บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 268

“สามหาวนัก เจ้าเด็กเมื่อวานซืน! วังหลวงไม่ใช่สถานที่ที่จะให้เจ้ามากำเริบเสิบสาน ข้าไม่ได้เอ่ยคำว่ายกเลิกตำแหน่งเซ่าตี้มาก่อน แต่เจ้า เดิมจะให้เจ้าเป็นชายารองก็ถือว่าไว้หน้าเจ้ามากแล้ว ตอนนี้แม้แต่ชายารองข้าก็ไม่อนุญาตให้เจ้าเป็น ต่อไปเจ้าก็เป็นเพียงนางบำเรอหละกัน!”

ฝ่าบาทโกรธแค้นจนเขวี้ยงถ้วยแตกลงพื้น ลุกขึ้นยืนรับสั่งอย่างเสียงดัง

อาหารมื้อนี้เดิมก็ไม่อยากทานอีกต่อไป ท่าทีของโม่เสิ่นยวนและเย่จายซิงเมื่อสักครู่ ที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองนั้นเข้าขากันได้อย่างดี ก็เกินพอที่จะรับได้แล้ว เย่จายซิงยังมาดูถูกอาหารในวัง ว่ารสชาติยังสู้อาหารในตลาดไม่ได้

ความโมโหของฝ่าบาทสูงขึ้นถึงขั้นขีดสุด เมื่อได้ยินคำพูดของเย่จายซิงก็ยิ่งเกรี้ยวกราดขึ้นไปใหญ่ จนแทบอยากจะใช้ดาบทิ่มแทงเข้าไปที่ใจนาง

กว่าจะหยุดความอาฆาตลงไปได้ ฝ่าบาทได้ดื่มชาดับอารมณ์ไปหลายอึกเลยทีเดียว

เย่จายซิงมองไปที่ถ้วยยาที่อยู่ต่อหน้าฝ่าบาทด้วยสีหน้าเรียบเฉย สบตาฝ่าบาทแล้วพูดว่า:

“ท่านน่าจะยังไม่เข้าใจ พี่จวินพูดว่าไม่อยากเป็นเซ่าตี้แล้วนั้น ก็เพื่อจะตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับท่าน ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านคิดว่าท่านยังมีสิทธิ์มายุ่งเรื่องการแต่งงานนี้อีกหรือไม่? เขาจะแต่งกับใคร ก็ไม่มีใครสามารถมาห้ามปรามได้ รวมถึงท่านด้วย”

น้ำเสียงของนางนั้นเรียบเฉย

คนอื่นต่างเกรงกลัวฝ่าบาท แต่นางกลับไม่กลัวแม้แต่น้อย เป็นเพราะมีเสด็จอาอยู่ข้างนาง ใจของนางนั้นเด็ดเดี่ยวมุ่งตรงไปข้างหน้า

ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่อยากเห็นฝ่าบาทนั้นพูดกับเสด็จอา ด้วยแววตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกของฝ่าบาท ทำเหมือนกับว่าเขานั้นไม่ได้เป็นโอรสของฝ่าบาท

ถึงแม้เขาและเสด็จอานั้นจะไม่มีสายใยความผูกพันพ่อลูก ไม่มีแม้แต่เยื่อใย นางก็ต้องทำให้ฝ่าบาทนั้นอยู่อย่างไม่เป็นสุขเหมือนกัน เรื่องการยั่วโมโหโทสะนั้นนางก็ถนัดเช่นกัน

“เลอะเทอะ!”

ฝ่าบาทตบลงบนโต๊ะอย่างแรง ไปโดนถ้วยยาบนโต๊ะ เพล๊ง! ถ้วยยาตกแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆลงบนพื้น

“ตัดขาดความเป็นพ่อลูก! โม่เสิ่นยวน ในราชสำนักทายาทนับร้อยรุ่นไม่เคยปรากฏลูกปีศาจดั่งเจ้ามาก่อน เพื่อหญิงสาวเพียงนางเดียว เจ้าถึงขั้นจะตัดสัมพันธ์พ่อลูก น่าขำยิ่งนัก! น่าขำจนฟันของเหล่าประชาจะร่วงลงมาแล้ว!”

“ท่านผิดแล้ว”

โม่เสิ่นยวนพูด:

“ข้าตัดสัมพันธ์กับท่าน เหตุผลที่สำคัญคือเป็นเพราะข้าไม่อยากเป็นเซ่าตี้ ท่านคิดว่าการเป็นเซ่าตี้นั้นจะเป็นพระคุณอันใหญ่ของข้า

แต่ในสายตาข้ามันเป็นภาระที่หนักมาก มาถึงวันนี้ ภัยร้ายจักรพรรดิปีศาจได้สูญสิ้นไปแล้ว หน้าที่ของข้าได้หมดสิ้น และได้ตอบแทนบุญคุณราชสำนักถึงที่สุดแล้ว”

ฝ่าบาทเบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้

ตำแหน่งเซ่าตี้ที่สูงส่งเช่นนั้น เขากลับรู้สึกว่ามีแรงกดดัน!

มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่พอใจชาติกำเนิดของตนเอง เขายังโชคดีที่ได้เกิดในชาติตระกูลดีแต่กลับไม่รักษาโอกาสนี้

แววตาฮองเฮาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูโม่เสิ่นยวนแล้วไม่น่าจะล้อเล่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องดีมาก นางจะได้ไม่ต้องออกแรงแม้แต่นิดเดียว

แต่ตอนนี้บารมีเขานั้นยิ่งใหญ่ต่อประชาราษฎร์มาก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฝ่าบาท คนที่ทุกคนจะคิดถึงก็จะเป็นโม่เสิ่นยวน

โม่เสิ่นยวนต้องตายสถานเดียว เก็บไว้ก็เป็นภัยร้าย

นางพูดอย่างทุกข์ใจ

“เจ้ายวน เจ้าอย่าพูดคำทำร้ายกันเลย แท้จริงแล้วเสด็จพ่อของเจ้านั้นปากแข็งแต่ใจอ่อน ท่านไม่ใช่จะต่อต้านเจ้า……”

นางยังพูดไม่จบก็ถูกฝ่าบาทนั้นพูดตัดตอน:

“อย่าไปเสียเวลาพูดกับเขา โม่เสิ่นยวน วันนี้ข้าจะพูดทุกอย่างไว้ที่นี่ เจ้าจะตัดสัมพันธ์กับข้าได้ แต่เจ้าต้องมีทายาทกับยุ่นเอ๋อร์ ให้ข้าก่อน ต่อไปเจ้าจะไปอยู่ไกลโพ้นแค่ไหนก็เป็นเรื่องของเจ้า ข้าก็ไม่นับว่ามีลูกปีศาจอย่างเจ้าอีกต่อไป!”

สีหน้าโม่เสิ่นยวนนั้นคร่ำเครียดเยือกเย็น

“ท่านไม่มีความสารถในการให้กำเนิด ไม่สามารถให้กำเนิดโอรสเพิ่มอีกคน ก็เลยผลักภาระนี้มาให้ข้า มันช่างเป็นเรื่องสะอิดสะเอียนยิ่งนัก”

เย่จายซิงยืนพยักหน้าอยู่ข้างๆ รู้สึกไม่มีอะไรผิดแผก ฮ่องเต้พระองค์นี้ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่ว

คนอะไรกัน!

มีพ่อคนเช่นนี้ด้วยรึ!

“ลูกของข้า จะต้องเกิดจากคนที่ข้ารัก และข้าจะเป็นคนเลี้ยงดูด้วยความเอาใจใส่ จะไม่มอบให้ผู้ใด”

พูดจบ เข้าเดินจูงมือเย่จายซิงเดินออกไป

“เจ้าลูกปีศาจ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

เสียงโกรธของฝ่าบาทนั้นโกรธจัด ฉายความอาฆาตขึ้นมา

โม่เสิ่นยวนยืนนิ่งไปสักครู่ แต่ไม่ได้หันหน้ากลับมา:

“ถ้าท่านจะฆ่าข้าและน้องซิง ท่านก็ลองดูซิว่าท่านจะรักษาบังลังก์ฮ่องเต้นี้ต่อไปได้อีกไหม ท่านน่าจะทราบคำกล่าวที่ว่า น้ำสามารถพยุงเรือให้ลอยได้ก็สามารถคว่ำเรือให้จมได้เช่นกัน ใจของเหล่าประชานั้นสำคัญเป็นที่หนึ่ง”

หลังจากนั้นเขาย้ำเท้าเดินจ้ำอ้าวออกไป

เย่จายซิงเดินออกไปพลางหันหน้ากลับมามอง

บนโต๊ะนั้นสิ่งของระเกะระกะ บนพื้นมีถ้วยที่แตกกระจาย ฝ่าบาท ฮองเฮาและฉู่ยุ่นเอ๋อร์ต่างยืนอยู่ข้างโต๊ะ

ฝ่าบาทโมโหจนเลือดขึ้นหน้า โกรธจนจะตับไตไส้พุงจะระเบิดออกมาแล้ว

ฮองเฮารู้สึกโล่งอก ท่าทียังคงอ่อนโยน แต่สายตายังคงจ้องมองพวกเขา เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

ฉู่ยุ่นเอ๋อร์หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่คิดว่าสถานการณ์นั้นจะลงเอยด้วยสภาพเช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้นไม่น่าเชื่อว่าโม่เสิ่นยวนจะละทิ้งทุกอย่างไป เพียงเพราะหญิงเพียงนางเดียว

เย่จายซิงละสายตานั้นไป

เมื่อโม่เสิ่นยวนเดินออกไป มังกรเขียวบนพื้นนั้นครวญร้องขึ้นพร้อมเดินตามไปด้วย มันไม่อยากอยู่ในวัง เจ้านายของมันมีเพียงผู้เดียวก็คือโม่เสิ่นยวน

ฝ่าบาทอยากให้มังกรเขียวกลับมา จึงรับสั่งให้คนไปจับแต่ถูกฮองเฮาปรามไว้:

“ช่างเถอะ ฝ่าบาทเจ้ายวนคงจะโกรธเพียงครู่เดียว ให้มังกรเขียวตามเขาไป เพราะอย่างไรเขาก็ยังเป็นเซ่าตี้ของแคว้นเทพมังกรต่อไป เจ้ายวน

จะเข้าใจท่านในไม่ช้าก็เร็ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา