ตั้งแต่เริ่มการประลองจนถึงตอนนี้ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยน้ำชาด้วยซ้ำ
คนในที่นั้นต่างพากันตะลึงอ้าปากค้าง ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไรเพราะไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์จะพลิกผันมากขนาดนี้ ระดับการฝึกตนของเหยียนฮั๋วกวงแต่กลับหาโอกาสโต้ตอบกลับไม่ได้ด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าคนทั้งสองห่างชั้นกันมากมายนัก!
ระหว่างการต่อสู้เหยียนฮั๋วกวงหยิบของขลังออกมา ทว่าการประลองครั้งนี้มีการเซ็นสัญญาศึก จึงมีสวรรค์คอยควบคุม นอกจากของขลังติดตัวแล้วก็ไม่สามารถใช้ของขลังอื่นได้อีก ดังนั้นเขายังไม่ทันจะได้พึ่งพาอานุภาพของของขลังก็ถูกเย่ยู่หยางลงมือเสียจนหมดสภาพ ร้องโอดครวญราวกับเป็นสุนัขตัวหนึ่ง
ความแข็งแกร่งของเย่ยู่หยาง ทำให้ทุกคนต่างอกสั่นขวัญผวา
เขาอายุยังน้อยแต่ประสบความสำเร็จในวิถีกระบี่มากมายเช่นนี้ ในอนาคตจะต้องไปได้ไกลมากอย่างแน่นอน
เวลานี้ไม่มีใครมีอารมณ์สนใจว่าเย่ยู่หยางฟื้นฟูการฝึกตนได้อย่างไรและเหตุใดถึงได้มีวิถีกระบี่ที่แข็งแกร่งมากเช่นนี้ พวกเขาต่างเกิดความละโมบจึงลงสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของตนเองไป
เดิมทีพวกเขาคิดว่าอย่างไรก็ต้องชนะ แต่สุดท้ายกลับแพ้อย่างไม่ทันได้คาดคิดเช่นนี้ พวกเขาจะทนรับได้อย่างไร เหตุนี้พวกเขาจึงเรียกร้องให้เย่จายซิงคืนสมบัติของพวกเขาและกล่าวว่าการเดิมพันครั้งนี้ไม่โปร่งใส
และมีบางคนถึงขั้นพยายามใช้กำลังเพื่อยื้อยุดแย่งสมบัติของตัวเองกลับไป
หากมีเหยียนเฟิงอยู่แน่นอนว่าไม่มีทางชิงสมบัติไปได้อย่างแน่นอน
เย่จายซิงก้าวออกมาพลางมองไปยังคนพวกนี้ที่กำลังโกรธแค้นพลางกล่าวเรียบๆ ว่า
“คนที่กล่าวหาว่าข้าขี้โกง พวกเจ้าไม่รู้จักแพ้ชนะเอาเสียเลย ก่อนที่จะเริ่มข้าก็บอกไปแล้วว่าเสี่ยวยู่ฟื้นฟูการฝึกตนกลับมาแล้ว แต่พวกเจ้าเองต่างหากที่ไม่ยอมเชื่อ จะโทษใครได้ อีกอย่างข้าเตือนพวกเจ้าหลายครั้งแล้ว พวกเจ้าละโมบอยากได้เงินร้อยล้านของข้า อยากรวยทางลัด ตอนนี้พอแพ้แล้วกลับมาเสียดาย น่าสมเพชนัก”
เมื่อนางกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมา ทำให้คนบางพวกถึงกับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
นางเคยประกาศไปแล้วจริงๆ ว่าเย่ยู่หยางฟื้นฟูการฝึกตนขึ้นมาแล้ว แต่ทุกคนคิดว่าที่นางพูดแบบนั้นเพราะต้องการให้คนพนันว่าเย่ยู่หยางเป็นฝ่ายชนะ และนางจะได้แพ้น้อยหน่อยก็เท่านั้น
ใครจะคิดว่าสิ่งที่นางพูดคือเรื่องจริง
แต่ก็มีคนจำนวนมากที่เป็นนักพนันอยู่แล้ว ไม่รู้จักละอาย พวกเขาต้องการได้เงินมากๆ จึงใช้ทรัพย์สินทั้งหมดวางเดิมพัน เช่นนี้แล้วพวกเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ อย่างไร
“เห็นชัดๆ ว่าเย่ยู่หยางพยายามปกปิดการฝึกตนของตัวเอง ตั้งใจทำให้พวกเราหลงทาง ทำให้พวกเราต้องพ่ายแพ้มากมายเช่นนี้ อย่างนี้ไม่เรียกว่าขี้โกงได้อย่างไร
“ใช่แล้ว! การพนันครั้งนี้ไม่นับ พวกเราไม่ยอมรับ!”
“เอาสมบัติของพวกเราคืนมาเดี๋ยวนี้!”
คนพวกนี้ต่างพากันเรียกร้องด้วยใบหน้าของคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย
เย่จายซิงยิ้มเย็นๆ ยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไรออกไป องค์หญิงหลิงหยุนก็ลุกขึ้นยืนขั้นมาด้วยสีหน้ามองคล้ำแล้วกล่าวเสียงดังว่า
“ข้าเองก็คิดว่าการเดิมพันครั้งนี้ไม่โปร่งใส เพราะทุกคนต่างคิดว่าเย่ยู่หยางเป็นคนพิการ ด้วยความจริงข้อนี้ทำให้ทุกคนกล้าวางเงินเดิมพัน!”
“ฮ่าๆ อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก!”
เย่จายซิงมองไปทางองค์หญิงหลิงหยุนอย่างเยาะเย้ย
“ที่แท้แล้วองค์หญิงก็คิดว่าเสี่ยวยู่จะต้องเป็นฝ่ายแพ้ ดังนั้นจึงวางเดิมพัน แต่ว่าท่านเข้าใจคำว่าการพนันหรือไม่ ที่เรียกว่าการพนัน ก็เพราะว่ามันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอย่างไรเล่า หากเหยียนฮั๋วกวงจะต้องชนะอย่างแน่นอน ข้าจะวางเงินร้อยล้านให้พวกเจ้าเล่นๆ หรืออย่างไร พวกเจ้าเห็นข้าเป็นคนโง่งั้นหรือ”
“เป็นถึงองค์หญิง แต่กลับพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา ไม่รู้จะบอกว่าเจ้าเป็นคนโง่หรือว่าไร้ยางอายดี”
“บังอาจ!”
สีหน้าขององค์หญิงหลิงหยุนตอนนี้ทั้งเขียวทั้งคล้ำไปด้วยความแค้น เพราะนางคิดว่าหลายๆ คนกำลังหัวเราะเยาะนางอยู่
“ใครบังอาจรึ?”
ในเวลานั้น น้ำเสียงหนักแน่นดังออกมาจากฝูงชน ลำพังเพียงแค่เสียงอย่างเดียวก็ทำให้ฝูงชนใจเต้นระส่ำ
อ๋องเซ่อเจิ้ง!
แววตาขององค์หญิงหลิงหยุนปรากฏความหวาดกลัว
จวินหยวนเดินลงมาจากเกี้ยวและมุ่งหน้าเข้าไปในฝูงชน แม้ว่าเขาจะสวนใส่หน้ากากสีเงิน ทำให้ไม่มีใครมองเห็นสีหน้าของเขาได้ชัดเจน แต่ก็สัมผัสท่าทางสูงส่งและห่างเหินของเขาได้อย่างแจ่มชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...