“ท่านมาก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาท่าน”
เย่จายซิงชี้ไปที่เก้าอี้ตรงหน้าตน แล้วกล่าวกับลั่วกูหยุน
ลั่วกูหยุนนั่งลงอย่างคลางแคลงใจ
“เจ้าตามหาข้างั้นหรือ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ามาเพื่อแบ่งสมบัติกับเจ้า……เอ้ยมาคิดบัญชี”
“คิดบัญชีเป็นเรื่องเล็ก เจ้าขายยาชะล้างไขกระดูกได้กี่บาท”
เย่จายซิงส่ายหน้า นางอยากพูดเรื่องอื่นมากกว่า
นางยังไม่ทันจะพูดจบ ลั่วกูหยุนก็แทรกขึ้นมาว่า “เจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว ข้าจะบอกอะไรให้นะ แค่สามเดือนข้าก็แบ่งให้เจ้าเท่านี้ได้แล้ว!”
เขายื่นมือออกมาแล้วค่อยๆ บอกเรื่องจำนวนกับนาง
“เยอะขนาดนั้นเชียว!”
เย่จายซิงเบิกตากว้าง “ยาชะล้างไขกระดูกขายดีขนาดนี้เลยเชียวหรือ”
“แน่นอนอยู่แล้ว! ยาชะล้างไขกระดูกที่เจ้ากลั่นออกมานั้นเป็นยาชะล้างไขกระดูกอย่างแท้จริง และแตกต่างจากยาชะล้างไขกระดูกที่ขายตามท้องตลาด ประสิทธิภาพต่างกันราวฟ้ากับเหว ตระกูลลั่วของพวกเราตอนนี้ได้ผูกขาดกิจการยาชะล้างไขกระดูกไว้แล้ว และเอาไว้ส่งให้ตระกูลลั่วกับสำนักโดยเฉพาะ จำนวนที่ข้าบอกเจ้าไปยังเป็นจำนวนที่เก็บไว้บางว่วนด้วยนะ”
ลั่วกูหยุนเล่าอย่างพออกพอใจ เขาชอบเห็นท่าทางประหลาดใจของนาง เพราะทำให้เขารู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของเย่จายซิง
แต่ตระกูลลั่วเป็นตระกูลใหญ่ของเฉินตู มีเส้นสายกว้างขวาง แน่นอนว่าย่อมทำธุรกิจได้ไม่ยาก
แต่นางเพียงแค่ให้สูตรยากับลั่วกูหยุนเท่านั้น ไม่ได้ให้วัตถุดิบปรุงยาและไม่ได้ให้ยาที่ทำสำเร็จแล้ว แต่ตระกูลลั่วก็ยังแบ่งส่วนแบ่งให้นางตั้งมากมายขนาดนี้ นางจึงประหลาดใจในประเด็นนี้มาก
นางกล่าวว่า “คนที่ออกเงินและออกแรงคือตระกูลลั่วของพวกท่าน ไม่ต้องแบ่งให้ข้าเยอะขนาดนี้ก็ได้”
ลั่วกูหยุนยิ้มพลางโบกมือกล่าวว่า
“นี่คือบัญชีที่หักต้นทุนออกไปแล้ว เจ้าไม่ต้องห่วง ตระกูลลั่วของพวกเราจะทำการแลกเปลี่ยนที่ขาดทุนได้อย่างไร อีกอย่างเป็นเพราะสูตรยาของเจ้าถึงทำให้มียาล้างกระดูก เจ้าได้ส่วนแบ่งมากหน่อยก็เป็นเรื่องปกติแล้ว ต่อไปข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าทุกๆ สามเดือน แต่ข้าคิดว่าอีกไม่นานนักจะต้องมีนักกลั่นยาแกะสูตรของพวกเราออก ถึงตอนนั้นส่วนแบ่งคงจะน้อยลง”
“ไม่เป็นไร หากไปถึงวันนั้นจริงๆ ท่านค่อยกลับมาหาข้าใหม่ ข้ามีอะไรให้ท่านได้ตื่นเต้นอีก”
หากหาเงินได้ ใครบ้างไม่อยากหา หากวันหน้าสามารถทำสัญญาระยะยาวกับตระกูลลั่วได้ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
“ดูท่า เจ้าน่าจะมีความลับอีกไม่น้อยนะ”
ลั่วกูหยุนมองนางด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาของเขาเปล่งประกาย และคิดหาทางร่วมมือกับนางอย่างต่อไปอย่างไม่มีอุปสรรค
“จริงสิ เจ้าตามหาข้าด้วยเรื่องใด”
เขาถาม
เย่จายซิงสีหน้าจริงจัง นางมองตาลั่วกูหยุนพลางกล่าวว่า
“ข้าอยากถามท่านเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของลั่วกูหยุน ท่านช่วยตอบข้าตามตรงด้วย วันนี้ริมฝีปากของเขาขาวซีด ไม่มีสีเลือด ทั้งๆ ที่แผลภายในของเขาดีขึ้นมากแล้ว แต่สถานการณ์ดูจะเลวร้ายมากกว่าเมื่อวาน เขาพยายามเปลี่ยนเรื่องบ่ายเบี่ยง ข้าหวังว่าท่านจะบอกข้าตามความจริง”
ลั่วกูหยุนคิดไม่ถึงว่านางจะสังเกตรายละเอียดทุกอย่างเช่นนี้ จึงพยายามหลบสายตา
“เอ่อ……ร่างกายของเขาปกติดี เพียงแต่ต้องบำรุงให้มากหน่อย ไม่เป็นอะไรมาก เจ้าอย่ากังวลเลย”
นางเลิกคิ้วขึ้น “ถ้าไม่เป็นอะไรจริงๆ แล้วทำไมท่านถึงไม่กล้ามองตาข้าล่ะ ท่านพูดกับข้าตามตรงเถิด สุขภาพของเขามีปัญหาใช่หรือไม่”
“ข้าเปล่านะ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว เขาแข็งแรงมาก!”
ลั่วกูหยุนตอบเสียงดังขันแข็ง
เดิมทีนางก็สงสัยอยู่แล้ว เพราะจวินหยวนพยายามแสดงออกอย่างสงบนิ่งเกินไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นสีหน้าของลั่วกูหยุน นางก็รู้เลยว่าลางสังหรณ์ของนางนั้นถูกต้อง
แต่ร่างกายของจวินหยวนสามารถฟื้นฟูเองได้ เมื่อวานนางก็ได้เห็นด้วยตาของนางเองแล้ว ขอเพียงแค่ไม่ใช้พลังทิพย์มากเกินไป ค่อยๆ รักษาไปไม่กี่เดือน ขอเพียงยังมีอายุขัยอยู่ก็จะสามารถฟื้นฟูกลับไปมาได้เช่นเดิม
และเป็นเพราะตอนนั้นนางกำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่ ทำให้นางลืมพูดเรื่องหลงเฟยหลีกับจวินหยวนไป
“ข้าจะไปหาเขา”
เย่จายซิงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก
“เฮ้ยเดี๋ยวก่อนที่รัก อย่าไปเลย เขาไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ……เดี๋ยวๆ ทำไมเจ้าถึงเดินเร็วขนาดนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...