บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 6

เจ้าพระยาเซี่ยกลัวจนแทบเสียสติ พลังความน่าเกรงขามที่ออกมารอบกายของจวินหยวน ทำให้เขากลัวว่าตนจะโดนตัดคอ

เขาไม่สนเรื่องที่ตนอยากให้เย่จายซิงตายอีกต่อไปแล้ว เขาคุกเข่าลงแล้วรีบร้อนกล่าวว่า “โทษไม่ถึงตาย ไม่ถึงตายพะย่ะค่ะ ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของท่านหวงที่จะสังหารเย่จายซิงและน้องชาย อ๋องเซ่อเจิ้ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้าเลย!”

น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ ในสมองของเขาเกิดความคิดให้โยนความผิดทุกอย่างไปที่ท่านหวง

สีหน้าของท่านหวงหมองคล้ำ เขากำหมัดเอาไว้แน่น เขารู้ถึงความโหดเหี้ยมของอ๋องเซ่อเจิ้ง ขณะที่เขาเตรียมจะอธิบาย จวินหยวนก็หันมามองเขาด้วยสายเย็นยะเยือกไร้ความรู้สึก

“ฆ่า”

ริมฝีปากของเขาขยับเบาๆ

คำพูดเบาๆ เพียงคำเดียวทำเอาท่านหวงหนาวสะท้านไปทั้งตัว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เมื่อตั้งสติได้ก็คิดจะหนี

ทันใดนั้นเอง พลังการโคจรอันแข็งแกร่งลายสายล็อกร่างของเขาเอาไว้กับที่ ทำให้ท่านหวงไม่สามารถขยับได้ บนหน้าผากของเขาปรากฏเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมา พร้อมๆ กับการปรากฏตัวขึ้นขององครักษ์ลับชุดดำสิบกว่าคน แสงกระบี่เปล่งประกาย ทำเอาผู้คนตรงนั้นไม่อาจลืมตาได้ ได้ยินเพียงเสียงร้องน่าสังเวช

เพียงชั่วครู่น้ำเสียงก็หายไป เมื่อทุกคนหันไปมอง ร่างของท่านหวงก็กลายเป็นชิ้นๆ ไปเสียแล้ว ส่วนเหล่าองครักษ์ลับพวกนั้นก็หายวับไปราวกับวิญญาณ

เจ้าพระยาเซี่ยตกใจจนฉี่แทบราดกางเกง เย่เจียหยูเองเริ่มตัวสั่น ขาทั้งสองอ่อนแรง ตอนนั้นนางยิ่งรู้สึกกลัวจวินหยวนมากขึ้นกว่าเดิม

นั่นคือท่านหวงที่ฝึกตนในแดนมหาจักรพรรดิทิพย์เชียวนะ เรียกได้ว่าไร้คู่ต่อสู้ในแคว้นหงส์แดงแห่งนี้ แต่เมื่อจวินหยวนปรากฏตัว แม้แต่โอกาสในการต้านทานของท่านหวงยังไม่มีด้วยซ้ำและตายคาที่อย่างน่าสังเวชใจ

เมฆสีดำที่เคยปกคลุมเหนือศีรษะของเขาเมื่อสามปีที่แล้วได้หวนกลับมาอีกครั้ง

ท่านหวงถูกฆ่าตาย แต่ความแค้นในใจของเย่จายซิงไม่ได้ลดลงแต่กลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

ความคิดอ่านของจวินหยวนผู้นี้ยากจะเข้าใจ ทำไมวันนี้เขาถึงช่วยนาง ก่อนหน้านี้ทั้งสองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกันไม่ใช่หรือ

ผู้ชายคนนี้ทำให้คนรู้สึกถึงความอันตรายอย่างมาก

ทันใดนั้นกิเลนลดระดับลง บุรุษร่างสูงใหญ่คนนั้นเดินลงมา เขาใส่ชุดยาวสีขาวนวล ท่าทางของเขาสุขุมนุ่มลึกและเต็มไปด้วยความงามสง่าที่หาผู้ใดเปรียบเทียบได้ ทุกย่างก้าวของเขามุ่งหน้าเข้ามาทางเย่จายซิง

เย่จายซิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ผู้ชายคนนี่ร่างสูงมาก นางพยายามอย่างมากที่สุดก็สูงได้เพียงหัวไหล่ของเขา หน้ากากสีทองบดบังใบหน้าของเขาเอาไว้ ดวงตาระยิบระยับลึกซึ้งกำลังมองมายังใบหน้าของนาง

“ท่านจะทำอะไร!”

ก่อนที่จวินหยวนจะเข้ามาใกล้เย่จายซิง น้องชายหน้าละอ่อนก็ลุกออกมาแล้วขวางทางเขาเอาไว้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลัวจวินหยวน แต่เขาไม่อาจยอมให้คนอื่นรังแกพี่สาวของตนได้ เขาเป็นลูกผู้ชายจึงควรจะออกมาปกป้องพี่สาว ไม่ใช่ให้พี่สาวคอยปกป้องเขาอยู่ด้านหน้า

“ถอยไป”

จวินหยวนกล่าวอย่างไร้อารมณ์

“ข้าไม่ถอยแน่ ถ้าไม่งั้นท่านก็เหยียบตัวข้าไปเลย!”

เย่ยู่หยางไม่ยอมขยับ แต่กลับยืดอกเชิดหน้าขึ้น

เย่จายซิงจับมือน้องชายรูปงามของตนเอาไว้แล้วส่ายหน้าให้เขา ก่อนจะหันไปมองจวินหยวน “ขอบพระทัยท่านอ๋องเซ่อเจิ้งที่เมื่อครู่ช่วยจายซิงเอาไว้อย่างเป็นธรรม”

จวินหยวนไม่สนใจ สายตาของเขาจ้องไปที่มือของนางที่จับมือเย่ยู่หยางเอาไว้ด้วยดวงตาเศร้าหมอง

นางอับจนคำพูด ข้าจับมือน้องชายของข้ามันเกี่ยวอะไรกับท่านด้วย เหตุใดต้องใช้แววตาเย็นชาแบบนั้นมองนางด้วย?

นางค่อยๆ ปล่อยมือออกช้าๆ เพราะการโดนเขาจับจ้องอยู่ ทำให้นางรู้สึกแปลกประหลาด

ดังนั้นจวินหยวนจึงหันไปมองใบหน้าของนางแทน ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวหิมะออกมาจากแขนเสื้อ แล้วเช็ดคราบฝุ่นและรอยเลือดออกจากหน้าผากของนาง ราวกับนางเป็นของล้ำค่าหาได้ยากบนโลกใบนี้

เย่จายซิงชะงัก นางคิดอยากจะหลบแต่ไม่รู้ว่าเขาใช้เวทมนตร์อะไรถึงทำให้นางไม่อาจขยับตัวได้ ได้แต่ปล่อยให้เขาเช็ดใบหน้าของนางจนสะอาด นางรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างจึงได้แต่ปล่อยให้เขาเช็ดหน้าของตนต่อไปอย่างเงียบงัน

เขาทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร

ตามข่าวลือที่ได้ยิน อ๋องเซ่อเจิ้งไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรี และมีนิสัยโหดร้าย แต่กลับมาเช็ดหน้าให้กับสตรีอัปลักษณ์อย่างนาง?

ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันตกตะลึงจนพากันเบิกตาอ้าปากค้าง นี่คืออ๋องเซ่อเจิ้งผู้น่าหวาดกลัวคนนั้นหรือ เขาถูกสิงร่างไปแล้วหรือไม่!

เย่เจียหยูเอามือปิดปากของตัวเอง นางไม่กล้ามองฉากเบื้องหน้าตนเองตอนนี้ จึงเบือนสายตาหนีไป

เมื่อก่อนนางเคยพยายามเข้าหาเขาแต่เขากลับรังเกียจนาง เหตุใดวันนี้ถึงได้ปฏิบัติต่อหญิงอัปลักษณ์อย่างเย่จายซิงต่างจากคนอื่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา