บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 55

เย่จายซิงรู้สึกว่าจวินหยวนน่าจะป่วย แล้วก็อาการก็ไม่เบาด้วย

นางถูกเขาบังคับให้อยู่ในอ้อมอก หายใจใกล้จะไม่ออกแล้ว ปลายจมูกแอบอิงอยู่ในลมปราณที่ครอบงำของเขา ทำให้นางเกิดความรู้สึกไม่มีทางหนีขึ้นมา

ท่าทางเจ้าอารมณ์เช่นนี้ของเขาทำให้นางยิ่งอยากจะหนีไปซะ

แค่ความฝันเดียว จะบ่งบอกอะไรได้หรือ แหวนก็เช่นกันจะอธิบายถึงอะไรได้กัน นางไม่ใช่คนที่เชื่อในชะตา และนางไม่สามารถเข้าในสิ่งที่เขาพูดจริงๆ ว่าตัวเองถูกลิขิตมาให้พัวพันกับเขาชั่วชีวิต

“ครอกๆ เจ้าปล่อยข้าก่อน มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน”

นางใช้แรงดันเขาออก มันรู้สึกราวกับว่าสะบักไหล่กำลังจะถูกเขาหักแหลกก็ไม่ปาน

“เจ้าทำตัวดีๆ หน่อย อย่าคบหากับนายน้อยแห่งตระกูลขุนนางที่สันโดษจนสนิทสนมเกินไป หากข้าหึงขึ้นมาละก็ไม่แน่ว่าอาจจะทำเรื่องบางอย่างออกมาได้”

เขาปล่อยนางออก แต่กลับใช้ดวงตาที่อันตรายคู่นั้นจ้องนางอยู่ น้ำเสียงทั้งอ่อนโยนทั้งยืดยาด ทำให้เย่จายซิงเกือบเข้าใจผิดคิดว่าตนเองมีความรักความสัมพันธ์กับเขามานมนานหลายปีก็ไม่ปาน

นายน้อยแห่งตระกูลขุนนางที่สันโดษ? หรือว่าที่เขากล่าวถึงคือหรงจิ่งเฉินราชสีห์ผมทอง?

นางไม่ทันได้คิดเยอะ ก่อนอื่นต้องไหลตามจวินหยวนไปก่อน ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งของนาง ที่จริงแล้วจวินหยวนก็ปลอบง่าย พูดไปไม่กี่ประโยคที่น่าฟังหน่อยเขาก็ไม่สืบสาวหาความนางแล้ว

“เสด็จอา ท่านวางใจได้ นอกจากเสี่ยวยู่ ข้าจะไม่สนิทกับผู้ชายคนอื่นอย่างแน่นอน”

นางกล่าว

“เย่ยู่หยางก็ไม่ได้เช่นกัน”

เขากล่าวด้วยเสียงเย็นชา

เย่จายซิง: ……

เจ้าแยกแยะหน่อย นั่นมันน้องชายแท้ๆ ของข้า!

ในตอนที่ควรอ่อนข้อนางก็อ่อนข้อ ในตอนที่ไม่ควรอ่อนข้อก็ต้องกล้าที่จะปฏิเสธ

นางกล่าวว่า “เสี่ยวยู่ เป็นน้องชายข้า ข้าจะไม่สนิทสนมกับเข้าได้อย่างไร หรือว่าเสด็จอาท่านหวังอยากจะเห็นความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างข้าและ เสี่ยวยู่จืดชืดหมางเมินเช่นนี้หรือ? หากพ่อแม่ข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกท่านจะต้องไม่อยากเห็นภาพแบบนี้เป็นแน่”

จวินหยวนสบตากับนาง มองดูดวงตาที่แบ่งแยกผิดชอบชั่วดีของนาง สีหน้าท่าทางดูแข็งกระด้างเล็กน้อย อีกทั้งยังแอบแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยม ทำให้ดูราวกับว่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาก็ไม่ปาน

และไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนจะเล่นละครตบตาเขา แต่อยากจะขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ให้ชัดเจนต่างหาก

“ใกล้ชิดสนิทสนมได้ แต่สนิทแนบแน่นไม่ได้”

เขาตัดสินใจอ่อนให้นาง

เย่จายซิงยิ้มออกมาที่มุมปาก พบว่านอกเหนือจากเรื่องที่ต้องการหนีจากเขาไปที่กระทบถึงเส้นตายของเขาได้ เรื่องอื่นๆ ต่างสามารถคุยกันได้ดีเลยทีเดียว

หากเขาไม่ได้ยึดติดขนาดนี้ ความปรารถนาที่อยากจะควบคุมไม่ได้แข็งแกร่งเช่นนี้ คำพูดไม่ได้ครอบงำเช่นนี้ นางก็น่าจะพิจารณาที่จะอยู่ด้วยกันกับเขาก็ว่าได้ อย่างไรเสียนางก็ไม่ไม่เคยพบเจอผู้ชายคนไหนที่ดูดีเท่าเขามาก่อนเลย หากถอดหน้ากากออก นางสามารถดูได้ทั้งวันจนไม่เลี่ยนเลย

แต่บนโลกนี้จะมีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นได้อย่างไรกัน

“งั้นบัตรผลึกนี้......”

บัตรผลึกที่นางจะคืนเงินให้เขายังอยู่ในมือนางเลย

“ก็เก็บเอาไว้ให้เป็นสินสอดให้ตัวเจ้าเอง”

เขากล่าวด้วยเสียงที่เรียบเฉย

คนดีอะไรปานนี้ เงินทองมากมายเช่นนี้ต่างไม่อยู่ในสายตาเลย แท้จริงแล้วเขามีทรัพย์สมบัติในครอบครองมากเพียงใดเชียว?

จู่ๆ นางก็สงสัยในประวัติความเป็นมาฐานะของเขาขึ้นมา คงไม่ใช้พวกลูกชายคนเดียวที่ตระกูลร่ำรวยทอดทิ้งไปอะไรทำนองนั้นหรอกมั้ง?

เมื่อก่อนนางไม่ค่อยเข้าใจในทรัพย์สมบัติของตระกูลใหญ่พวกนั้นในแผ่นดินเทียนเหย้า หลังจากรู้จักกับหรงจิ่งเฉินแล้ว ก็แอบรู้สึกว่าในสายตาของนางคือความมั่งคั่งมหาศาล บางคนก็สามารถเอาออกมาได้ตามอำเภอใจได้

หลังจากนั้นที่เมื่อครู่นี้จวินหยวนพูดถึงนายน้อยตระกูลขุนนางที่สันโดษต้องหมายถึงหรงจิ่งเฉินอย่างแน่นอน จวินหยวนมีสายอยู่ทุกที่ คิดว่ามีหลายวิธีที่เขารู้เรื่องที่ตนและหรงจิ่งเฉินทำการค้าขายกัน นางก็ไม่นับว่าแปลกใจเท่าไรสำหรับจุดนี้

หรงจิ่งเฉินเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งยาเลี้ยงจิตอย่างเร็ววัน ไม่เสียดายเงินที่จ่ายออกไปอีกเท่าหนึ่งเพื่อที่จะซื้อจากนางตรงนี้ อธิบายได้ว่าตระกูลขุนนางที่สันโดษของพวกเขานั้นต้องมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งเป็นแน่ เงินเล็กน้อยแค่นี้มันก็แค่หยิบมือเดียวเท่านั้นเอง

ตอนที่จวินหยวนประมูลจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงและเพลิงพิลึกขั้นห้ามาให้นางได้นั้นก็เป็นท่าทีที่แม้แต่นิดก็ไม่ระแคะระคายอะไรเลย และเขาไม่มีกิจการที่แคว้นหงส์แดง และก็ไม่เคยใช้เงินในท้องพระคลังมาก่อนเลย น่าจะประเมินได้ว่าทรัพย์สมบัติพวกนั้นน่าจะเป็นของตระกูลเขา

มิน่าตระกูลขุนนางเล็กๆ อยากจะเกี่ยวดองกับตระกูลขุนนางใหญ่ และก็ยังมีผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ต้องแต่งเข้าไปในตระกูลขุนนางใหญ่ให้ได้ เส้นสนกลในไม่ใช่คำที่จะเข้าใจได้ง่ายๆ เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา