บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 53

หรงจิ่งเฉินรับเอาห่อสัมภาระมา เพ่งตัวสำนึกมองเข้าไปชั่วครู่และเกือบจะล้มลงไป

“ยาขั้นสูงมากมายเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเจ้าก็เอาใส่ไว้ด้วยกันในแจกันเดียวแบบส่งๆ ใครไม่รู้คิดว่าข้างในที่ใส่อยู่เป็นลูกอมถั่วซะอีก!”

เขาเอาแจกันในห่อสัมภาระออกมา แจกันหยกนั้นโปร่งแสงอยู่ครึ่งหนึ่ง จึงสามารถมองเห็นยาสีน้ำเงินเข้มที่บ่งบอกว่าเป็นยาขั้นหกกองหนึ่งอยู่ในนั้นได้อย่างคร่าวๆ

ฝาปิดครอบก็ไม่มี พอหยิบออกมาจู่ๆ กลิ่นของยาก็ลอยเข้าจมูก เขารีบสร้างม่านอาคมขึ้นมาทันที เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นยาที่จะลอยออกไป ไม่ให้ดึงดูดสิ่งก่อกวนให้เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น

แต่แม้ว่าความเร็วของเขาจะเร็วเพียงใดก็ยังไม่ทันที่กลิ่นยาไม่น้อยนั้นลอยออกไปทางนอกหน้าต่าง คนที่เดินอยู่บนถนนหยุดฝีเท้าหันหน้ากลับมาด้วยความประหลาดใจ

“กลิ่นยาที่รุนแรงมาก!”

“กลิ่นสดชื่นถึงใจ ยานี้อย่างน้อยต้องขั้นห้าขึ้นไปน่ะสิ!”

เบื้องล่างเกิดเสียงถกเถียงจากผู้คนขึ้นมา พอผ่านไปชั่วครู่กลิ่นที่รุนแรงนั้นก็ค่อยๆ หายไป ทุกคนจึงเริ่มแยกย้ายกันไป

เย่จายซิงกล่าวว่า

“ระยะเวลาเพียงนิดเดียวข้าหาภาชนะบรรจุมากมายเช่นนั้นไม่ได้ จึงหยิบเอาแจกันมาใส่ตามสะดวก มันไม่เป็นอะไรสักหน่อย อย่างไรก็ตามไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของยาแน่นอน”

หรงจิ่งเฉินหุบยิ้ม ร้านยาของคนอื่นยาหนึ่งเม็ดต่อขวดยาหนึ่งขวดจึงจะดูมีมูลค่าอย่างเห็นได้ชัด แต่นี่อะไรกันหยิบเอาแจกันมาบรรจุรวมกัน แต่แบบนี้แล้วถึงจะเห็นได้ชัดว่าเขาและอาจารย์กลั่นยาของเขาที่อยู่ด้านหลังแตกต่างไปจากผู้อื่นไม่ใช่หรือ?

อาจารย์กลั่นยาที่สามารถกลั่นยาเลี้ยงจิต 100เม็ดออกมาได้ในระยะเวลาไม่กี่วัน ทั่วทั้งดินแดนแห่งนี้นับว่าอยู่ในอันดับต้นๆ เลย แต่หรงจิ่งเฉินไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าอาจารย์กลั่นยาคนไหนที่จะมีความเร็วเช่นนี้ อีกทั้งยังกลั่นยาออกมาได้อย่างไม่มีตำหนิเช่นนี้เลยด้วย

“ข้าตรวจดูแล้ว ทั้งหมดไม่มีปัญหา นี่เป็นเงินงวดสุดท้ายที่เหลืออยู่ ข้าฝากไว้ในร้านแลกเงินผานหลง เอาบัตรผลึกนี้ไปก็สามารถไปรับเงินออกมาได้ตามสบายเลย”

เขาเอาบัตรผลึกสีดำอันหนึ่งวางไว้ด้านหน้าเย่จายซิง

บัตรผลึกบางมาก ได้ยินมาว่าทำมาจากแกนผลึกของอสูรปีศาจ ด้านบนสลักอักษรไว้ 4ตัวว่า “ร้านแลกเงินผานหลง” ด้านล่างสุดยังมีตัวอักษรเล็กๆ ในนั้นเขียนจำนวนเงินเป็นลายลักษณ์อักษรไว้อยู่ ยอดเงินจะเปลี่ยนแปลงตามการฝากถอนได้ทุกเมื่อ

นี่มันน่าใช้ยิ่งกว่าบัตรเครดิตเสียอีก และขอแบบนี้มีเพียงสหการค้าผานหลงเท่านั้นที่มี ผู้อื่นไม่สามารถปลอมแปลงขึ้นมาได้

เย่จายซิงมองดูยอดเงินและเก็บบัตรผลึกขึ้นมาด้วยความพอใจ มีเงินจำนวนนี้ในที่สุดนางก็จะไม่มีหนี้สินอีกต่อไป ไม่เสียแรงที่นางกลั่นยาข้ามวันข้ามคืน

เท่ากับว่าตัวนางเองร่ำรวยเพียงชั่วข้ามคืนหรือเนี่ย?

“น้องเย่ ป้ายหยกชิ้นนี้มอบให้เจ้า เป็นเพราะเจ้าข้าจึงสามารถรวบรวมยาเลี้ยงจิตได้ไวเช่นนี้ เจ้าช่วยข้าได้มากเลยทีเดียว นับว่าข้าติดค้างน้ำใจเจ้าไว้ ต่อไปเจ้ามีปัญหาอะไรสามารถนำป้ายหยกชิ้นนี้มาที่สมาคมหยกหิมาลัยได้”

หรงจิ่งเฉินปลดป้ายหยกอันหนึ่งออกมาจากข้างเอว ซึ่งเป็นลายโบราณที่ลึกลับ และส่งมอบไปที่เบื้องหน้าเย่จายซิง

สมาคมหยกหิมาลัยนางจำได้ว่าเป็นที่ที่ขายพวกเครื่องรางของขลัง ทั้งหมดต่างเป็นของขลังชั้นหนึ่งทั้งนั้น คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับเขา นางพยักหน้าและรับมา ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับ ในชีวิตคนเราก็อาจจะต้องเจอกับเรื่องที่ไม่สามารถจัดการได้ มีเพื่อนเพิ่มมาหนึ่งคนก็เท่ากับมีหนทางเพิ่มมาอีกหนึ่งหนทาง

อีกยอ่างหรงจิ่งเฉินเป็นเศรษฐีใหญ่ ไม่แน่ว่าภายภาคหน้าอาจจะยังต้องได้ทำการค้ากับเขาอีก

โชคดีที่มีเขา ตัวเองจึงสามารถหาเงินได้มากมายเช่นนี้ เพียงพอที่นางจะคืนเงินให้แกจวินหยวน อีกทั้งยังเพิ่มขั้นของโลกเสมือนได้หลายครั้งเลย

หรงจิ่งเฉินชอบนิสัยที่ง่ายๆ ของเขา ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า

“น้องเย่ ข้าต้องรีบส่งยาเลี้ยงจิตกลับไป พวกเราขอตัวก่อน หวังว่าวันหน้าจะได้พบกันในเร็ววันอีก! ถึงตอนนั้นข้าจะดื่มและคุยกับเจ้ายันฟ้าสางเลย”

“พี่หรงมีธุระก็ไปก่อนเถอะ วันหลังมีโอกาสไว้เจอกันใหม่ได้”

พอรอจนหรงจิ่งเฉินจากไป เย่จายซิงก็ออกจากโรงน้ำชาไปและเปลี่ยนเพื่อกำจัดการแปลงโฉมทิ้งไป แล้วสวมหมวกปิดบังไว้ไปยังร้านแลกเงินผานหลง

พอพูดถึงการแปลงโฉม หลังจากที่นางกลืนกินเพลิงพิลึกเข้าไป แล้วกลั่นยาแปลงโฉมที่สามารถเปลี่ยนเส้นเสียงออกมาได้ นี่ก็เป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดนางถึงสามารถเจรจากับหรงจิ่งเฉินได้นั่นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา