เย่จายซิงผายมือออก บนฝ่ามือปรากฏเศษถ้วยขึ้นมา
นั่นคือเศษถ้วยยาที่ฝ่าบาทไม่ทันระวังแล้วทำตกแตก
โม่เสินยวนมองเศษถ้วยนั้น ยิ้มแล้วลูบหัวนางพูดว่า:
“น้องซิงช่างละเอียด เข้าวังเพียงครั้งเดียวก็พบพิรุธ”
นางยิ้มหวานแล้วพูดว่า:
“ท่านเป็นคนในเกม แต่ข้านั้นเป็นผู้สังเกตการณ์ ตอนนี้มีเศษถ้วยนี้แล้ว ข้าก็จะรู้ว่ามียาสมุนไพรอะไรอยู่ในนี้บ้าง และจะได้รู้ว่าความโมโหโกรธาที่ฝ่าบาทเป็นนั้น มาจากสาเหตุของยาที่ทานหรือไม่ ถ้าเป็นจริงดังเช่นนั้น ก็ต้องรีบทำให้เขานั้นรู้ตัวโดยเร็ว แผนการของฮองเฮาจะไม่สามารถสำเร็จได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป”
นางอยากรู้ ถ้าฝ่าบาทรู้ว่าหญิงที่นางรักวางยาเขา จะมีปฏิกิริยาเช่นไรกัน
ฝ่าบาทนับเพียงฮองเฮาและองค์หญิงหลิงหยุนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่กับเสด็จอานั้นช่างใจแคบกับเขาเป็นที่สุด แท้จริงแล้วไม่มีผู้ใดจริงใจกับเขาสักคน รสชาติแบบนี้ต้องให้เขานั้นลองลิ้มรสดู
โม่เสิ่นยวนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เขาเกิดมาโดยไร้ความผู้พัน ไม่เคยคาดหวังในตัวของญาติพี่น้อง ฝ่าบาทร่างกายจะแข็งแรงหรือไม่ เขาไม่เคยสนใจเลยสักนิด
แต่เมื่อน้องซิงอยากเป็นฮองเฮา และสามารถเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา มันสามารถช่วยเขาได้หลายเรื่องเลยทีเดียว
เขามองดูนางที่ดมกลิ่นเศษถ้วยนั้นอย่างเอ็นดูพร้อมพูด:
“เจ้าดูว่ามีสมุนไพรอะไรบ้าง และถ้าสามารถคิดค้นยาต้านได้ก็ยิ่งดี เรื่องอื่นๆมอบให้ข้าไปจัดการ ข้ามีคนอยู่ในวังหลวงที่สามารถช่วยให้เสด็จพ่อใช้ยารักษาได้ และสามารถหาโอกาสให้เขารู้ถึงแผนการของฮองเฮา”
“ได้ น่าจะไม่ยาก ตอนนี้ข้าสามารถดมกลิ่นสมุนไพรออกมาได้สิบกว่ากลิ่นแล้ว แต่ยังมีอีกหลายตัวที่ยังไม่แน่ใจ แต่ข้าแค่ต้องใช้เวลากับมันหน่อย”
นางพยักหน้าพูด
“ข้าเชื่อมั่นในความสามารถของน้องซิงอยู่แล้ว”
ผู้คนในงานประมูลของวันนี้ต่างเดาได้ถูก น้องซิงเป็นถึงอาจารย์กลั่นยาขั้นเจ็ดแล้ว พรสวรรค์ในเรื่องสมุนไพรของนางนั้นยากที่จะหาใครมาทัดเทียมได้ เขารู้สึกภูมิใจในตัวนางมาก
เมื่อกลับถึงหอยาไป๋เป่า เย่จายซิงเข้าไปในห่วงกาลเวลา นิสัยนางเมื่อทำสิ่งใดแล้วก็ต้องรีบทำให้สำเร็จ นางไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
โม่เสิ่นยวนเมื่อส่งนางถึงหอยาไป๋เป่าแล้วก็จากไป เขากำลังสะสางงานบางอย่าง
เย่จายซิงครุ่นคิดอยู่ในห้วงกาลเวลาเป็นครึ่งวัน ในที่สุดนางก็ค้นพบสมุนไพรที่อยู่ในชาดับอารมณ์ร้อน
เป็นดั่งเช่นที่นางคิดไว้ ชาดับอารมณ์ร้อนนี้ ถึงแม้จะสามารถควบคุมอารมณ์ขุ่นมัวในจิตใจได้ แต่มันช่วยแค่ชั่วขณะ แต่สรรพคุณที่สำคัญหลังจากการทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน คือกระตุ้นอารมณ์ขึ้นลงให้รุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้เกิดอารมณ์สุดโต่งทั้งเรื่องดีและไม่ดี
เสด็จอาบอกว่าซุปบำรุงที่นางตุ๋นนั้น น่าจะใช้ตัวยาสมุนไพรตัวเดียวกัน แล้วเพิ่มพลังในการตุ๋นไก่เข้าไปด้วย
เย่จายซิงเทียบตัวยา นางใช้เวลาไม่นานในการคิดค้นยาต้านสำเร็จ
หลังจากนางทำเสร็จ แต่เวลาด้านนอกนั้นยังไม่ได้ผ่านไปแม้แต่คืนเดียว
นางทำสมาธิอยู่ในห้วงกาลเวลาหนึ่งคืน นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เหี่ยวเฉาวาดยันต์ นางกวักไกว่พู่กัน ระหว่างนั้นพลังยิ่งใหญ่ถาโถมเข้าสู่อักษรยันต์ของนาง นางจรดพู่กันท้ายสุดลงไป ลงยันต์สำเร็จ ปรากฏแสงประกายสีทอง กลายเป็นยันต์ทิพย์ขึ้นมา
ยันต์ทิพย์ที่ดูธรรมดาเช่นนี้ ตอนใช้งานก็จะเห็นว่ามีพลังมหาศาลซ่อนอยู่
นางวาดยันต์ทิพย์ที่ลงยันต์ต่างกันรอบละสองร้อยกว่าใบ หลังวาดเสร็จนางถึงลุกขึ้นมาบิดตัวคลายขี้เกียจไปมา
อาจารย์ลงยันต์ท่านอื่นอาจจะรู้สึกอ่อนเพลียหลังวาดยันต์เสร็จ ต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูพลังกลับมา แต่สำหรับนางรู้สึกเหนื่อยเพียงนิดเดียว
เสี่ยวไป๋เข้ามาเก็บโต๊ะออกไป
นางเงยหน้าขึ้นมองบนหัว ต้นไม้เหี่ยวเฉาหลังฟื้นคืนชีพ ยอดอ่อนสีเขียวตอนนี้แตกออกเป็นใบไม้ บานออกเป็นใบไม้สีเขียวอ่อนที่มีชีวิตชีวา
“เสี่ยวไป๋ ต้นไม้ต้นนี้ คือต้นอะไรกันแน่?”
นางมองดูเส้นลมปราณบนต้นไม้อย่างรู้สึกใจจดใจจ่อ
นางรู้สึกว่าต้นนี้ต้องเป็นต้นไม้ที่วิเศษมาก
“พลั่บๆ……”
เสี่ยวไป๋บินเข้ามาพูดอย่างลังเลว่า:
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...