“พี่เย่ สองคนนั้นมาเพื่อแก้แค้นเจ้าหรือ?”
ระหว่างทางกลับไปสำนักถามอย่างกังวล ซินเสียนก็ถามอย่างไม่สบายใจ
สองคนนั้นยโสโอหัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีคนนั้น ราวกับว่านางจะดูถูกคนไปทั่ว
สายตาแบบนั้นทำให้ซินเสียนไม่ชอบใจมาก ราวกับว่านางมองมดปลวกที่อยู่บนพื้น
สำนักเสวียนปิงเป็นสำนักที่มีชื่อเสียง สำนักเฉียนคุนยังไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายจะดูถูก
อย่างไรก็ตาม ซินเสียนกลัวว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวาย
“ไม่ต้องกังวล”
เสียงของเย่จายซิงสงบ การปรากฏตัวของฉียวี่เจียและกัวเจียงไม่ได้ทำให้นางตื่นตระหนกมากนัก
ตอนที่นางเห็นทั้งสองคน นางก็รู้ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสอบสวนสาเหตุการตายของผู้อาวุโสจู
นางถือว่าจบความเกลียดชังกับสำนักเสวียนปิงแล้ว
แต่สองคนนี้ไม่ได้มีความเกลียดชังกับนาง ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นต้องฆ่าสองคนนี้
รอให้อีกฝ่ายใช้วิธีนี้ก่อนค่อยว่ากัน นางไม่มีอะไรต้องกลัว อีกทั้งนางก็ยังหวังว่าจะได้เจอกับอันตราย เพื่อกระตุ้นศักยภาพร่างกายของนางให้ผ่านพ้นอันตราย เพื่อให้อาวุธวิเศษและสิ่งอื่น ๆ ที่นางเคยใช้แต่ไม่มีในความทรงจำออกมา
ดังนั้นนอกจากเรื่องที่หมวกถูกทำร้ายทำให้นางไม่พอใจแล้ว นางก็สลัดคนทั้งสองออกจากสมองทันที
เมื่อเห็นว่านางไม่กังวลแล้ว ซินเสียนก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อารมณ์ของนางถึงได้สงบลง
ราวกับว่านางมีพลังเวทที่สามารถกระจายไปยังคนรอบข้างได้
หลังจากกลับไปถึงสำนัก เย่จายซิงก็ไปหาผู้อาวุโสสามเพื่อกลั่นยาสองสามหม้อ จากนั้นก็กลับไปนอน
นางผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรในความฝันขอนาง และนางก็ยังตื่นเช้าด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม
นางไม่รู้ว่าในทุกคืนขวดกลืนอัมภรต่างก็เข้าไปในร่างกายเพื่อระงับคำสาปของนางเอาไว้
ทั้งยังมีดอกเสี่ยวจิน ที่ทำให้เส้นชีพจรภายในของนางแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน พลังวิญญาณที่สะสมไว้นั้นมากกว่าของผู้อื่นหลายเท่า แม้ว่าการบ่มเพาะของนางจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่นางก็รู้ดีว่าพลังของนางกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างแข็งแกร่ง
และนางก็แทบไม่ต้องบ่มเพาะอะไรเลย
หลอมยาตอนกลางวันสิ้นเปลืองพลังจิตไปจนหมด พอนอนพักผ่อนก็เติมเต็มพลังกลับมา ดังนั้นการรับรู้ของนางจึงเพิ่มขึ้นไปทีละขั้น
ดูเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น
นอกจากนางแล้วก็ไม่มีอะไรที่คิดออกอีก
เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นางนั่งอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง นางอึ้งไปครู่หนึ่งโดยที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก
นางรู้สึกราวกับว่านางฝันถึงชายคนหนึ่ง แต่เมื่อนางตื่นจากความฝัน ทุกอย่างในความฝันนั้นก็หายไป ราวกับว่าแม้แต่ความฝันก็ยังเป็นเพียงภาพลวงตา
ดูเหมือนจะมีหมอกหนาทึบอยู่ในหัวของนาง และนางก็ไม่สามารถกำจัดหมอกหนานี้ได้
หลังจากที่นางจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ก็ไปหาผู้อาวุโสสาม
“จายซิง โอสถเพิ่มทิพย์ที่เจ้ากลั่นมาพอใช้แล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้น วันนี้พวกเรามากลั่นยาชนิดอื่นดีหรือไม่?”
สายตาที่ผู้อาวุโสมองดูนาง มันดูสนิทสนมมากกว่าที่เขามองลูกศิษย์คนอื่น
“โอสถเพิ่มทิพย์” ชื่อที่เจ้าสำนักตั้งชื่อ แต่มันก็เข้ากับผลของยา
ยาโอสถเพิ่มทิพย์ที่กลั่นมาเป็นเวลาหลายวัน คนในสำนักมากกว่าหนึ่งร้อยคนได้กินไปแล้วสามสี่เม็ด แน่นอนว่าผลที่ได้นั้นก็มีทั้งดีและแย่
ตัวอย่างเช่น รากทิพย์ของซินเสียนกลายเป็นรากเดี่ยวหลังจากกินเม็ดที่สี่ไป และพรสวรรค์บ่มเพาะเพิ่มขึ้นมากกว่ารากทิพย์สามรากก่อนหน้านี้หลายสิบเท่า
แต่เมื่อเย่เส้ากินเพียงเม็ดเดียวก็ได้ผลดี และจากนั้นก็กินอีก ผลที่เปลี่ยนไปจึงไม่มากนัก
ยังมีลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์พื้นฐานต่ำเกินไป จึงไม่มีศักยภาพ กินโอสถเพิ่มทิพย์ก็ยังไม่มีประโยชน์
ผลกระทบนี้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
“ก็ได้ ข้าอยากลองหลอมโอสถไขกระดูกเยือก เมื่อวานตอนข้าออกไปข้างนอก ข้าก็ซื้อยาวิญญาณมาครบแล้ว”
เย่จายซิงกล่าวกับผู้อาวุโสสาม
“โอสถไขกระดูกเยือกยากเกินไป ถ้าเจ้ายินดีจะลองก็ลองเถอะ อย่างไรเสียเมื่อถึงเวลานั้นที่เจ้าหลอมออกมาไม่ได้ก็อย่าท้อแท้ ยานี้ตอนนี้ก็มีเพียงราชายาที่อยู่ในตระกูลไป๋หลี่คนนั้นที่สามารถหลอมได้ เขาเป็นอาจารย์กลั่นยาขั้นแปดแล้ว
ผู้อาวุโสสามครุ่นคิด เขากังวลว่าเย่จายซิงจะล้มเหลวแล้วหดหู่
พรสวรรค์ในการกลั่นยาของเย่จายซิงนั้นดีที่สุดที่เขาเคยเห็นมา ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้นางเอาแต่กลั่นยาโดยไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...