บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 203

พระราชวังใต้ดินทั้งหมด เสมือนกับเขาวงกตยักษ์เหมือนกัน กรงขังในที่มืด

กำแพงไม่เพียงแต่อับแสงแล้ว ยังเก็บเสียงด้วย

เพียงแค่มีกำแพงกั้นหนึ่งขั้น ก็ไม่ได้ยินเสียงอีกฝั่งแล้วว่าพูดอะไร

คนในทีมขององค์หญิงหลิวอิ๋งได้หายไปไม่น้อย พวกเขาไม่มีมังกรแปดกรงเล็บนำทาง หลังจากที่เดินตามเส้นทางออกมานั้น ก็ได้พบกับอันตรายมากมาย

พระราชวังใต้ดินที่ถูกซ่อนเอาไว้นับแสนปี ไม่รู้ว่าสีมารอสูรกายมากเท่าไหร่ เมื่อได้กลิ่นไอของมนุษย์ ก็พร้อมจะกระโจนเข้าใส่

หรงจิ่งเฉินที่ตามมาข้างหลังจึงสบายหน่อย มีองค์หญิงหลิวอิ๋งช่วยกันอันตรายข้างหน้าให้ พวกเขาก็แค่เดินตามมาก็เท่านั้น

องค์หญิงหลิวอิ๋งก็ดาทอเข้ามาไร้ศักดิ์ศรี ทว่าหรงจิ่งเฉินกลับไม่สนใจ ก็แค่คิดว่าองค์หญิงแห่งแคว้นเทพมังกรช่างโมโหง่ายเสียจริง ใจแคบ ไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้

ในสายตาทุกคน องค์หญิงแห่งแคว้นเทพมังกร ควรต้องเป็นลึกลับเหมือนเซ่าตี้ สูงส่ง ไม่ใช่ว่าใจร้อน เสียงก็แหลมอีกด้วย

สิ่งที่เขาไม่รู้คือ เมื่อก่อนองค์หญิงหลิวอิ๋งสง่ามงามมาก มองดูแล้วเป็นคนลึกลับ สง่างามสูงส่งราวกับหงส์ สูงส่งมาก

แต่หลังจากที่เสวียนเจ๋อที่อยู่บนหลังแล้วตกลงมา ทำให้นางตกใจเป็นอย่างมาก นางจึงต้องการอยากจะทำข้อตกลงกับอสูรเทพมาโดยตลอด หากฝ่ายตรงข้ามคิดจะมาแย่งอสูรเทพของนาง นางจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“องค์หญิง ชี่ทิพย์ที่นี่แรงมาก ใต้ดินแห่งนี้อาจจะมีอะไร!”

อาจารย์ผู้อาวุโสกล่าว

จุดที่เขาชี้ เป็นใจกลางจตุรัส ซึ่งเป็นสถานที่ของเมล็ดพันธุ์พู่เทพ

เพียงทว่าตอนนี้ได้เตียนไปหมด เนื่องจากเย่จายซิงได้นำเอาพู่เทพและดินเข้าย้ายเข้าไปในห้วงกาลเวลา ไม่เหลือไว้แม้แต่เมล็ดพันธุ์เดียว

องค์หญิงหลิวอิ๋งเดินมาด้วยความตื่นเต้น เห็นแค่เพียงเศษดินที่หลงเหลือไว้ ชี่ทิพย์ที่นี่มีมากกว่าที่อื่น จนนางคิดว่าใต้ดินต้องมีของดี จึงรีบสั่งคงไปขุด

หรงจิ่งเฉินที่เห็น ก็ละสายตา คิดว่าต้องมีปัญหาแน่ๆ

ถึงแม้ว่าในพระราชวังใต้ดินนี้จะไม่ทิ้งร่องรอยอะไร แต่นางก็คิดว่าต้องมีคนมาก่อนหน้านางเป็นแน่

คนที่เข้ามาลบร่องรอยทั้งหมดไปแล้ว

เป็นใครกัน?

เขาขมวดคิ้ว แต่ก็คิดไม่ออกว่าใครกันที่เป็นผู้เข้ามาก่อน ตอนที่เขากับองค์หญิงหลิวอิ๋งมาถึงที่เขาชื่อยู่แห่งนี้ ยังไม่มีคนอื่นเข้ามา

ทันใดนั้น เขาก็คิดถึงสิ่งที่ชิวเหนียงบอกเอาไว้เมื่อสองวันก่อน

มีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งได้แสดงเพลิงพิลึกขั้นเจ็ด จึงรีบตามมาที่เขาชื่อยู่

หรือว่าจะเป็น ผู้หญิงกับผู้ชายคู่นั้น?

ผู้ชายคนนั้นสวมหน้ากากสีเงิน หรงจิ่งเฉินคิดถึงคนๆ หนึ่งได้ จากนั้นคิ้วก็ขมวดมากกว่าเดิม

ลูกน้องได้ไปสืบเย่จายซิงแล้ว นางเป็นรักแรกพบของจวินหยวนอ๋องเซ่อเจิ้งแห่งแคว้นหงส์แดง จะต้องแต่งกับนางคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเรียกตนเองว่าคู่หมั้น แถมยังให้ผู้อื่นเรียกนางว่าพระชายาด้วย

หลังจากที่เย่จายซิงมาถึงเฉินตูแล้ว จวินหยวนปรากฏตัวอยู่หลายครั้ง ทั้งสองคนจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

หากว่าผู้ชายที่สวมหน้ากากสีเงินคนนั้นคือจวินหยวนนครอู่ยุ่นถ้าเช่นนั้น ผู้หญิงในชุดขนสัตว์สีขาวก็คือเย่จายซิง

ใช่นางหรือไม่?น้องเย่

หรงจิ่งเฉินขยับนิ้วมือ จากนั้นสั่งให้คนกลุ่มหนึ่งออกไปจากจตุรัส ไม่ทันใด ก็เหลือเพียงองค์หญิงหลิวอิ๋งอยู่ในจตุรัสแห่งนี้

องค์หญิงหลิวอิ๋งยังสั่งให้คนขุดดินต่อไป แต่ก็ยังไม่พบของวิเศษอะไร ทว่ายิ่งขุดยิ่งลึก ชี่ทิพย์ก็ยิ่งอ่อนลง นั่นหมายความว่าชี่ทิพย์อยู่บนพื้นผิวเท่านั้น ไม่ได้อยู่ใต้ดิน

นางผิดหวังเป็นอย่างมาก หันกลับมาก็ไม่พบคนตระกูลหรงแล้ว จึงเรียกคนไปตามหา

นางสงสัยว่าอสูรเทพต้องอยู่ในพระราชวังใต้ดินแห่งนี้แน่ ไม่มีทางให้ผู้อื่นชิงไปได้!

อสูรเทพเป็นของนาง!

……

ความเร็วในการหลอมจากการเขมือบเพลิงพิลึก เร็วยิ่งกว่าที่เย่จายซิงคิดเอาไว้

นางคิดไว้ว่าทีแรกจะต้องเสียเวลาอยู่หลายวันในห้วงกาลเวลา ใครจะคิดว่าเพลิงเทวจิ่วโยของนางที่เพิ่งปล่อยออกมานั้น เหมือนฉลามที่ได้กลิ่นเลือด ได้รีบมุ่งไปโจมตีเพลิงพิลึกขั้นเจ็ดแล้ว

เพลิงเทวจิ่วโยของนางถึงแม้ว่าจะเป็นเพลิงพิลึกขั้นหกก็ตาม แต่ทว่ามันเป็นเพลิงพิลึกของวิเศษ ความวิเศษยังอยู่ ขาดอีกแค่ขั้นเดียวเท่านั้น ก็จะเหี้ยมโหดกว่าเพลิงพิลึกอีกขั้นหนึ่งเป็นแน่

ไม่เพียงกี่ชั่วยาม การหลอมจากการเขมือบเพลิงพิลึกก็เสร็จสมบูรณ์ ช่วงสุดท้ายในการหลอมนั้น เพลิงเทวจิ่วโยของนางก็เลื่อนขั้นแล้ว!

เพลิงพิลึกขั้นแปด!

เย่จายซิงดีใจมาก ถึงแม้ว่าเพลิงเทวจิ่วโยจะแค่ขั้นเจ็ดเท่านั้น คิดไม่ถึงหลังจากหลอมแล้วนั้น กลับกลายเป็นเพลิงพิลึกขั้นแปด!

หลังจากนี้เมื่อกลั่นยามีแต่จะทำให้มันง่ายขึ้น ก็สามารถเลื่อนขั้นอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ด อีกทั้งเพลิงพิลึกขั้นแปดก็กลายเป็นคทานักฆ่าของนางด้วย!

เห็นเปลวไฟที่เต็มไปด้วยความอิ่มตัวที่ปลายนิ้วของ ต้องการเพียงแค่ครึ่งดาวเท่านั้น ก็สามารถทำให้ทะเลสาบแห้ง นางก็สามารถปราบโจมตีเพลิงพิลึกได้ผลลัพธ์เกินคาด

นางเบ้ปากจนสูง จากนั้นนำเพลิงพิลึกเข้าสู่ร่างกาย

เพลิงเทวจิ่วโยแทรกเข้าไปในชีพจรของนาง ส่วนราชากู่ไหมที่แกล้งทำเป็นนอนก็กระโดดออกมาเพราะรับรู้ได้ถึงอันตราย ดิ้นรนอย่างฉับพลัน และส่งเสียงร้องโหยหวน

เมื่อเปลวไฟเข้าใกล้ ราชากู่ไหมก็ร้องโหยหวน มีความเจ็บปวดของมนุษย์บนใบหน้าของเขา

ณ เวลานั้นเอง

เผ่าโฮ่วาน ได้ทำพิธีบวงสรวง

ขณะที่หัวหน้าเผ่ากำลังทำพิธีบวงสรวงอยู่นั้น ใบหน้าบิดเบี้ยวร้องตะโกนออกมาด้วยความทรมาน มีลายหนอนสีฟ้าปรากฏบนใบหน้า เดี๋ยวหายเดี๋ยวปรากฏ หน้าแปลกประหลาดนัก

คนในเผ่าต่างส่งเสียงร้องแหลมออกมา

ไม่นาน ร่างกายของหัวหน้าเผ่าก็หดตัวลง จากนั้นกลายเป็นมนุษย์แห้งๆ เหลือเพียงหุ้มกระดูก เลือดออกจากร่างกายลงบนพื้น สูญเสียการทำงานทั้งหมด

ดวงตาเบิกกว้าง อารมณ์ปรวนแปร ราวกับว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดของนาง

หลังจากที่มองมาถึงตรงนี้

ฮองเฮาที่ดูมาถึงตรงนี้ ก็ลุกขึ้นยืน กำหมัดแน่น จากนั้นจิกเนื้อตนเอง สายตาบ่งบอกถึงความอาฆาตเคียดแค้น

“ไอ้เนรคุณ!ข้าให้เจ้าฆ่าราชากู่ไหม!”

……

ขณะที่หัวหน้าเผ่าตาย ก็ทำให้ราชากู่ไหมที่อยู่ในร่างกายของนางตายไปด้วย เพลิงเทวจิ่วโยนำราชากู่ไหมเผาจนไม่เหลือเถ้าธุลี ให้ออกจากร่างกายของนางให้หมด

เย่จายซึ่งรู้สึกว่าร่างกายผ่อนคลายลงมาก ไม่ต้องกังวลจากการทำลายราชากู่ไหมอีกแล้ว ที่รากลึกในร่างกายของนาง

ร่างกายของนางปรากฏแวบ ออกมาจากห้วงกาลเวลา ปรากฏในโถงใหญ่

“เสด็จอา?”

พอนางออกมา กลับไม่เห็นเงาของเสด็จอาในห้องโถง แม้แต่ค้างคาวหน้าคนที่แขวนอยู่ใต้หลังคาหายไปอย่างสมบูรณ์

“ข้าอยู่นี่”

ที่กำแพงด้านหลังเป็นเสียงของโม่เสิ่นยวนที่ลอดออกมา

จากนั้นกำแพงก็แยกออกจากกัน เป็นร่างของเขาปรากฏออกมา

“น้องซิง ฆ่าราชากู่ไหมได้ไหม?”

ประโยคแรกคือเขากังวลว่าราชากู่ไหมจะซ่อนอยู่ในร่างกายของนาง

นางหัวเราะแล้วกล่าวว่า:“ราชากู่ไหมได้ตายไปแล้ว เพลิงพิลึกของข้าตอนนี้ขั้นแปดแล้ว ฆ่าราชากู่ไหมก็ไร้ซึ่งปัญหา”

ในใจโม่เสิ่นยวนเหมือนได้วางก้อนหินลง แล้วพูดกับนางว่า:

“ข้าค้นพบบางอย่าง น่องซิง ตามข้ามา”

เขานำนางไปที่ห้องมืดในกำแพง หลังจากที่เข้าไป ปิดประตูห้องมืดจากข้างใน เมื่อมองจากแสงด้านนอก ทว่ากลับมองไม่เห็นอะไรแม้แต่นิดเลย

เมื่อเข้าไปในห้องมืด สายตาก็ปรากฏแสงสว่างออกมา ไม่ได้มืดเหมือนกับพระราชวังใต้ดิน

“นี่มัน...”

นางมองไปข้างหน้า จากนั้นเผยอริมฝีปากอมชมพู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา