“ยาประสูติของข้าหายไปแล้ว”
ใบหน้าขององค์หญิงไฉเวยซีดเผือดทันที ขนตาของนางสั่นไหวเล็กน้อย
นางรีบค้นหาจนทั่วตัวนักฆ่า แต่ก็หาไม่เจอ
“องค์หญิง บางทียานั่นอาจถูกนักฆ่าพวกนี้กินไปแล้วก็ได้ อาจจะถูกใช้เพื่อรักษาอาการ”
เหยียนฮั๋วกวงเอ่ยจริงจัง
ถุงเก็บของในมือขององค์หญิงฉายเวยตกลงบนพื้น ก่อนจะปิดหน้าร้องไห้
“เย่ยู่หยาง ข้าขอโทษ ยามันหายไปแล้ว ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าได้!”
เย่ยู่กวงเหลือบมองเหยียนฮั๋วกวง เดาว่าเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเขา ระงับความเกลียดชังในใจเอาไว้แล้วกล่าวด้วยสีหน้านิ่งสงบ
“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง บางทีอาจเป็นชะตาชีวิต แค่องค์หญิงวิ่งเต้นเพื่อข้า ข้าก็ซาบซึ้งใจแล้ว”
“ไม่ เย่ยู่หยาง ข้าขอมาได้หนึ่งเม็ดแล้ว จะขออีกเม็ดก็ต้องได้เช่นกัน ข้าจะไปเฉินตูเดี๋ยวนี้ เจ้ารอข้อหน่อยนะ”
องค์หญิงฉายเวยเอ่ยด้วยเสียงเร่งรีบ นางไม่อยากให้เขาผิดหวัง นางอยากเห็นเขาร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน
เหยียนฮั๋วกวงมีสีหน้าแข็งทื่อ ในใจก็ประกายกลิ่นอายสังหาร
เขาไม่รู้ว่าเย่ยู่หยางมีดีอะไรนักหนา ถึงได้คู่ควรกับการที่องค์หญิงผู้มีความสามารถและเฉลียวฉลาดเช่นนี้ใส่ใจ
ตนให้ปกป้องนางจากพวกนักฆ่า แต่นางกลับเพิกเฉย
“อย่าไปเลย ยาประสูติรักษาอาการบาดเจ็บของข้าไม่ได้ สุดท้ายมันก็สูญเปล่า”
เย่ยู่หยางเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งสงบ
เขาตระหนักดีถึงอาการบาดเจ็บของตัวเอง และยาประสูติก็สามารถรักษาขาของเขาได้ดีที่สุดเท่านั้น ถึงได้ทำให้เขาดูไม่เหมือนคนพิการ
แต่จุดตันเถียนที่เสียหายของเขาไม่สามารถกู้คืนได้ สุดท้ายเขาก็กลายเป็นคนพิการอยู่ดี
“เจ้าจะท้อไม่ได้นะ เจ้าต้องเชื่อว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ชีวิตเจ้าจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ข้าเชื่อมั่นกับเจ้ามาตลอด”
องค์หญิงฉายเวยมองไปที่ แล้วเอ่ยด้วยความจริงใจ
เย่ยู่หยางไม่ได้พูด แต่การแสดงออกที่ไม่แยแสของเขาก็แสดงให้เห็นถึงเจตนาของเขาแล้ว
เขาไม่อยากให้นางต้องมาเสียเวลา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปขอยาให้เขาอีก มันเสียเวลาและพลังงานไปเปล่าๆ
“องค์หญิง แม้ว่าเจ้าอยากจะไปที่เฉินตูเจ้าต้องรอให้ทหารมาถึงก่อนถึงจะไปได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดอันตรายระหว่างทาง หรืออาจมีนักฆ่าที่ลอบสังหารอยู่”
เหยียนฮั๋วกวงเอ่ยออกมากะทันหัน
เขาไม่อาจปล่อยให้องค์หญิงนึกถึงเย่ยู่หยางได้อีกต่อไป วิธีที่ดีที่สุดคือการฆ่าเขาเพื่แไม่ให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง
เย่ยู่หยางเหลือบมองไปที่นักฆ่าที่เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าบนพื้นและพูดกับองค์หญิงฉายเวย
“องค์หญิงเดินทางมาไกล ข้าจะต้อนรับเจ้าด้วยการพาไปเที่ยวในเมืองหลวงสองสามวันก่อนจะส่งองค์หญิงกลับ”
ทันทีที่นางได้ยินว่าเขาจะอยู่เป็นเพื่อนนาง นางจึงตกลงอย่างมีความสุขในทันที
ล่าช้ามากี่วันก็ช่าง ไม่มีอะไรเร่งรีบเท่าเวลานี้แล้ว
เย่ยู่หยางพาองค์หญิงฉายเวยกลับไปที่โรงเตี๊ยม เหยียนหัวกวงรีบตามไปทันที เขาทำได้แค่ให้เถ้าแก่เปิดห้องเพิ่ม
“ค่ำแล้ว อีกเดี๋ยวเสี่ยวเอ้อร์จะนำอาหารมาให้ในภายหลัง องค์หญิงรีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าออกไป”
เย่ยู่หยางเดินกะเผลกและหันหลังกลับ
องค์หญิงฉายเวยมองแผ่นหลังของเขา หัวใจของนางหดหู่ลงเล็กน้อย ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเขาเปลี่ยนไปมากเกินไป ความฉลาดในปีนั้นดูเหมือนจะถูกเวลาปกปิดไว้
เขาเย็นชายิ่งกว่าเดิม รัศมีที่แผ่ออกมาจากตัวเขาก็ยาทำให้คนเข้าถึงได้
นางปิดประตูและถอนหายใจ ถ้ามียาประสูติก็คงจะดีกว่านี้
เมื่อเย่ยู่หยางเข้ามาในห้อง เหยียนฮั๋วกวงก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา
“หยุด เย่ยู่หยาง เหตุใดเจ้าถึงไม่สำเหนียกในตัวเองเลย สภาพของเจ้าตอนนี้เหมือนคางคกอยากกินเนื้อหงส์ เจ้าตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาบ้างก็ดีนะ เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรหรือ?”
เขาค่อยๆ หันหลังกลับไป ความรังเกียจบนใบหน้าเหยียนฮั๋วกวงไม่อาจถูกปิดบัง
“ถ้าเทียบกับเจ้า เจ้าต่างหากที่เป็นเหมือนคางคก”
เย่ยู่หยางมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...