พระราชวังใต้ดินทั้งหมด เสมือนกับเขาวงกตยักษ์เหมือนกัน กรงขังในที่มืด
กำแพงไม่เพียงแต่อับแสงแล้ว ยังเก็บเสียงด้วย
เพียงแค่มีกำแพงกั้นหนึ่งขั้น ก็ไม่ได้ยินเสียงอีกฝั่งแล้วว่าพูดอะไร
คนในทีมขององค์หญิงหลิวอิ๋งได้หายไปไม่น้อย พวกเขาไม่มีมังกรแปดกรงเล็บนำทาง หลังจากที่เดินตามเส้นทางออกมานั้น ก็ได้พบกับอันตรายมากมาย
พระราชวังใต้ดินที่ถูกซ่อนเอาไว้นับแสนปี ไม่รู้ว่าสีมารอสูรกายมากเท่าไหร่ เมื่อได้กลิ่นไอของมนุษย์ ก็พร้อมจะกระโจนเข้าใส่
หรงจิ่งเฉินที่ตามมาข้างหลังจึงสบายหน่อย มีองค์หญิงหลิวอิ๋งช่วยกันอันตรายข้างหน้าให้ พวกเขาก็แค่เดินตามมาก็เท่านั้น
องค์หญิงหลิวอิ๋งก็ดาทอเข้ามาไร้ศักดิ์ศรี ทว่าหรงจิ่งเฉินกลับไม่สนใจ ก็แค่คิดว่าองค์หญิงแห่งแคว้นเทพมังกรช่างโมโหง่ายเสียจริง ใจแคบ ไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้
ในสายตาทุกคน องค์หญิงแห่งแคว้นเทพมังกร ควรต้องเป็นลึกลับเหมือนเซ่าตี้ สูงส่ง ไม่ใช่ว่าใจร้อน เสียงก็แหลมอีกด้วย
สิ่งที่เขาไม่รู้คือ เมื่อก่อนองค์หญิงหลิวอิ๋งสง่ามงามมาก มองดูแล้วเป็นคนลึกลับ สง่างามสูงส่งราวกับหงส์ สูงส่งมาก
แต่หลังจากที่เสวียนเจ๋อที่อยู่บนหลังแล้วตกลงมา ทำให้นางตกใจเป็นอย่างมาก นางจึงต้องการอยากจะทำข้อตกลงกับอสูรเทพมาโดยตลอด หากฝ่ายตรงข้ามคิดจะมาแย่งอสูรเทพของนาง นางจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“องค์หญิง ชี่ทิพย์ที่นี่แรงมาก ใต้ดินแห่งนี้อาจจะมีอะไร!”
อาจารย์ผู้อาวุโสกล่าว
จุดที่เขาชี้ เป็นใจกลางจตุรัส ซึ่งเป็นสถานที่ของเมล็ดพันธุ์พู่เทพ
เพียงทว่าตอนนี้ได้เตียนไปหมด เนื่องจากเย่จายซิงได้นำเอาพู่เทพและดินเข้าย้ายเข้าไปในห้วงกาลเวลา ไม่เหลือไว้แม้แต่เมล็ดพันธุ์เดียว
องค์หญิงหลิวอิ๋งเดินมาด้วยความตื่นเต้น เห็นแค่เพียงเศษดินที่หลงเหลือไว้ ชี่ทิพย์ที่นี่มีมากกว่าที่อื่น จนนางคิดว่าใต้ดินต้องมีของดี จึงรีบสั่งคงไปขุด
หรงจิ่งเฉินที่เห็น ก็ละสายตา คิดว่าต้องมีปัญหาแน่ๆ
ถึงแม้ว่าในพระราชวังใต้ดินนี้จะไม่ทิ้งร่องรอยอะไร แต่นางก็คิดว่าต้องมีคนมาก่อนหน้านางเป็นแน่
คนที่เข้ามาลบร่องรอยทั้งหมดไปแล้ว
เป็นใครกัน?
เขาขมวดคิ้ว แต่ก็คิดไม่ออกว่าใครกันที่เป็นผู้เข้ามาก่อน ตอนที่เขากับองค์หญิงหลิวอิ๋งมาถึงที่เขาชื่อยู่แห่งนี้ ยังไม่มีคนอื่นเข้ามา
ทันใดนั้น เขาก็คิดถึงสิ่งที่ชิวเหนียงบอกเอาไว้เมื่อสองวันก่อน
มีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งได้แสดงเพลิงพิลึกขั้นเจ็ด จึงรีบตามมาที่เขาชื่อยู่
หรือว่าจะเป็น ผู้หญิงกับผู้ชายคู่นั้น?
ผู้ชายคนนั้นสวมหน้ากากสีเงิน หรงจิ่งเฉินคิดถึงคนๆ หนึ่งได้ จากนั้นคิ้วก็ขมวดมากกว่าเดิม
ลูกน้องได้ไปสืบเย่จายซิงแล้ว นางเป็นรักแรกพบของจวินหยวนอ๋องเซ่อเจิ้งแห่งแคว้นหงส์แดง จะต้องแต่งกับนางคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเรียกตนเองว่าคู่หมั้น แถมยังให้ผู้อื่นเรียกนางว่าพระชายาด้วย
หลังจากที่เย่จายซิงมาถึงเฉินตูแล้ว จวินหยวนปรากฏตัวอยู่หลายครั้ง ทั้งสองคนจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
หากว่าผู้ชายที่สวมหน้ากากสีเงินคนนั้นคือจวินหยวนนครอู่ยุ่นถ้าเช่นนั้น ผู้หญิงในชุดขนสัตว์สีขาวก็คือเย่จายซิง
ใช่นางหรือไม่?น้องเย่
หรงจิ่งเฉินขยับนิ้วมือ จากนั้นสั่งให้คนกลุ่มหนึ่งออกไปจากจตุรัส ไม่ทันใด ก็เหลือเพียงองค์หญิงหลิวอิ๋งอยู่ในจตุรัสแห่งนี้
องค์หญิงหลิวอิ๋งยังสั่งให้คนขุดดินต่อไป แต่ก็ยังไม่พบของวิเศษอะไร ทว่ายิ่งขุดยิ่งลึก ชี่ทิพย์ก็ยิ่งอ่อนลง นั่นหมายความว่าชี่ทิพย์อยู่บนพื้นผิวเท่านั้น ไม่ได้อยู่ใต้ดิน
นางผิดหวังเป็นอย่างมาก หันกลับมาก็ไม่พบคนตระกูลหรงแล้ว จึงเรียกคนไปตามหา
นางสงสัยว่าอสูรเทพต้องอยู่ในพระราชวังใต้ดินแห่งนี้แน่ ไม่มีทางให้ผู้อื่นชิงไปได้!
อสูรเทพเป็นของนาง!
……
ความเร็วในการหลอมจากการเขมือบเพลิงพิลึก เร็วยิ่งกว่าที่เย่จายซิงคิดเอาไว้
นางคิดไว้ว่าทีแรกจะต้องเสียเวลาอยู่หลายวันในห้วงกาลเวลา ใครจะคิดว่าเพลิงเทวจิ่วโยของนางที่เพิ่งปล่อยออกมานั้น เหมือนฉลามที่ได้กลิ่นเลือด ได้รีบมุ่งไปโจมตีเพลิงพิลึกขั้นเจ็ดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...