของหลีฉือขมวดขึ้นมา แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาวางไว้บนข้อมือนางหนึ่งผืนแล้วก็จับชีพจรให้นาง

การจับชีพจรของผู้ฝึกตนไม่เหมือนกับการจับชีพจรของคนธรรมดาทั่วไป ผู้ฝึกตนจะใช้จิตสำนึกทะลวงเข้าไปยังภายในร่างกายแล้วตรวจหาสภาวะต่างๆ

หลีฉือจับชีพจรอยู่คิ้วก็ยิ่งขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น ต่อมาจู่ๆ ก็ปรากฏเป็นรอยยิ้มออกมาอีก

“ศิษย์พี่ใหญ่ เป็นอย่างไรบ้าง สามารถถอนได้ไหม?”

เย่เจียหรงมองเห็นเขายิ้ม ในใจก็อดไม่ได้ท่่จะผ่อนคลายขึ้นมา

ผลลัพธ์กลับบอกว่า “ถอนได้ไม่ง่ายเลย ช่างน่าตลกสิ้นดี ข้าอยู่มาจนปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยพบเจอพิษที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนเลย เจ้าหยดเลือดเอาไว้สักหน่อย ข้าจะกลับไปศึกษาดูก่อน”

นางประหลาดใจ “แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ยัวถอนไม่ไเฝด้เหรอ?”

นี่มันช่างเหนือความคาดหมายของนางจริงๆ นางเชื่ออย่างเต็มร้อยว่าเมื่อศิษย์พี่ใหญ่มา พิษที่อยู่บนตัวของนางก็จะสามารถถอนได้ ใครจะไปคาดคิดว่ามันจะไม่ได้!

นางทนทรมานจากความเจ็บปวดมาแล้วสามวัน ไม่อยากจะเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว!

หลีฉือกล่าวว่า “ข้าถอนพิษนี้ได้แน่นอน เพียงแต่จะต้องใช้เวลสักหน่อย ตอนนี้ข้าสนใจในอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดผู้ลึกลับท่านนั้นมากกว่า เจ้ารีบพาข้าไปพบน้องสี่ของเจ้าเลย”

เย่เจียหรงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “งั้นข้าพาศิษย์พี่ใหญ่ไปก็ได้”

นางจะอาศัยจังหวะที่เย่จายซิงยังไม่ตายแล้วหยิบเอายาถอนพิษมาให้ได้

“เพียงแต่ข้างกายน้องสี่ของข้านั้นมีองครักษ์ลับแดนมหาจักรพรรดิทิพย์อยู่ผู้หนึ่งที่ร้ายกาจมากเป็นพิเศษ ไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้น้องสี่ของข้า ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านจะต้องระวังหน่อยนะ”

“ใครกล้าขวางทาง ข้าก็ฆ่าคนนั้นแหละ!”

เป็นเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ผู้หนึ่ง เขาไม่กลัวแม้แต่นิด

เนื่องจากเขาเป็นทายาทเจ้าสำนักแห่งสำนักเมฆแดง บนตัวเขามีของขลังมากมาย ยังมีวิธีการเอาตัวรอดมากมายที่เจ้าสำนักได้ถ่ายทอดให้ด้วย อยากจะฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิทิพย์ผู้หนึ่ง สำหรับเขาแล้วนั้นเป็นแค่เรื่องเล็กเท่านั้นเอง

เย่เจียหรงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก ตอนออกมาพอดีเจอเข้ากับน้องหยู ดังนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็เลยมุ่งหน้าไปยังเรือนของเย่จายซิงด้วยกัน

พอมาถึงด้านนอกเรือน สองพี่น้องก็ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าเดินมาผิดที่ แม้ว่าพวกนางรู้ดีว่าอ๋องเซ่อเจิ้งใส่ใจต่อเย่จายซิงมาก แต่คิดไม่ถึงว่าลานเรือนแห่งนี้จะซ่อมแซมออกมาได้เรียบหรูดูดีเช่นนี้ ในแต่ละทิศทางต่างมีแต่ของที่มีค่าทั้งนั้น มองออกเลยว่าใช้งบประมาณไปอย่างหนักในการซ่อมแซม

อีกอย่างพอยิ่งเข้ามาใหล้พวกนางต่างก็รู้สึกว่าเปี่ยมไปด้วยชี่ทิพย์ เข้าใจได้ว่าที่นี่มีค่ายรวมทิพย์ ค่ารวมทิพย์นั้นสร้างไม่ง่ายเลย ยังต้องสิ้นเปลืองหินทิพย์มาเป็นพิเศษด้วย เย่จายซิงก็แค่เศษสวะ ต้องการชี่ทิพย์ก็ทำได้เพียงเพื่อบำรุงร่างกายเท่านั้น ก็ไม่สามารถฝึกตนได้อีก อยู่ในที่ดีแบบนี้มันช่างหยามเกียรติสิ่งล้ำค่าจากสวรรค์เสียจริงเชียว!

ความอิจฉาริษยาของเย่เจียหยูมันทะลุออกมาอยู่ที่ปรายตาแล้ว เนื่องจากการทรมานให้เจ็บปวดนั้นทำให้นางดูซูบผอมซีดไปมากเลย เห็นได้ชัดว่าผิวพรรณหยาบกร้านไปหมด

เย่เจียหรงกลับดีกว่ามาก อารมณ์ของนางแสดงออกมาภายนอกน้อยนัก จิดใจนั้นหยั่งลึกยากจะคาดเดา บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ อยู่แล้วกล่าวว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา