บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 7

คุณหนูสามเย่ เย่เจียเยี่ยนวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนใจ หลังจากที่นางเห็นกิเลนและอ๋องเซ่อเจิ้งแล้ว สีหน้าจองนางก็แข็งชะงัก

แต่นางพยายามที่จะกัดฟันแล้วฝืนเดินต่อไปข้างหน้า แล้วหันไปทำความเคารพจวินหยวนก่อนจะกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าน้อยคารวะอ๋องเซ่อเจิ้ง ไม่เจอกันมาสามปี อ๋องเซ่อเจิ้งยังคงสง่างามและเปล่งประกายเช่นเดิม”

แต่จวินหยวนกลับไม่ยอมหันมามองนางซ้ำยังไม่สนใจนางอีกด้วย นางคุกเข่าอยู่ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ

“น้องสาม เมื่อครู่นี้เจ้าว่าอย่างไรนะ สูตรยาของข้าในห้องกลั่นยาถูกเผาหมดแล้วงั้นหรือ ในนั้นมีสูตรยาสำคัญที่สำนักอาจารย์กลั่นยาให้ข้าไปศึกษาต่อด้วยนะ!”

ในตอนนั้นเย่เจียหยูยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ แล้วกล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นเครืออย่างใจสลาย

“อะไรนะ!”

สีหน้าของเจ้าพระยาเซี่ยโกรธจัด เพราะเขารู้ดีว่าสูตรยาของเย่เจียหยูสำคัญมากขนาดไหน

เย่เจียเยี่ยนยังคงเล่นละครต่อไป นางถลึงตาแล้วชี้ไปที่เย่จายซิง “พี่รอง ทั้งหมดเป็นฝีมือของสาวใช้น้องสี่ สาวใช้ของนางสารภาพแล้วว่าเป็นคนวางเพลิงเอง พฤติกรรมของน้องสี่น่ารังเกียจยิ่ง คงทำเพราะอิจฉาที่น้องรองมีพรสวรรค์ในการกลั่นยาจึงเผาห้องกลั่นยาของเจ้าทิ้ง!”

“น้องสี่ เจ้าทำอย่างนี้ได้อย่างไร เจ้าจะให้ข้าบอกกับสำนักอาจารย์กลั่นยาว่าอย่างไร!”

ในสีหน้าเจ็บปวดของเย่เจียหยูเจือความสิ้นหวังเอาไว้ด้วย น้ำตาของนางเริ่มไหลลงมาตามแก้ม

“คุณพระ! เย่จายซิงถึงขั้นสั่งให้สาวใช้ไปเผาห้องกลั่นยาของคุณหนูรอง ช่างใจดำและไร้ความคิดเสียจริง!”

“แม่ซื่อบื้อนั่นรู้จักแต่อิจฉาคนอื่นจนหัวใจบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว!”

“หากเย่จายซิงไปสารภาพผิดกับสมาคมอาจารย์กลั่นยาเพื่อขอรับโทษ การทำลายสูตรยาสำคัญ อาจจะทำให้นางโดนลงโทษให้เป็นบ่าวรับใช้ไปตลอดชีวิต!”

ทุกคนต่างพากันเกลียดชังเย่จายซิง แค่เกิดมาอัปลักษณ์แถมยังฝึกตนไม่เป็นก็แย่มากแล้ว แต่นี่กลับยังก่อเรื่องเลวร้ายสารพัด จิตใจที่ร้ายกาจของนางรวมทั้งวิธีการสกปรกเหล่านี้ ทำให้พวกเขาอยากให้นางตายไปเร็วๆ จะได้ไม่ต้องทำเรื่องเลวทรามแบบนี้อีก

“พวกเจ้าพูดบ้าอะไร! พี่สาวของข้าไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ เป็นพวกเจ้าต่างหากที่ซื้อตัวสาวใช้พวกนี้ไป และตั้งใจโยนความผิดมาให้พี่สาวของข้า!”

เย่ยู่หยางโกรธกล่าวอย่างโกรธแค้น คนจากบ้านรองเลวร้ายยิ่งนัก เอาแต่จะโยนเรื่องชั่วร้ายต่างๆ ให้พี่สาวของเขา

ก่อนหน้านี้สาวใช้คนนี้ก็มีพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ อยู่แล้ว ที่แท้แล้วนางก็ไว้ใจไม่ได้จริงๆ

แววตาของเย่จายซิงแข็งกร้าว พลางหันหน้าช้าๆ ไปมองสาวใช้ที่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้

สาวใช้คนนั้นหลบสายตาโดยสัญชาตญาณ เพราะนางรู้สึกว่าคุณหนูสี่มีบางอย่างผิดแปลกไป คุณหนูสี่ที่ปกติเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูดกลับมีสายตาดุดันเช่นนี้

“เจ้าบอกว่าข้าเป็นคนสั่งงั้นรึ”

เย่จายซิงกล่าวถามเรียบๆ 

แววตาของสาวใช้กระสับกระส่ายก่อนจะร้องไห้อย่างเศร้าสลด “ขอโทษนะเจ้าคะคุณหนู พวกเขาทารุณบ่าว บ่าวทนไม่ไหวจริงๆ เลยสารภาพชื่อคุณหนูออกมา ทุกอย่างเป็นความผิดของบ่าวเอง คุณหนูเจ้าคะ ถ้าจะว่าใครก็ว่าบ่าวเถอะเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินสาวใช้พูดเช่นนั้น ทุกคนต่างเชื่อคำพูดของนาง

“จริงรึ”

ริมฝีปากของเย่จายซิงหยักยิ้มขึ้นก่อนจะหันไปมองจวินหยวน “ท่านอ๋องเซ่อเจิ้งอยู่ตรงนี้พอดี เช่นนั้นช่วยเป็นพยานให้ข้าที นี่คือยาคำจริง หากกินมันลงไป คนที่พูดโกหกจะทำให้โลหิตในร่างจะไหลทวนกระแส ดังนั้นหากอยากมีชีวิตรอดจะไม่มีใครกล้าพูดโกหก”

ในมือของนางปรากฏเม็ดยาสีเขียวขึ้นมาหนึ่งเม็ดที่ต้องแสงอาทิตย์จนเปล่งประกาย

ริมฝีปากของจวินหยวนหยักยิ้มราวกับกำลังพอใจ ดวงตาเล็กๆ ของเขาที่ยากจะหยั่งถึงก็ยิ่งสะท้อนความล้ำลึกมากขึ้นไปอีก

“อะไรนะ มียาเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ”

“เป็นยาสีเขียวระดับสี่อีกแล้ว ดูท่าแล้วเป็นยาชั้นดีมากด้วย!”

“เหตุใดเย่จายซิงถึงมียาขั้นสี่มากมายเช่นนี้ หรือว่าจะขโมยคุณหนูรองมาอีก”

เย่เจียหยูขมวดคิ้วแน่น เมื่อเห็นสาวใช้มีสีหน้าหวาดกลัว นางจึงรีบพูดออกไปว่า “น้องสี่เจ้าอย่าข่มขู่กันเช่นนี้เลย บนโลกใบนี้ไม่มียาอย่างเช่นยาคำจริงนี่หรอก ยาเม็ดนี้ก็คือยาที่เจ้าขโมยไปจากข้าอย่างไรเล่า

“น้องสี่ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากจะยอมรับ แต่เจ้าก็รู้นี่ว่าสูตรยาพวกนั้นมีความสำคัญกับข้าและกับสำนักอาจารย์กลั่นยาขนาดไหน ครั้งนี้ข้าไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ และข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าทำความชั่วต่อไปได้อีก ด้วยความหวังดีของข้า ข้าจะส่งเจ้าให้สำนัก และให้พวกเขาลงโทษเจ้าสถานเบาเพื่อให้เจ้าเข็ดหลาบเท่านั้น”

นางกล่าวคำพูดอย่างชอบธรรม ทำให้ฝูงชนรู้สึกดีกับนางมาก และเป็นการบอกสาวใช้อีกทางด้วยว่าอย่าหลงเชื่อคำพูดของเย่จายซิง และอย่าทำเรื่องเสียขบวน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา