บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 275

เย่จายซิงลุกขึ้นยืน เตรียมจะออกไปพบองค์หญิงหลิวอิ๋ง

 

โม่เสิ่นยวนยืนมือดึงให้นางนั่งลง:

“ไม่ต้องรีบ กินโจ๊กให้หมดก่อน ปล่อยนางสูดอากาศสักครู่”

หลิวอิ๋งมีนิสัยบกพร่องอย่างหนัก ถูกเลี้ยงตามใจจนมีนิสัยที่เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา และถูกยั่วโมโหง่าย

ให้นางรอนานขึ้นอีกหน่อย ก็ยิ่งจะทำให้นางฉุนเฉียว

พอคนเราถูกครอบงำด้วยอารมณ์โกรธมากๆ ก็จะสูญเสียความระมัดระวังตัวเหมือนกันหมด

หลิวอิ๋งมาแล้วทั้งที โอกาสดีๆ เช่นนี้ แน่นอนว่าไม่อาจปล่อยให้หลุดมือ

“อืมๆ เช่นนั้นก็ให้นางรออีกหน่อยก็ได้”

เย่จายซิงจึงนั่งลงอย่างองอาจ พยักหน้าแล้วกินโจ๊กในชามอย่างสบายอารมณ์

พู่เทพแต่ละต้นในห้วงกาลเวลาออกดอกออกผลกันถ้วนหน้า เก็บเกี่ยวมาได้ไม่น้อย อาหารหลักทุกวันนี้ของนางมาจากพู่เทพทั้งนั้น

ตอนแรกพู่เทพเพิ่มวรยุทธให้นางมากโข ทว่ารอบนี้กลับไม่ได้ผลมากเช่นนั้นแล้ว แต่ก็ยังสามารถแฝงข้อดีมาให้ร่างกายของนางไม่น้อย

อย่างเช่น เส้นลมปราณและจุดตันเถียนขยายตัวจนสามารถกักเก็บพลังทิพย์ได้มากขึ้น สามารถส่งทะเลจิตออกไปได้ไกลทำให้จิตตื่นรู้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รากทิพย์แข็งแกร่งขึ้นจนทำให้ความสามารถในการบำเพ็ญเพียรแก่กล้าขึ้น และอีกมากมาย

นางยังให้เสด็จอามากินข้าวด้วยทุกวัน อย่างน้อยพู่เทพก็เพิ่มอายุขัยและแก่นชี่ขึ้นมาได้อีกหน่อย

นอกจากนี้นางยังส่งพู่เทพไปให้น้องชาย ไป๋จู๋ว เหยียนเฟิงและลั่วกูหยุนอีกด้วย

กินพู่เทพครั้งแรก จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย

เหมือนน้องชายที่กินแล้วก็ปลีกวิเวกไปเลย รอเขาออกมา วรยุทธจะต้องเพิ่มขึ้นมากแน่นอน

เมื่อกินโจ๊กเสร็จอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองก็พูดคุยกันสักพัก ถึงจับมือกัน เดินเยื้องย่างออกไปด้านนอก

ตอนที่หลิวอิ๋งถูกปล่อยให้สูดกลิ่นธูปโขมงอยู่หน้าประตู ในใจก็แค้นจนไม่อาจทนได้

เสด็จพี่ต้องถูกหญิงนางนั้นจงใจรั้งเอาไว้แน่ๆ เย่จายซิงไม่อยากให้เสด็จพี่ออกมาพบนาง

แม้เย่จายซิงจะโฉมงามเพียงใด ฐานะก็ยังห่างชั้นกับตนมากนัก ต้องนึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้ที่เจิดจรัสอย่างนางเป็นแน่

ใช่ ไม่ผิดหรอก เป็นเช่นนี้แน่

คำอธิบายเช่นนี้ทำให้นางใจชื้นขึ้นมาเปราะหนึ่ง

แต่เมื่อนางเห็นเสด็จพี่กับเย่จายซิงเดินจูงมือกันออกมา ใจก็แตกสลาย แวววิปริตฉายวูบผ่านดวงตา

“เสด็จพี่!! เหตุใดท่านถึงให้ข้ารอข้างนอกนานเพียงนี้? เย่จายซิงจงใจขวางท่าน ไม่ให้มาพบข้าใช่หรือไม่?”

 นางกัดริมฝีปาก เอ่ยอย่างเดือดดาล

 “เจ้ารบกวนเวลาทานอาหารเช้าของเรา”

 โม่เสิ่นยวนมองนางราบเรียบ

 หลิวอิ๋งเบิกตาโต “เสด็จพี่ ท่านหมายความว่า ข้าไม่สำคัญเท่าอาหารเช้างั้นหรือ?”

เพื่อกินอาหารเช้า จึงให้นางตากลมอยู่ข้างนอก ก็เลยเชิญนางให้เข้าไปก่อนไม่ได้อย่างนั้นหรือ

เสด็จพี่กลายเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร!

“สรุปว่าเจ้ามีเรื่องอันใด”

โม่เสิ่นยวนเอ่ยเสียงไม่ยี่หระ แววตาเย็นเฉียบ

หลิวอิ๋งใจเจ็บแปลบในทันที สุดท้ายเสด็จพี่ก็เปลี่ยนใจแล้ว เขาถึงขั้นไม่ชายตาแลอาภรณ์ของนางเลยด้วยซ้ำ นี่เป็นเป็นชุดตอนที่นางและเขาพบกันครั้งแรกเชียวนะ

ไม่ใช่ว่าตอนนั้นเขามองเราหลายต่อหลายครั้งหรอกหรือ?

ทำไมตอนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้?

นางบีบนิ้วมือแน่น แล้วกัดปากเอ่ยว่า:

 “เสด็จพี่ ข้ามาทวงของของข้าคืน!”

ผู้คนโดยรอบที่ทำทีเป็นเดินผ่านไปมาหูผึ่งทันใด เปลวไฟสอดรู้สอดเห็นในใจแทบจะไหม้ลามทุ่ง

“หม่อมฉันไม่ยักรู้ ว่าที่หอไป๋เป่าของพวกเรามีสิ่งใดที่เป็นขององค์หญิงด้วย”

เย่จายซิงเอ่ยเสียงเรียบ นัยน์ตาสีดำสดใสเจือแววเยาะเย้ย

“เฮอะ! เจ้าแย่งอสูรเทพของข้าไปตอนอยู่แดนเหนือ เจ้ายังมีหน้ามาพูดกับข้าอีก ข้าจะบอกเจ้าให้ วันนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา