ในมือขององค์หญิงฉายเวยมียานิพพานเล็กหนึ่งเม็ด นางใช้เวลาเกือบครึ่งปีเพื่อที่จะร้องขอมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ที่ชื่อว่ายานิพพานเล็กก็เพราะว่าเหมือนกับยานิพพาน สามารถใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสที่เรื้อรัง ราวกับว่าสามารถเกิดใหม่ได้เลยก็ไม่ปาน
แต่ยานิพพานเล็กแม้ว่าจะเป็นยาขั้นหกเช่นกัน แต่ฤทธิ์ของมันมีเพียงไม่ถึงหนึ่งในสามของยานิพพานเท่านั้น
มีก็ดีกว่าไม่มีเยอะเลย อย่างน้อยก็สามารถรักษาชาของเย่ยู่หยางให้ดีขึ้นได้ องค์หญิงฉายเวยคิดไว้เช่นนี้
ไม่ง่ายเลยที่นางจะร้องขอยานิพพานเล็กมาได้หนึ่งเม็ด แล้วยังรีบร้อนเดินทางตรากตรำมายังแคว้นหงส์แดงอีก แน่นอนว่าย่อมไม่อยากฟังที่เหยียนฮั๋วกวงพูดว่าจะต้องเสียเวลาไปอีกหนึ่งคืน เพียงแค่อยากรีบให้เย่ยู่หยางได้กินมันลงไปเร็วๆ
เหยียนฮั๋วกวงสีหน้าเจ้าเล่ห์ มีแสงแห่งการอาฆาตแวบขึ้นมาที่ใต้ตา หากรู้เช่นนี้ตอนนั้นเขาก็ฆ่าเย่ยู่หยางทิ้งไปนานแล้ว
เขาไม่เข้ามจว่าเย่ยู่หยางก็เป็นคนพิการไปแล้ว ทำไมไฉเวยยังดูเป็นห่วงเป็นใยเขาเช่นนั้นอีก และคนดีเลิศเช่นนี้อย่างตนที่อยู่ข้างกายนาง นางกลับมองไม่เห็น
เขาจะไม่ให้เย่ยู่หยางได้มีโอกาสกินยานิพพานเล็กเม็ดนั้นอย่างแน่นอน คนพิการก็คือคนพิการ มีเพียงลมหายใจที่รอความตายเท่านั้น
เดิมทีเขาวางแผนไว้ว่ารอจนเข้าพักที่โรงเตี๊ยมก่อนแล้วค่อยให้คนไปขโมยยานิพพานเล็ก ในเมื่อไฉเวยไม่ฟังงั้นก็ได้เพียงทำให้นางตกใจบ้างเล็กน้อย
เขาทำสัญลักษณ์มือไปยังลูกน้อง
ลูกน้องพยักหน้าแล้วบีบป้ายหยกที่ข้างเอวให้แหลก
ชิ๊ว!
เสียงขลุ่ยยาวดังขึ้น ธนูเย็นเฉียบพุ่งมาจากอากาศที่อบอวลไปด้วยแสงเย็นวาบปักลงบนเกี้ยว!
“อารักขาองค์หญิง!”
เหยียนฮั๋วกวงชักดาบแล้วตะโกนเสียงดัง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
องค์หญิงฉายเวยเอาหัวออกมาดู ปรากฏหให้เห็นหน้ารูปไข่ของสาวน้อยที่ละเอียดอ่อนงดงาม หิ้วที่น่ามองขมวดขึ้นมา
“องค์หญิงท่านอยู่ในเกี้ยวก่อนอย่าเพิ่งออกมา มีคนร้าย ข้าจะไปจัดการเด็ดหัวคนร้าย!”
ขณะที่พูดอยู่เหยียนฮั๋วกวงก็ตะโกนออกมาเสียงดัง แล้วพุ่งทะยานไปด้านหน้าด้วยความกล้าหาญอย่างไร้ความกลัว
องค์หญิงฉายเวยคิดว่าก็เป็นแค่คนร้ายธรรมดาๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะอุกอาจและจำนวนเยอะมาก
เพียงชั่วพริบตาก็สังหารลูกน้องของนางจนไม่เป็นชิ้นดีเลย สุดท้ายก็เหลือไว้เพียงนาง เหยียนฮั๋วกวงและลูกน้องของเขาหนึ่งคน พวกเขาสามคนถูกล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา
และตอนที่คนร้ายคนหนึ่งฟันดาบลงมา ตอนนั้นเหยียนฮั๋วกวงยกมือขึ้นบังดาบนี้เอาไว้ให้นาง เขาคร่ำครวญออกมาชั่วครู่แล้วเลือดก็ไหลอาบชุดสีขาวไปหมด
“องค์หญิง!รีบหนีไป!”
เขาบังไว้ด้านหน้านาง
องค์หญิงฉายเวยกล่าวขึ้นอย่างทันทีว่า “ข้าไม่ทิ้งเจ้าไว้หรอก พวกเราฆ่ามันออกไปด้วยกัน!”
เหยียนฮั๋วกวงส่ายหัวแล้วกล่าวด้วยเสียงแหบอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า
“ไม่ องค์หญิง พวกเราไม่สามารถหนีออกไปได้ ข้าต้องให้ท่านมีชีวิตรอดออกไป แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตข้าก็ตาม ข้าก็ต้องให้ท่านหนีออกไปให้ได้!ท่านรีบไปซะ เข้าไปในเมืองหลวงก็ปลอดภัยแล้ว!”
และขณะที่พูดอยู่เขาก็ผลักนางออกไปอย่างรุนแรง ส่วนตนเองและลูกน้องอีกสองคนฟาดฟันต่อสู้กับคนร้ายจำนวนมากอย่างสุดกำลัง
องค์หญิงฉายเวยมองร่างของเขาที่เลือดอาบจากการต่อสู้ก็กัดริมฝีปากอย่างรุนแรง หันหน้าแล้วรีบวิ่งไปทางเมืองหลวง เขาจะไปเรียกกำลังเสริมให้มาช่วยเหยียนฮั๋วกวง จะให้เขามาตายเพราะนางไม่ได้
เหยียนฮั๋วกวงที่อยู่ในกลุ่มของคนร้ายก็ยิ้มอย่างได้ชัยออกมาที่มุมปาก ส่งสายตาให้คนร้ายสองสามคนไล่ตามไป
ยานิพพานเล็กอยู่ในถุงสัมภาระขององค์หญิงฉายเวย เพียงแค่แย่งชิงถุงสัมภาระมาได้ก็เป็นเรื่องดีที่ต้องฉลองแล้ว
องค์หญิงฉายเวยวิ่งมาได้ช่วงหนึ่งก็มีคนร้ายไล่ตามมา ผลการฝึกตนของคนร้ายสูงกว่านาง นางหวาดระแวงทำอะไรไม่ถูก แต่มือยังจับถุงสัมภาระนั้นไว้อยู่
ชีวิตได้รับการข่มขู่ และนาทีแรกที่นางนึกถึงก็คือเย่ยู่หยาง ก็เลยหยิบป้ายหยกขึ้นมาส่งข่าวให้เขา หากนางตายนางหวังว่าเขาจะสามารถมาช่วยเก็บศพให้นางได้
“ใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามา แม้ว่าต้องตายก็ขอให้ข้าได้รู้เพื่อตายตาหลับ!”
นางเงยหน้าขึ้นไม่ยอมอ่อนข้อ
คนร้ายยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วกล่าวว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...