“เทาเที่ย?”
เย่จายซิงรู้สึกประหลาดใจมาก
ตามที่นางคิด ตัวที่ปรากฏขึ้นในเทือกเขาชื่อยู่ คงจะเป็นอสูรเทพอย่างปี้ฟาง ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเทาเที่ย
แม้บนโลกใบนี้จะมีอสูรเทพที่ยิ่งใหญ่อยู่สิบตัว แต่มีเพียงเจ็ดตัวเท่านั้นที่เป็นอสูรเทพที่คุ้นเคยกันอย่าง มังกรเขียว วิหคเพลิง หงส์แดงกิเลน
อสูรเทพอีกสามตัวเป็น เทาเที่ย ปี้ฟางและอิงหลง
พวกมันมีความลึกลับมากในสายตาผู้คน เพราะมีหนังสือเกี่ยวกับพวกมันน้อยมาก
ในหมู่พวกมันมี อิงหลง ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งลึกลับและคาดเดาไม่ได้ อสูรเทพตัวนี้สามารถทำพันธะสัญญากับมนุษย์ได้ เพราะว่ากลุ่มอิงหลง มันถือว่าเป็นเทพเจ้า
ปี้ฟางก็เหมือนกัน เมื่อครู่ที่อยู่วังใต้ดิน เย่จายซิงได้เห็นรูปแกะสลักปี้ฟางแล้ว จากการจัดวางสามารถเข้าใจได้คร่าวๆ
แต่สำหรับเทาเที่ย นอกจากนางจะรู้ว่ามันเป็นพวกชอบกินเป็นพิเศษแล้ว แต่แท้จริงแล้วลักษณะของมันเป็นยังไงนั้นไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่ในภาพยนต์ของยุคปัจจุบันนั้น เทาเที่ยมันน่าเกลียดอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้นเทาเที่ยเป็นอสูรเทพที่ดุร้าย ฝึกยากเป็นพิเศษ ว่ากันว่ามันมีกลอุบายที่ร้ายกาจ หน้าซื่อใจเหี้ยม ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของแผ่นดินเทียนเหย้าก็ยังไม่เคยได้ยินว่าใครจะทำพันธะสัญญากับอสูรเทพอย่างเทาเที่ยได้
เย่จายซิงดึงเปลือกไข่สีดำออกมาจากใต้เตียง มันแทบจะไม่เหลือสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว เปลือกไข่แตกออกเบาๆ ไม่มีอะไรล่อเลี้ยงอยู่ข้างในเลย
“เปลือกไข่นี่เหมือนจะเล็ก เทาเที่ยในวัยทารกจะตัวใหญ่แค่ไหนกันนะ?”
นางมองเปลือกไข่ในมือทั้งสองข้างและเอาเปรียบเทียบกัน
มันเหมือนกับแตงโมลูกใหญ่สองลูก
ยังไม่เท่ากับจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงเลย
“แท้จริงแล้ววัยทารกอย่างอสูรเทพนั้นไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าพวกมันเติบโตเร็วและบางตัวใช้เวลาเติบโตแค่ไม่กี่วัน”
โม่เสิ่นยวนกล่าวกับนางอย่างอ่อนโยน
นางเงยหน้าขึ้น “เสด็จอา ท่านรู้ได้อย่างไรว่านี่คือเปลือกไข่ของเทาเที่ย?”
“มังกรเขียวบอกข้า”
โม่เสิ่นยวนหัวเราะเบาๆ มังกรเขียวหดตัวพันอยู่รอบข้อมือ มันเหมือนงูตัวเล็กๆ ถ้ามองดีๆจะรู้ว่ามันคือมังกร
เย่จายซิงชอบมังกรตัวเล็กมาก นางยื่นมือออกไป มังกรน้อยก็ถูศีรษะของมันกับฝ่ามือของนาง มุมแหลมๆบนหัวมันสะกิดโดนฝ่ามือนางเบาๆ
ความรู้สึกของเกล็ดมังกรก็พิเศษมากเช่นกัน แต่ไม่เหมือนกับเกล็ดงู เกล็ดของงูจะมีขนาดเล็กกว่า ให้ความรู้สึกชื้นมีเมือกเหนียว แต่ว่าเกล็ดของมังกรนั้นไม่มี ในทางตรงข้ามกลับให้อุณหภูมิที่อบอุ่นกับฝ่ามือ
นางชอบมาก จึงหยิบมันขึ้นมากอด
บนตัวนางมีกลิ่นอายของอสูรเทพซึ่งทำให้มังกรน้อยชอบนางมาก
โม่เสิ่นยวนอธิบายอยู่ข้างๆ
“มังกรเขียวและเทาเที่ย ต่างก็เป็นอสูรเทพ พวกเราไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายบนเปลือกไข่สีดำได้ แต่มันจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน มันไม่เหมือนกับอสูรเทพตัวอื่น มันคือเทาเที่ย”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้
ถ้าหากว่าเสี่ยวป๋ายไม่ได้ตกอยู่ในสภาพที่หลับลึก นางคงเอาเปลือกไข่เข้าไปในห้วงกาลเวลา เสี่ยวป๋ายเองก็น่าจะรับรู้ได้เช่นกัน
“งั้นพวกเราก็ไปหาสถานที่หนึ่ง แล้วใช้พู่เทพดึงดูดให้เทาเที่ยมาเถอะ”
นางนึกประหลาดใจมาก อสูรเทพอย่างเทาเที่ยจะมีหน้าตาอย่างไร
โม่เสิ่นยวนพยักหน้า
พอเตรียมจะลุกขึ้น นางก็กวาดสายตามองดูใต้เตียงอีกรอบ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เสด็จอา ท่านดู อิฐก้อนนั้นมันผิดปกติหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...