“ได้ ข้าตามใจเจ้า”
โม่เสิ่นยวนโอบนางเข้ามาตรงอก ทั้งสองนั้นนางเก้าอี้ตัวเดียวกัน
เย่จายซิงรู้สึกว่าเสด็จอานั้นอย่างติดนางเหลือเกิน ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน เขาต้องกอดนางไว้เสมอ ไม่ก็จะต้องจับมือนางไว้ ไม่ก็จะเล่นเส้นผมของนาง
ก็คือไม่มีเวลาไหนที่พวกเขานั้นจะแยกกันนั่ง
มือของเขานั้นไม่มีได้ว่างเว้น
นี่เป็นความรับผิดชอบของความรักรึ
นางเลยจับมือของเขาเข้ามา ฝ่ามือที่ใหญ่ของเขาเห็นนิ้วมือที่ชัดเจน มันดูมีพลังมาก มือข้างเดียวของเขาใหญ่กว่าของนางเป็นเท่า กลางฝ่ามือเขานั้นอบอุ่น พวกเขากุมมือส่งสัมผัสกันและกัน
นางค้นพบแล้วว่า เหตุใดเสด็จอาถึงได้ชอบจับมือนางนัก
“เสด็จอา ท่านคิดว่าข้าเป็นคนเลวไหม องค์หญิงหลิงหยุนยังไม่ทันทำอะไรข้า ข้าก็แสร้งทำเพื่อให้นางโกรธ”
นางเอาศีรษะซบไปที่อกเขา
“เมื่อก่อนนางชอบยั่วยุเจ้า แต่เจ้าไม่ได้เอามาใส่ใจ ถ้าให้ข้าออกความเห็นเรื่องราวที่นางเคยกระทำกับเจ้า ตายไปสักหนึ่งร้อยครั้งก็ยังไม่พอ แต่เป็นเพราะเจ้าไม่ถือสานางต่างหาก”
โม่เสิ่นยวนพูดเบาๆ
ก่อนหน้านั้นเขาแทบจะจำหน้าตาขององค์หญิงหลิงหยุนไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนหลังองค์หญิงหลิงหยุนนั้นมักจะมาเรื่องน้องซิง เขาถึงได้มององค์หญิงด้วยสายตาที่เย็นชาเพียงไม่กี่ครั้ง
คนอย่างองค์หญิงและเย่เจียหรงนั้นถูกจำแนกเป็นคนประเภทเดียวกัน ใจนั้นทะเยอทะยานยิ่งกว่าฟ้า แต่ไม่สามารถไขว่คว้าถึงได้
ตัวเองนั้นไร้ความสามารถ แต่ใจนั้นใฝ่หาแต่ความสูงส่ง
แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา คนที่เขาใส่ใจมีเพียงน้องซิงคนเดียวเท่านั้น
เป็นเพราะน้องซิงไม่อยากเอาเรื่ององค์หญิงหลิงหยุนและคนของนาง มิฉะนั้นเขาอาจสั่งให้คนไปฆ่าพวกนางนานแล้ว
“อันที่จริงถ้าตายไปก็หมดเรื่อง พวกนางก็จะได้ไม่ถูกลงโทษ แต่เมื่อข้าเห็นท่าทีที่เคียดแค้นของพวกนางแล้ว มันช่างดูมีความหมาย แค่เดาก็พอรู้ได้ว่าอารมณ์ของพวกนางนั้นดั่งตกนรกทั้งเป็น น่าจะทรมานน่าดู”
เย่จายซิงพูดอย่างหัวเราะ
งั้นดีเลย นางยอมรับว่านางอยากเล่นกับพวกนางสักตั้ง
โม่เสิ่นยวนหัวเราะกับนางไปด้วย ดอมดมกลิ่นหอมจากผมเงาดำของนาง ด้วยอารมณ์ที่สงบนิ่ง
ในวัง ณ ขณะนี้ อารมณ์ของฝ่าบาทนั้นไม่ได้เย็นสงบเช่นเขา
ฝ่าบาทได้รับข่าวจากโม่เสิ่นยวนแต่เช้า ว่าวันนี้จะพาเย่จายซิงเข้าวังพร้อมกัน เดิมฝ่าบาทจะให้พวกเขานั้นรอจนเก้อสักหน่อย จะได้รู้ที่ต่ำที่สูง
ใครจะไปรู้ ว่าฝ่าบาททานอาหารเช้าเสร็จไปแล้วนานนม แต่กลับไร้การรายงานการเข้าวังของพวกเขา
และนาทีนั้นเอง มีองครักษ์มารายงานว่าพวกเขาไม่ได้เข้าวัง และกลับไปเดินเล่นในงานประมูล
ฝ่าบาททรงกริ้วมากจนเขวี้ยงชุดชงชาแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วเลยเพค่ะ จะกระทบสุขภาพของท่านอีก ข้าน้อยตุ๋นซุปบำรุงมาให้ท่าน ท่านรีบดื่มเถอะ”
ฮองเฮามาได้จังหวะพอดี ในมือนั้นถือถ้วยซุปที่มีควันร้อนและหอมกรุ่นเข้ามา ด้วยท่าทีที่อ่อนหวาน
ฝ่าบาทเมื่อเห็นฮองเฮา แต่ความโกรธนั้นไม่ได้น้อยลงไป แต่หลังจากเห็นซุปที่นางเตรียมมา ฝ่าบาทพยักหน้าพร้อมรับถ้วยซุปมาดื่มจนหมด
หลังจากดื่มหมด สีหน้าฝ่าบาทนั้นดูโอนอ่อนลง
“ทำไมข้าต้องมีลูกปีศาจเช่นมันด้วย!”
ฝ่าบาทพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเล่าเรื่องที่พวกเขาไปงานประมูล แทนที่จะเข้าวังให้ฮองเฮาฟัง
ฮองเฮารับถ้วยซุปกลับมา พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า:
“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลย พวกเขาอาจจะกำลังเดินทางมา น่าจะเพิ่งรู้ว่ามีงานประมูล ลูกยวนน่าจะอยากซื้อของให้หญิงสาวผู้นั้น เลยอาจจะ
เปลี่ยนใจกะทันหันขึ้นมา เขาไม่ได้ตั้งใจให้ท่านรอเพค่ะ”
“ฮึ!” ดูแล้วเด็กสาวนั้นก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไร ยังไม่ทันได้แต่งเข้าวัง ก็มาวางมาดใส่ข้าแล้ว!”
ฝ่าบาทพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แววตาประกายไปด้วยความโกรธเกลียด
ฮองเฮายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านอย่าคิดมากไปเลย เดี๋ยวได้เจอเด็กสาวผู้นั้นก็จะรู้เอง ท่านอย่าเพิ่งด่วนสรุปไป ว่าไปแล้วเด็กสาวนั้นเป็นได้แค่ชายารอง”
“เจ้าพูดถูก! ข้าไม่สนใจว่ามันจะชอบหญิงแบบไหน”
ฝ่าบาททุบฝ่ามือใหญ่นั้นลงไป แล้วเดินไปวังหน้าเพื่อไปสะสางงานของแคว้นเทพมังกร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...