บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 54

องค์หญิงหลิงหยุนจ้องไปยังห้องรับรองโดยไม่วางตาย นางรู้สึกว่าอีกประเดี๋ยวเย่จายซิงก็จะต้องถูกผู้ดูแลโจวไล่ตะเพิดออกไปเป็นแน่

บัตรผลึกดำแม้ว่านางยังไม่มีเลย เย่จายซิงยิ่งไม่ควรจะได้ครอบครอง คงจะดวงดีเจอใครบังเอิญทำตกไว้เป็นแน่เลยเก็บเอามา

เพียงแค่ผู้ดูแลโจวตรวจสอบตัวสำนึกที่อยู่บนบัตรผลึก ติดต่อเจ้าของที่ทำหายตัวจริงได้ ความละโมบที่แท้จริงของเย่จายซิงก็จะถูกเปิดโปง นางรอที่จะซ้ำเติมเย่จายซิงอยู่

ใครจะไปรู้ว่ารอแล้วรอเล่า แต่กลับไม่มีใครไล่ตะเพิดเย่จายซิงออกมาเลย และตอนที่นางก็จะอดทนรอไม่ไหวแล้วนั้น ก็เห็นผู้ดูแลโจวเปิดประตูออกมา ใบกน้ามีรอยยิ้ม ค่อยๆ โค้งคำนับตัวลง ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน

“คุณหนูเย่ เชิญ”

สีหน้าของเย่จายซิงเดินออกมาอย่างเกียจคร้าน

องค์หญิงหลิงหยุนอ้าปากค้างแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เป็นไปได้ยังไง!

หรือว่าบัตรผลึกดำนั้นเป็นของเย่จายซิงจริงๆ?

ไม่ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะมีเงินมากมายเช่นนั้น แม้ว่าตอนนั้นที่เทพสงครามยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่สามารถเก็บสะสมเงินมากมายได้เช่นนี้

นางคิดไปคิดมาก็นึกถึงจวินหยวน

แค่จวินหยวนเลี้ยงอสูรทิพย์กิเลนตัวเดียวก็หนักหนามากพอแล้ว แต่ไม่ว่าจะกินหรือใช้ล้วนต้องเป็นของดีที่สุด แม้แต่ในวังยังเทียบไม่ได้กับจวนอ๋องของเขาเลย

ความเป็นมาของจวินหยวนนั้นยังเป็นสิ่งคลางแคลงใจอยู่ คนที่นางส่งออกไปสืบทั้งหมดก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อมาก็เลยไม่กล้าที่จะสืบต่อไปแล้ว

นางขมวดคิ้วแล้วคิดในใจว่า

“หรือเป็นไปได้ว่าความจริงแล้วจวินหยวนมาจากตระกูลที่ร่ำรวย?”

แต่นางไม่เคยได้ยินว่าตระกูลที่ร่ำรวยนั้นมีแซ่จวินด้วย จึงคาดเดาไม่ได้ในตัวจวินหยวน

คิดไม่ถึงว่าจวินหยวนจะดีกับหญิงอัปลักษณ์ถึงเพียงนี้ นี่ทำให้ในใจของนางขัดแย้งกันอยู่ นางเป็นถึงองค์หญิงของแคว้นคิดไม่ถึงว่ายังสู้คนอัปลักษณ์คนหนึ่งไม่ได้เลย

เย่จายซิงเดินก้าวใหญ่ไปด้านหน้า แม้แต่ชายตามององค์หญิงหลิงหยุนยังไม่เลย

องค์หญิงหลิงหยุนกัดริมฝีปากล่างแน่นแล้วเดินตามออกไป กล่าวด้วยเสียงทุ้มในตอนที่อยู่ใกล้กับนางว่า

“เย่จายซิง เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป พึ่งพาผู้ชายจะได้สักเท่าไหร่เชียว ก็คงไม่นานหรอก เจ้าก็ต้องถูกจวินหยวนทิ้ง!ความรู้ในตอนนี้ที่เขามีต่อเจ้าก็แค่เป็นความแปลกใหม่ อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่เคยพบหญิงหน้าตาอัปลักษณ์เช่นเจ้าแบบนี้มาก่อน!”

เย่จายซิงค่อยๆ เลิกคิ้วขึ้นแล้วคิดว่าองค์หญิงคนนี้น่าจะสติไม่ดีหรือเปล่า?

นางก็ไม่ได้ถือสาอะไรต่อองค์หญิงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ดูที่นางทำคิดไม่ถึงว่าจะมาหาเรื่องกับ

“ได้สิ งั้นพวกเราก็มารอดูกัน!”

นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่ได้เห็นองค์หญิงหลิงหยุนอยู่ในสายตาแม้แต่นิด

คนอย่างเย่จายซิงนางไม่ใช่ผู้หญิงที่จะเอาชีวิตรอดด้วยการพึ่งพาผู้ชายมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ที่ติดค้างจวินหยวนในตอนนี้อยู่นั้นนางก็จะคืนให้หมดสิ้น ต่อไปนางมีความสามารถที่แท้จริงแล้วก็ยิ่งไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายอีกต่อไป

ดังนั้นองค์หญิงหลิงหยุนคิดว่าคำพูดนี้จะทำให้นางอึ้งไปจนทำอะไรไม่ถูก ความจริงแล้วนางได้ฟังแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจอะไร อีกอย่างในใจของนางไม่ได้มีจวินหยวนอยู่ แล้วจะไปรู้สึกตื่นเต้นได้อย่างไรกัน

เพียงแค่คำว่า “อัปลักษณ์” ทำแสลงหูนาง แต่มันก็เป็นความจริง ใครให้พิษที่อยู่ในตัวนางดันลามขึ้นไปบนหน้ากัน

รอจนถึงตอนที่กำจัดพิษบนหน้าออกไปได้อย่างสิ้นเชิงก็ถึงเวลาที่นางจะต้องฟื้นฟูรูปลักษณ์ก่อนหน้านี้ของนาง

นางกวาดสายตามองไปยังองค์หญิงหลิงหยุนชั่วครู่ องค์หญิงหลิงหยุนแต่งหน้างดงามและละเอียดลออ ความเย่อหยิ่งที่อยู่ตรงหว่างคิ้วของนางแสดงให้เห็นถึงการถูกตามใจจนเคย แต่เห็นได้ชัดว่าดวงตาของนางกลับมืดมนเล็กน้อย จะสวยก็ว่าสวยแหละ แต่หากเปรียบกับนางในเมื่อก่อนแล้วนั้นคงจะเทียบไม่แค่เพียงหนึ่งดาวครึ่ง

ด้วยเหตุนี้สายตาที่มองไปนี้แฝงไว้ด้วยความหมายของการดูถูกรังเกียจเล็กน้อย

องค์หญิงหลิงหยุนมองมายังสายตาของนาง โมโหจนปอดจะระเบิด รูปลักษณ์ของตนราวกับดอกไม้ คนที่ตามจีบนางต่อแถวรอคิวกันไปถึงตอนตะวันออกเลย คิดไม่ถึงว่าหญิงอัปลักษณ์อย่างเย่จายซิงจะใช้สายตาที่เหยียดหยามดูถูกนางมาจ้องนางเช่นนี้ได้

ตามความคิดของนางมันก็คือการยั่วยุที่f6gfnvf

เย่จายซิงนางอาศัยว่ามีอ๋องเซ่อเจิ้งคอยให้ท้าย ไม่เห็นอำนาจฮ่องเต้อยู่ในสายตา ไม่เคารพองค์หญิง ช่างเป็นคนต่ำทรามที่ไร้คุณธรรมอย่างยิ่งยวด!

“เจ้ารอข้าก่อนละกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา