โม่เสิ่นยวนและเย่ยู่หยาง เดินทางมาจากแผ่นดินเทียนเหย้า จนมาที่นี่เหนือสุดของแผ่นดินหลิงเซียว
แผ่นดินหลิงเซียว มีขนาดใหญ่เป็นสามเท่าของแผ่นดินเทียนหล้า แม้ว่าจะนั่งวาร์ปมา แต่ก็ใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว ประกอบกับบางทีไม่เคยวาร์ปมาก่อน เลยต้องนั่งเรือเหาะมาที่วาร์ปนี้แทน
ดังนั้นพวกเขาเลยมาถึงที่เซียนเหอในช่วงบ่ายของวันที่สอง
“พี่เขย ตอนนี้พี่สาวข้าร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง?”
เย่ยู่หยางถามด้วยความกังวล
ตั้งแต่ที่รู้ว่าแหวนของโม่เสิ่นยวนกับแหวนของพี่สาวผูกโยงกันไว้ มันสามารถเหนี่ยวนำรับรู้ถึงสถานการณ์ร่างกายของพี่สาวได้ นางก็จะคอยถามแบบนี้เป็นระยะ
โม่เสิ่นยวนไม่เคยรู้สึกรำคาญเลยสักนำ เขาตอบว่า “ตอนนี้นางสบายดี”
เขาเองก็คอยใช้แหวนนี้ดูสถานการณ์ร่างกายของนางอยู่ตลอด ตอนนี้นางสบายดีจริงๆ ระดับพลังชีวิตอ่อนแอลงไปมาก ช่วงบ่ายของวันนี้ เขายังสัมผัสได้ถึงความคิดการต่อสู้ของนางได้อยู่เลย
นางฟื้นขึ้นมายังต่อสู้กับคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เขารู้สึกภูมิใจก็คือ นางดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ สักนิด
นอกจากจะไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงจิตใจของนางได้อีก แถมยังติดต่อกับป้ายหยกนางไม่ได้อีกด้วย สถานการณ์โดยรวม ก็ถือว่ายังดีอยู่
พลังคำสาปในตัวของนางก็ถูกควบคุมไว้อยู่ ทำให้เขามีเวลามากขึ้นในการคิดหาวิธีแก้คำสาปของนางได้
“งั้นก็ดี ถ้าเหยียนเฟิงหาพี่สาวเขาเจอได้เร็วๆ ก็ดีสิ”
เย่ยู่หยางพูดอย่างโล่งใจ
ทำไมโม่เสิ่นยวนจะไม่อยากเจอนางเร็วๆ หล่ะ
“จัดการเรื่องคำสาปให้เสร็จ แล้วพวกเราค่อยไปตามหานาง”
เขากล่าว
โม่เสิ่นยวนพยักหน้า
“พวกเรารีบไปเผ่าหงส์กันเถอะ”
เผ่าหงส์เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในเซียนเหอ สายเลือดที่แท้จริงของหงส์สืบทอดมาหลายยุคหลายสมัย มีบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยที่ขึ้นไปอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว
พื้นที่ของเผ่าหงส์ คิดเป็นหนึ่งในสิบของเซียนเหอ จะเห็นได้ว่าชนเผ่านี้สามารถมีพื้นที่กว้างใหญ่ได้ถึงขนาดนี้เลยทีเดียว
ถ้ามองลงมาจากบนฟ้า จะมองเป็นใจกลางของเซียนเหอ สิ่งก่อสร้างที่เชื่อมโยงติดต่อกันนั้นก็คือ คฤหาสน์ของเผ่าหงส์
เมื่อทั้งสองมาถึงก็หารือกันถึงวิธีเข้าไปในเผ่าหงส์ก่อน แล้วค่อยหาคนที่ลงคำสาปใส่เย่จายซิง
นี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุด
ก่อนที่ทั้งสองจะถึงเขตของเผ่าหงส์ พวกเขาก็ได้ยินเสียงฆ้องและเสียงกลอง ส่งเสียงลอยมาอย่างมีความสุข
“มีใครแต่งงานอย่างนั้นหรือ?”
เย่ยู่หยางพูดอย่างสงสัย
“ไม่ใช่หรอก เป็นงานหมั้นต่างหากล่ะ”
โม่เสิ่นยวนดึงเย่ยู่หยางถอยลงมา ให้ขบวนงานหมั้นผ่านไปก่อน
เย่ยู่หยางไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็แค่งานหมั้นของใครสักคน ที่ผ่านมาทางนี้ แต่คาดไม่ถึงว่า ชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งก็พลิกตัวลงจากท้า ไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ของเผ่าหงส์
“นั้นคือเจ้าบ้านป๋ายหลี่ นี่!เจ้าบ้านป๋ายหลี่ จะหมั้นกับองค์หญิงของเผ่าหงส์งั้นรึ!”
“ว้าว!ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ!เจ้าบ้านป๋ายหลี่ ตามจีบองค์หญิงเผ่าหงส์มานานสิบกว่าปี ในที่สุดก็ได้นางมาครอบครองแล้ว!”
“ในที่สุดก็เกี่ยวดองเป็นเครือญาติกันแล้ว!”
คนรอบๆ พูดจากันอย่างคึกคัก
เลือดฝาดบนใบหน้าของเย่ยู่หยาง ค่อยๆ จางหายไป
องค์หญิงเผ่าหงส์ คงไม่ใช่ท่านแม่ของเขาหรอกนะ?
แม่ของเขา จะหมั้นกับคนอื่นอย่างงั้นหรือ?
เขาเดินตามขบวนไปอย่างไม่รู้ตัว แต่โดนโม่เสิ่นยวนดึงเอาไว้ก่อน
“อย่าพึ่งบุ่มบ่าม ตอนนี้ยืนยันให้ได้ก่อนว่าเจ้ากับน้องซิงเป็นลูกของนางแล้วค่อยว่ากัน”
โม่เสิ่นยวนพูดเสียงต่ำกับเขา
“นาง” หมายถึงองค์หญิงหงส์นั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...