บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 1

ณ ถนนในแคว้นหงส์แดง

อันตพาลกลุ่มหนึ่งใช้ไม้รุมฟาดหญิงสาวอายุสิบห้าสิบหกคนหนึ่งอย่างโหดร้าย หญิงสาวคนนั้นใบหน้าช้ำเลือดช้ำหนอง เลือดไหลซึมออกมาจากริมฝีปาก และนอนขดตัวอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงตอบโต้

เมื่อสาวน้อยนางนี้นอนแน่นิ่งไป อันธพาลพวกนี้ถึงจะหยุดการลงมือของพวกตน

ชาวบ้านต่างพากันเข้ามามุงดู และพากันชี้ไปที่สาวน้อยคนนั้น

ชาวบ้านจำนางได้จากใบหน้าของนางที่มีปานแดงใหญ่ๆ ปรากฏอยู่ครึ่งซีกบนใบหน้าข้างหนึ่ง นี่มิใช่เย่จายซิง คุณหนูสี่ซื่อบื้อแห่งจวนแม่ทัพหรอกหรือ ทำไมนางถึงโดนตีจนมีสภาพกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

ในตอนนั้นเถ้าแก่ของหอยาเสวียนจึงเดินออกมา:

“คุณหนูสี่เย่อยากจะเอาอกเอาใจเจ้าพระยาเซี่ยถึงขั้นกล้ามาขโมยยารักษ์จิตระดับ 4 ของหอยาเสวียน พวกเราจึงต้องลงโทษนางอย่างรุนแรงเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ใครที่คิดจะเข้ามาขโมยของจะต้องมีจุดจบอย่างนี้!”

ในตอนนั้นทุกคนถึงจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เจ้าพระยาเซี่ยเป็นน้องชายแท้ๆ ของฮองเฮา ส่วนบิดาของเขาคือท่านพ่อพระยาก็เป็นถึงปรมาจารย์กลั่นยาที่มีฝีมือดีที่สุดแห่งแคว้นหงส์แดงนี้ และยังเป็นประธานของสมาคมนักกลั่นยาสาขาในเมืองหลวงแห่งนี้ด้วย

ฐานะของเจ้าพระยาเซี่ยจึงดีขึ้นตามไปด้วย ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจกว้างไกล

ส่วนเย่จายซิงนั้นก็เป็นหนึ่งในสตรีที่หลงไหลในตัวเขา ชาวบ้านในเมืองนี้ต่างรู้เรื่องนี้กันทั้งนั้น

“คุณหนูสี่เย่เป็นบ้าไปแล้วจริงๆ อยากจะเอาใจเจ้าพระยาเซี่ยจนยอมทำตัวเป็นหัวขโมยเลยรึ!”

“ในเมืองหลวงแห่งนี้ใครบ้างไม่รู้ว่าคุณหนูซื่อบื้ออย่างเย่จายซิงชอบเจ้าพระยาเซี่ย นางคงยอมทำทุกอย่าง เพื่อขอแค่ให้เจ้าพระยาเซี่ยหันมาสนใจนางบ้างก็เท่านั้น”

“นางก็ไม่รู้จักส่องกระจกดูเงาของตัวเองบ้างเลย ใบหน้าของนางอัปลักษณ์เสียจนฟ้าดินพิโรธขนาดนั้น เจ้าพระยาเซี่ยจะสนใจนางได้อย่างไร”

“หุบปาก!”

ตอนนั้นเย่จายซิงเพียงรู้สึกว่าศีรษะของตนปวดราวกับกะโหลกร้าว เสียงเอะอะรอบกายของนางไม่ต่างอะไรกับเสียงฝูงเป็ดที่กำลังร้องระงม นางลืมตาขึ้นในทันที แววตาของนางแข็งกระด้างราวกับแผ่ไอเย็นๆ ออกมาจากดวงตาด้วย

หลังจากนั้น ดวงตาของนางก็ชะงักงัน

ทำไมตรงหน้านางมีแต่คนสวมใส่เสื้อผ้าโบราณ หรือว่านางจะเข้ามาอยู่ในกองถ่ายละครโดยบังเอิญ

ไม่ใช่สิ! ตอนนั้นเครื่องบินส่วนตัวบินเข้าไปในพายุสีดำทะมึน ตอนนี้ร่างของนางน่าจะแหลกสลายจนหาเศษซากไม่เจอแล้ว ไม่มีทางที่นางจะยังมีชีวิตอยู่

หรือว่านางจะตายแล้วฟื้น?

ภาพต่างๆ เคลื่อนไหวเข้ามาในหัวของนางอย่างรวดเร็ว ทำให้เย่จายซิงเหม่อลอย

นางข้ามภพมางั้นหรือ และกลายมาเป็นคุณหนูสี่จอมซื่อบื้อของจวนแม่ทัพในแคว้นหงส์แดงแห่งแผ่นดินเทียนเหย้าแห่งนี้

คุณหนูสี่เย่เกิดมาไม่มีพรสวรรค์ติดตัวมา จึงไม่สามารถฝึนวรยุทธ์ ใบหน้าของนางยังมีปานแดงใหญ่เท่าฝ่ามือปรากฏอยู่ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสตรีอัปลักษณ์อันดับหนึ่งของเมือง

ส่วนนางเป็นผู้สืบทอดคนสุดท้ายของตระกูลขุนนางทิพย์โบราณแห่งศตวรรษที่ 21 มีความเข้าใจด้านการแพทย์ กลั่นยา และวิธีการลึกลับอย่างการลอบสังหาร ฮู้และการควบคุมอสูร จนได้ชื่อว่าเป็นราชินีทหารรับจ้างที่ไม่ว่าใครได้ยินชื่อต่างพากันขวัญเสีย

ลงมือทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายได้ด้วยมือเปล่า สังหารคนชั่วในสังคม

ในโลกนี้ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเย่จายซิง คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้นางจะกลายเป็นผู้หญิงอัปลักษณ์ที่ไร้ประโยชน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างนาง

เมื่อเถ้าแก่หอยาเสวียนเห็นว่าเย่จายซิงยังไม่ตาย เขาก็ตกใจ ก่อนจะเอ่ยปากเสียงดังว่า “ทหาร ยาขั้น 4 สองเม็ดของข้าที่หายไป ข้าสงสัยว่าน่าจะมียาเม็ดหนึ่งเหลืออยู่ที่ตัวของนาง ไปค้นตัวนางเดี๋ยวนี้!”

“ไสหัวไป! ข้าไม่ได้ขโมยของของเจ้า!”

เย่จายซิงลุกขึ้นยืน ดวงตาแข็งกระด้างของนางกวาดตามองไปรอบๆ ทำให้ชาวบ้านต่างพากันหวั่นเกรง พวกเขาต่างรู้สึกว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เถ้าแก่หอยาเสวียนแค่นหัวเราะ แล้วหยิบยาสีเขียวเม็ดหนึ่งออกมา:

“หึ! ยังคิดจะปลิ้นปล้อนอีกรึ นี่คือยารักษ์จิตระดับ 4 ที่พวกเราค้นเจอจากตัวเจ้าเมื่อครู่นี้ จะต้องเป็นเพราะว่าเจ้าได้ยินว่าเจ้าพระยาเซี่ยได้รับบาดเจ็บเลยคิดจะมาขโมยยาไปเพื่อเอาหน้ากับเจ้าพระยา! หลักฐานแน่นหนา คงไม่ง่ายที่เจ้าจะแก้ตัวอีก รีบส่งยาขั้น 4 อีกเม็ดหนึ่งออกมา มิเช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจนะ!”

“เห้อ ขโมยยาขั้น 4 ทีเดียวสองเม็ด เย่จายซิงผู้นี้น่ารังเกียจยิ่ง!”

“ยาขั้น 4 มีมูลค่าสูงมาก คุณหนูสี่เย่รีบเอาออกมาคืนเถิด”

“เป็นถึงธิดาแห่งเทพสงคราม แต่กลับยอมเป็นหัวขโมยเพื่อเอาใจผู้ชาย ดวงวิญญาณของเทพแห่งสงครามบนสวรรค์คงอยู่อย่างไม่สงบแน่นอน ไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือไม่ที่มีลูกสาวอย่างเจ้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา