บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 266

ลูกอมท้อบนมือเย่จายซิงนั้นประกายแวววาว นางรู้สึกยินดีกับคำพูดของผู้เฒ่าคนนั้น

ทุกคนต่างเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เฒ่า

“เซ่าตี้ ท่านกับแม่นางเย่นั้นเหมาะสมกันมาก ขอให้พวกท่านมีข่าวดีแต่งงานในเร็ววัน!”

“หญิงเทพธิดาโฮ่วานนั้นยังห่างไกลจากเย่จายซิงมาก พระชายาในดวงใจของพวกเราก็คือแม่นางเย่!”

ถึงแม้ว่าคนในเฉินตูยังมีความสงสัย เรื่องการเสกม่านอาคมที่ยิ่งใหญ่ในโม่จวินว่าไม่ใช่เย่จายซิงเป็นคนทำ แต่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดอาหาร เชื่อในสิ่งที่เซ่าตี้พูด ถ้าไม่มีเซ่าตี้โลกมนุษย์ของเราก็ไม่มีวันที่สงบสุขเช่นนี้

ความรู้สึกตื่นตระหนกหวาดกลัว ในวินาทีที่ภัยอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา ต่างยังมีความหวาดกลัวในใจ ตอนนี้ทุกคนจึงรู้คุณค่าทุกสิ่งที่มีอยู่

สิ่งเหล่านี้เป็นเซ่าตี้และเย่จายซิงที่นำมันมาให้ทุกคน

โม่เสิ่นยวนหันหน้าไปทางฝูงชน แล้วคำนับแสดงความขอบคุณ น้อยมากที่เขาจะแสดงความรู้สึกต่อคนภายนอก แต่ว่าตอนนี้ร่างที่สูงโปร่งของเขา มีท่าทีที่อ่อนโยนและเป็นมิตรมาก

เหล่าประชาราษฎร์ยอมรับในตัวน้องซิง จิตใจเขาก็รู้สึกดีตามไปด้วย

เย่จายซิงก็รู้สึกซาบซึ้งมากเช่นกัน

ได้รับการชื่นชมและการสนับสนุน จากผู้คนมากมายเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกพึงพอใจมาก

หลังจากทุกคนพูดจบ ต่างได้แยกย้ายกันออกไป ถึงแม้ยังมีสายตาจ้องไปที่เขาทั้งสอง แต่ก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนเขาทั้งสอง

เป็นเพราะเขาทั้งสอง ทำให้ตลาดอาหารที่มีเฉพาะคนสามัญมาเดินนั้น กลับทำให้ดูคึกคักเฟื่องฟูนัก

ทั้งสองนั้นเป็นคู่กิ่งทองใบหยก ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาช่างดูเพลินตายิ่งนัก

ยิ่งมองดู ยิ่งรู้สึกว่าทั้งสองนั้นเหมาะสมกันมาก แม้แต่จิตวิญญาณของพวกเขาก็ช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน เพียงใช้สายตาก็สามารถรู้ว่าต่างคิดอะไรกันอยู่

บางเวลาที่เย่จายซิงจ้องมองอาหารนานขึ้นเพียงครู่เดียว เซ่าตี้ก็รีบหยิบหินทิพย์ออกมาเพื่อจะซื้อให้นาง

เซ่าตี้ดูใจกว้างมากนัก เหล่าพ่อค้าแม่ค้าต่างไม่อยากคิดเงินเซ่าตี้ แต่แววตาของเซ่าตี้ยากที่จะทำให้พวกเขานั้นปฏิเสธ รวมไปถึงผู้เฒ่าที่ขาย

ลูกอมท้อ ก็ได้รับหินทิพย์จำนวนมากเช่นกัน

เดินไปได้เพียงครึ่งทาง บนมือเซ่าตี้เต็มไปด้วยถุงเล็กใหญ่ แต่สีหน้าเขาไม่ได้แสดงความไม่เต็มใจเลยสักนิด แววตานั้นมีแต่ความเมตตา

ประกายอยู่

อีกด้านหนึ่ง ในวังหลวง

ฝ่าบาทที่กำลังทรงงานได้ยินการรายงานจากเบื้องล่าง ว่าโม่เสิ่นยวนและเย่จายซิงเดินออกจากงานประมูลแล้ว แต่ยังไม่เข้าวัง แต่กลับไปเดินเที่ยวตลาดอาหาร

ใบหน้าของฝ่าบาททรงกริ้วมาก

สมุดทรงงานถูกเขวี้ยงทิ้งลงบนพื้น

ไอ้ลูกปีศาจ ยังกล้าที่ให้ข้าเป็นฝ่ายรอพวกเขา! ปีกกล้าขาแข็งขึ้นทุกวัน ถึงขั้นไม่เอาฝ่าบาทไว้ในสายตา

องครักษ์คุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มหัวโดยไม่กล้าออกเสียงใดๆ

หลายปีมานี้ฝ่าบาทอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นทุกวัน เว้นเพียงไม่กี่วันที่ไม่มีอารมณ์โมโห โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของเซ่าตี้ ก็จะโมโหถี่ขึ้นเรื่อยๆ

เวลาเช่นนี้ นอกจากฮองเฮา ถ้าคนอื่นออกเสียงก็จะพลอยซวยไปด้วย โทษเบาสุดคือการถูกเฆี่ยนตี โทษหนักก็จะสูญเสียตำแหน่งการงานไป หนักขึ้นอีกหน่อยชีวิตอาจตกอยู่ในภาวะอันตรายได้

มีเพียงฮองเฮาที่จะปลอบประโลมฝ่าบาทได้

“ไปให้พ้น! รอพวกมันมาถึง ให้พวกมันรอไป รอไปถึงฟ้ามืด ข้าค่อยออกไปเจอพวกมัน!”

องครักษ์รับคำสั่ง รีบกราบบังคมทูลลาออกไป

ผลปรากฏเมื่อฟ้ามืด โม่เสิ่นยวนยังไม่ได้พาเย่จายซิงเข้าวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา