เย่จายซิงเดาถูกว่าหอการค้าผานหลงเสด็จอาเป็นผู้เปิด เหตุผลที่สำคัญสุดยังคงเป็นผู้ดูแลหอการค้าปฏิบัติต่อนางค่อนข้างมีน้ำใจไมตรี
ถึงแม้จะกล่าวว่าหลายๆเรื่องจะมีเหยียนเฟิงเป็นผู้ออกหน้า อย่างเช่นการซื้อร้านค้า จัดซื้อชั้นวางของ จัดทำบัตรสมาชิกเป็นต้น เหยียนเฟิงกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นการรับเหมาของหอการค้าผานหลง แต่ทว่ารายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างนางจำเป็นต้องประสานงานกับผู้ดูแล
กล่าวตามหลักเหตุผลแล้ว ผู้ดูแลหลักของหอการค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งเฉินตูจะต้องยุ่งวุ่นวายและทำงานหนัก จะมากจะน้อยก็คงต้องมีความสูงส่งอยู่บ้าง การค้าขายของตนเองนี้จะพูดว่าสูงก็ไม่สูงจะพูดว่าต่ำก็ไม่ต่ำ แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่ต้องให้ผู้ดูแลหลักมาต้อนรับด้วยตนเองนี่
ฉะนั้นตอนนั้นนางก็สงสัยว่าผู้ดูแลคนนี้ใช่คนของเสด็จอาหรือไม่
วันนี้ทันทีที่เอ่ยปากถามง่ายๆ เขาก็ยอมรับแล้ว ภายในใจของนางยังคงค่อนข้างประหลาดใจ เนื่องจากเขาอยู่ที่เฉินตูหลายปีมานั้น ทนทุกข์กับการตกเป็นเป้าและเจตนามุ่งร้ายของแม่เลี้ยงมาโดยตลอด นึกไม่ถึงว่าจะเปิดห่วงโซ่หอการค้าที่ใหญ่ที่สุดในทั่วทั้งแผ่นดินภายใต้จมูกของคนเหล่านั้น ไม่ง่ายเลยจริงๆ
“โอ๊ยเสด็จอาเหตุใดท่านถึงคลายมวยผมออกอีกแล้วล่ะ?”
นางกำลังจะลุกขึ้นยืน ปิ่นปักผมถูกเขาดึงออกไปแล้ว เส้นผมทั้งหมดสยายออก
“ไม่ดี”
เขากล่าว
หลังจากนั้นหยิบหวีขึ้นมาอีกครั้ง
เย่จายซิง: ......
ผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำ!
เพียงแต่ว่าการทำผมครั้งนี้ค่อนข้างได้เรื่องแล้ว ดีกว่าก่อนหน้านี้พอควร นางยังค่อนข้างพึงพอใจ แต่เขากลับมีท่าทางไม่ค่อยพึงพอใจมากเท่าใด กล่าวว่าครั้งหน้าชำนาญแล้วจะมาทำผมให้นางอีกครั้ง
ทันใดนั้นภายในสมองของนางก็ปรากฏภาพภาพหนึ่งขึ้น มีศีรษะของคนเรียงอยู่ตรงหน้าเสด็จอาเรียงหนึ่งแถว เขาฝึกปรือฝีมือกับศีรษะทีละคนทีละคนด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
ภายในใจหนาวเย็นขึ้นมาครู่หนึ่ง นางรีบสลัดภาพที่ยุ่งเหยิงภายในสมองทิ้ง เอ่ยกล่าว:
“เสด็จอา ข้าคิดว่าท่านทำผมได้ค่อนข้างดี ไม่จำเป็นต้องฝึกปรือฝีมือแล้ว”
“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ข้าดูนางกำนัลแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างเพิ่มอีกสักสองสามรอบ ก็ทำเป็นแล้ว น้องซิงอย่าได้คิดเหลวไหล”
เหมือนกับรู้ความคิดทั้งหมดภายในใจนาง เขาเอ่ยกล่าวพลางใช้นิ้วมือจิ้มไปที่หน้าผากของนาง
เป็นเช่นนี้เองหรือ นางหัวเราะแห้งสองที เพื่อหลีกเลี่ยงความเก้อเขิน รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยกล่าว:
“เสด็จอา ท่านยังจำเห็ดพิษกาเยือกที่ข้าได้รับจากการแข่งขันกลั่นโอสถหรือไม่ ข้านำมันกลั่นเป็นโอสถกู่ยวนสำเร็จแล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะยังไม่มีประโยชน์ ท่าน......อยากจะลองดูหน่อยหรือไม่?”
เขาเอ่ยกล่าวอย่างไม่มีความลังเลใดๆ: “ได้ โอสถที่น้องซิงกลั่น จะต้องมีประโยชน์แน่นอน”
เชื่อถือนางถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ?
นางยกมุมปากขึ้น หยิบโอสถกู่ยวนที่กลั่นเสร็จแล้วออกมา นี่คือโอสถระดับหก เดิมทีควรจะเป็นสีฟ้าล้วน แต่ด้านบนกลับเป็นชั้นเป็นชั้นเหมือนกับใช้สีดำระบายสีน้ำออกมา แสดงว่าโอสถเม็ดนี้มีพิษ
“กู่ของท่านคือราชากู่ ไม่เหมือนทั่วไป มีเพียงแค่ใช้พิษถึงจะสามารถนำมันลากออกมาได้ แล้วก็นำมันสังหารไปในคราเดียว ท่านต้องอมไว้ในปาก ห้ามกลืนลงไป ขั้นตอนที่ความเป็นพิษกำเริบและราชากู่ออกมาขั้นตอนนี้มีความเจ็บปวดอยู่บ้าง มิสู้เรียกเหยียนเฟิงเข้ามาอารักขาท่านเถอะ”
“ไม่จำเป็น มีน้องซิงอยู่ ต่อให้เจ็บปวดก็ไม่มากเท่าใดนักหรอก”
เขาหยิบโอสถขึ้นมา แล้วก็อมไว้ข้างในปากทันที
ชั่วพริบตาเดียวที่โอสถเข้าไป กลับไม่ได้ละลายตามปกติเหมือนกับโอสถธรรมดาทั่วไปเช่นนั้น มีเพียงแค่รสขมบางๆแพร่กระจายอยู่ที่ปลายลิ้น กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
เห็ดพิษกาเยือกเดิมทีก็เป็นพิษรุนแรง โอสถกู่ยวนนี้ยังเพิ่มเติมยาพิษอื่นๆอีกมากมาย ความร้ายแรงของพิษเช่นเดียวกันกับมดพิษนับพันนับหมื่นตัวกำลังกัดแทะอยู่บนร่างกายของเขา แต่ทว่าสำหรับเขาแล้วก็ไม่นับว่าเจ็บปวดเท่าใดนัก ความเจ็บปวดมากมายที่เขาประสบจากที่แม่เลี้ยงทางนั้นเมื่อตอนปีแรกๆ ยิ่งกว่านี้มากมายหลายเท่านัก
ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึก มีเพียงแค่เหงื่อบางๆที่ซึมออกมาบนหน้าผากเท่านั้น
“ท่านจับมือของข้าเอาไว้ เจ็บก็บีบข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...