"แม่นมหลาน" ขณะกำลังคุยกับฮองเฮาอยู่นั้น เสียงของขันทีพลันดังขึ้นจากด้านนอก
เย่จายซิงมีความทรงจำของแม่นมหลาน จึงฟังออกว่านี่เป็นเสียงขันทีคนสนิทของฮ่องเต้ นางรีบแสดงสีหน้าดีใจทันที:
"พระนาง ฝ่าบาทคงจะเสด็จมาค้างคืนคืนนี้เพคะ ท่านเตรียมเนื้อเตรียมตัวสักหน่อยเถิด"
ขณะพูด นางก็รีบเดินออกไป คุยกับขันทีผู้นั้นสองสามคำ ก่อนจะเดินดีอกดีใจกลับเข้ามา:
"พระนาง จางกงกงบอกว่าหากฝ่าบาทจัดการเรื่องสำคัญเสร็จแล้วจะเสด็จมาหาเพคะ"
แต่ฮองเฮากลับพยักหน้าเรียบๆ ไม่มีการแสดงอารมณ์ใดๆ
ฮ่องเต้ผู้นี้ไม่ใช่คนมักมากในกาม หลับนอนอยู่ในตำหนักของตัวเองมาตั้งหลายปี แต่เพราะรักใคร่ฮองเฮา ทุกเดือนจึงเสด็จมาอยู่หลายครั้ง
เมื่อก่อนเวลาฮ่องเต้มาหา ฮองเฮาจะดีใจมาก ทว่าตั้งแต่ที่ลูกกู่ของหยิงเอ๋อร์ตายไป ท่าทีที่เขามีต่อหยิงเอ๋อร์หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปแบบปุบปับ
นางตระหนักได้อย่างถ่องแท้แล้วว่า สิ่งที่ได้ครอบครองทุกวันนี้เป็นเพียงภาพลวงตา แม้แต่ตัวนางเองก็ยังจมดิ่งอยู่ในภาพลวงตานี้ คิดว่าฮ่องเต้รักฮองเฮาเช่นนางผู้นี้จริงๆ
แต่เขาก็ไม่เคยรักใครจริงๆ เลยสักคนอยู่แล้วนิ!
"แม่นมหลาน ที่นี่ไม่ต้องให้เจ้ารับใช้แล้วล่ะ เดี๋ยวรอให้ฝ่าบาทเสด็จมาแล้ว เจ้าแวะไปหาหยิงเอ๋อร์ทางนั้น แล้วปลอบใจนางหน่อย ให้นางใช้ช่วงการกักบริเวณ ฝึกบำเพ็ญเพียรให้ดีๆ ส่วนเรื่องที่เหลือ ไม่ต้องให้นางกังวล ตอนนี้ มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เข้าใกล้นางได้"
ฮองเฮาตรัสกับแม่นมหลาน
ฮ่องเต้กริ้วจริงๆ กระทั่งแผ่นหยกสื่อสารของหยิงเอ๋อร์ยังถูกยึด ไม่ให้นางติดต่อกับโลกภายนอก
ไม่เพียงเท่านั้น ยังยกเลิกการปิดถนนที่หอไป๋เป่าเส้นนั้น ซ้ำยังบอกทุกคนในใต้หล้าว่า กักบริเวณหยิงเอ๋อร์เป็นเวลาครึ่งเดือนอีกด้วย
ตอนนั้นฮ่องเต้บอกว่าให้แม่นมหลานสอนสั่งมารยาทแก่นาง ดังนั้นนอกจากแม่นมหลานแล้ว แม้แต่ฮองเฮาก็พบนางไม่ได้
แม่นมหลานผงกศีรษะ: "เพคะ อีกเดี๋ยวหม่อมฉันจะไป"
ฮองเฮาพยักหน้า แล้วเรียกนางกำนัลคนอื่นให้เข้าไปผัดหน้าแต่งตัวให้นาง ไม่นาน ฮ่องเต้ก็เสด็จ
เย่จายซิงแอบได้ยินฮ่องเต้ตรัสทำนองว่า "เมื่อก่อนข้าปล่อยปละละเลยนางมากเกินไป"
ที่ตรัสจะต้องหมายถึงหยิงเอ๋อร์อย่างแน่นอน
ฮ่องเต้ไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของกู่เลยแม้แต่น้อย เขาคิดเพียงว่าเมื่อก่อนตัวเองโอ๋หยิงเอ๋อร์มากเกินไป ไม่ได้คิดถึงปัญหาอย่างอื่นเลย
นี่เป็นเรื่องปกติมาก เสด็จอาบอกว่า รอให้กู่ในร่างของฮ่องเต้และฮองเฮาตายก่อน ฮ่องเต้ถึงจะรับรู้ปัญหานั้นได้
ฮองเฮาเอ่ยเสียงอ่อนหวาน เอาแต่พูดว่านางสั่งสอนไม่ดีบลาบลา…..
ฟังมาถึงตรงนี้ เย่จายซิงก็ออกจากตำหนักของฮองเฮา ถึงอย่างไรก็ต้องไปตำหนักองค์หญิงที่หลิวอิ๋งพำนักอยู่
เมื่อนางถูกองครักษ์หน้าประตูตำหนักขวางทาง จึงเอ่ยว่า:
"ข้าได้รับคำสั่งจากฝ่าบาท ให้มาสอนธรรมเนียมในวังแก่องค์หญิง"
คราวนี้องครักษ์เหล่านั้นจึงปล่อยให้นางเข้าไป
เพล้ง!
ทันทีที่นางเข้าไป แจกันใบหนึ่งก็เกือบจะกระแทกใส่ศีรษะของนาง โชคดีที่นางหลบได้ไว ไม่อย่างนั้นหัวสมองคงกระทบกระเทือนแน่ๆ
"พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรไม่ให้ข้าพบเสด็จแม่! ข้าอยากพบเสด็จแม่! รอให้ข้าออกไปก่อนเถอะ ข้าจะตัดหัวหมาของพวกเจ้าแน่!"
องค์หญิงหลิวอิ๋งเท้าเอวด่าทอเสียงดัง
ด่าเสร็จถึงมองชัดว่า แท้จริงคนที่เข้ามาก็คือแม่นมหลาน
"แม่นมหลาน! ท่านมาได้อย่างไร เสด็จแม่ของข้าเล่า? เสด็จแม่ไม่มาหาข้าหรือ?"
หลิวอิ๋งมองเลยไปด้านหลังนาง
ประตูถูกลงกลอนแล้ว ด้านนอกเงียบสงัด
หลิวอิ๋งกัดฟันอย่างน้อยใจ "แม่นมหลาน ทำไมเสด็จแม่ไม่มาหาข้า? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมเสด็จพ่อถึงกลายมาเป็นเช่นนี้?"
เห็นได้ชัดว่า หลิวอิ๋งไม่รู้เรื่องที่มีลูกกู่อยู่ในร่างกายของตัวเอง ฮองเฮาไม่ได้บอกนาง
"ชู่ องค์หญิง เบาเสียงหน่อยเพคะ กำแพงมีหูประตูมีช่อง หม่อมฉันจะเข้าไปบอกท่านเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...