บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 57

“อ๋องเซ่อเจิ้ง เป็นนางที่ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลงมือตบตีข้า ทำไมท่านจึงให้ท้ายนาง หากท่านเป็นเช่นนี้จะตามใจจนนางเสีนคนได้!”

เย่เจียหยูกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด แก้มทั้งสองข้างบวมขึ้น ในใจไม่ยินยอม

“ผู้หญิงของข้า ข้าอยากจะตามใจให้ท้ายอย่างไร จำเป็นต้องให้เจ้ามาเจ้ากี้เจ้าการหรือ?”

จวินหยวนกวาดสายตามองมายังนาง

สีนหน้าของเย่เจียหยูซีดขึ้นมาทันที คิดไม่ถึงว่าอ๋องเซ่อเจิ้งจะหลงเสน่ห์เย่จายซิงถึงขั้นนี้แล้ว

นางคิดมาตลอดว่าเขาแค่เล่นๆ เท่านั้น ก็เหมือนกับเลี้ยงแมวไว้เป็นของเล่นแบบนั้น

บนโลกนี้มีผู้ชายที่ชอบคนอัปลักษณ์เช่นนี้จริงๆ หรือ? นางรู้สึกว่ามันไม่น่าเป็นไปได้

อีกทั้งยังรู้สึกว่าตนเองในตอนนี้อับอายขายขี้หน้ามาก

“เจ้าไปให้พ้นๆ ซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า!”

เย่ยู่หยางกล่าวออกมาด้วยเสียงดังอย่างรังเกียจ

เย่เจียหยูกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น และบีบผ้าเช็ดหน้าไว้แน่นเช่นกัน ในใจกล่าวว่าพวกเจ้าสองพี่น้องรอข้าก่อนเถอะ วันหลังข้าจะต้องคิดหาวิธีสั่งสอนพวกเจ้าอย่างโหดเหี้ยมแน่นอน

นางไม่กล้าอยู่นาน หันหลังแล้วก็จากไป ยังไม่ลืมที่จะแสร้งทำท่ทางเจ็บปวดเสียใจเช่นนี้ออกมา คิดจะขอความเห็นใจจากคนอื่นได้ทุกที่ทุกเวลา

“เสี่ยวยู่ นางพูดอะไรกับเจ้าบ้าง?”

เย่จายซิงถามน้องชายอย่างเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย

ตอนที่นางมาถึงพอดีเห็นน้องชายกำลังซักถามอะไรบางอย่างมาทางเย่เจียหยูอยู่ ใบหน้าของเย่เจียหยูก็อวดดี

“เปล่า......ไม่มีอะไร......”

เย่ยู่หยางส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว เขาไม่อยากให้ท่านพี่เป็นกังวล เพราะว่าเขาแอบครุ่นคิดจนเดาได้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใคร คนผู้นั้นมีทั้งอำนาจมีทั้งพลัง ผลการฝึกตนสูงส่ง แม้ว่าเขาอยากจะล้างแค้นเอาคืนยังยากกว่าการฝีนเขาเลย

เย่จายซิงขมวดคิ้ว เนื่องจากจวินหยวนอยู่ด้วย แม้ว่านางจะต้อนถามให้จนมุมเขาก็ไม่พูดแน่นอน ดังนั้นนางจึงไม่ได้ถามต่ออีก

“เจ้าอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”

จวินหยวนกอดอกสำรวจดูรอบๆ และไม่พูดอะไร

“ข้าบอกแล้วว่าที่นี่ของข้าเรียบง่าย ไม่สามารถรับรองท่านได้ หากเสด็จอารังเกียจก็กลับไปเถอะ”

เย่จายซิงกล่าว

หลังจากนางพูดจบก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าน้ำเสียงไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะเป็นห่วงเรื่องของน้อง ไม่มีกะจิตกะใจจะมาดูแลเขา

จวินหยวนขมวดคิ้วและมองลงมาที่นางชั่วครู่

“ข้าจะส่งคนมาซ่อมแซมลานบ้านขอพวกเจ้าเอง ก่อนถึงตอนนั้นเจ้ากลับไปอยู่ที่จวนอ๋องกับข้าเสีย”

น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย ท่าทางกลับไม่ง่ายเลยที่จะคัดค้าน

เย่จายซิงอ้าปากค้างแล้วรีบกล่าวว่า

“ไม่ต้องหรอก ข้ารู้สึกว่าลานบ้านของข้าเป็นที่น่าพอใจแล้ว อะไรก็ไม่ขาด ไม่รบกวนเสด็จอาจะดีกว่า!”

“ในใต้หล้านี้ไม่ว่าของอะไรก็ตามที่เจ้าอยากได้ ข้าต่างส่งมอบให้ถึงมือเจ้า เจ้าเป็นคู่หมั้นของข้า ไม่ควรอยู่ในที่ที่ทรุดโทรมเช่นนี้”

น้ำเสียงของเขาดูบงการ

เย่จายซิงรู้สึกว่าตนเองเหมือนย้ายก้อนหินมาทับเท้าของตน รู้อย่างนี้เมื่อครู่นางน่าจะรับรองเขาให้ดีๆ ตั้งนานแล้ว แล้วค่อยส่งเขากลับไปอย่างเคารพอ่อนน้อมจะดีมาก

แม้ว่าลานบ้านจะดูเรียบง่ายไปหน่อย แต่ของอะไรก็ไม่ขาด นางรู้สึกว่าอยู่แล้วสบายดี หากไปที่จวนอ๋องเซ่อเจิ้งต่างหากที่จะไม่เป็นอิสระ

“เสด็จอา งั้นเอาแบบนี้ละกัน ระหว่างที่ซ่อมแซมลานบ้าน ข้ากับเสี่ยวยู่จะไปอยู่โรงเตี๊ยม อย่างไรเสียข้ากับท่านก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน หากไปอาศัยอยู่ที่นั่นบ่อยๆ พูดออกไปมันจะไม่งามเอาได้”

นางใช้นำเสียงในเชิงหารือกล่าวกับเขา

“ใครกล้าว่าร้ายนินทาข้ากับเจ้าหรือ?”

เขากล่าวด้วยเสียงเย็นชา

“......” เย่จายซิง : “เสด็จอา ประเด็นหลักคือข้าก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม”

“ข้าจะไม่เตะต้องเจ้าเลย เจ้ามีอะไรต้องกลัวหรือ?”

เย่ยู่หยางกล่าวขึ้นในขณะนั้นว่า

“มันก็ไม่แน่นอนหรอก ถึงเวลาหากหญิงชายอยู่กันตามลำพังในห้องเดียวกัน ใครจะไปรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น? สรุปคือก่อนที่พวกท่านยังไม่ได้แต่งงานกันห้ามอยู่ด้วยกัน!”

เย่จายซิงแอบพยักหน้า น้องชายช่างเข้าข้างข้าจริงๆ

นางยังไม่ลืมหรอกนะวันนั้นปฏิกิริยาของร่างกายของเขาที่งานประมูลตอนที่ตนนั่งอยู่บนตักของเขา

ปากของผู้ชายก็คือผีที่หลอกหลอนคน

“ไปโรงเตี๊ยมเถิงหยุน”

จวินหยวนกล่าวอย่างไม่ค่อยสุขใจนัก

เย่จายซิงอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเมื่อตั้งสติได้ความหมายของเขาคือโอนอ่อนผ่อนตาม อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา