เหยียนฮั๋วกวงมีใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
ร่างกายของเขามีปัญหาบางอย่างที่พูดออกมาได้ยาก แต่เขาได้ใช้ยาสมุนไพรเพื่อพักฟื้น โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่เมื่อเย่จายซิงชี้ให้เห็นชัดเจน ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ปกปิดมานานถูกเปิดเผย ในใจก็รู้สึกทั้งอายและโกรธ
เขาชี้ไปที่เย่จายชิงด้วยใบหน้าจองหอง ไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่คำเดียว เพราะนางพูดเร็วเกินไป ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ก็จะถูกนางขัดจังหวะ และยังเป็นคำพูดที่บาดลึกในใจเขา
เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่เฉียบแหลมขนาดนี้มาก่อน เขากัดฟันเพราะความความโกรธจนเลือดออก
“แม่นางเย่ หยุดพูดได้แล้ว เหยียนฮั๋วกวงไม่ได้แย่อย่างที่พูด คำพูดของเจ้าไม่น่าฟังเกินไป”
ในเวลานี้องค์หญิงฉายเวยที่อยู่ด้านข้างไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป จึงขมวดคิ้วกล่าว
“จริงหรือ? ดูเหมือนว่าเจ้าไม่รู้จักเขาเลย ข้าจะบอกความจริงให้ อาการบาดเจ็บของน้องชายข้าที่ได้รับมาจากในดินแดนลับคือฝีมือของเขา เพราะเขารักเจ้า และถือว่าน้องชายของข้าเป็นศัตรูหัวใจของเขา ดังนั้นเขาจึงทำลายเสี่ยวยู่ เจ้ายังคิดว่าคำพูดของข้าน่าเกลียดหรือไม่? ข้าสังหารเขาด้วยดาบเดียวยังนับว่าเบาไป”
เย่จายซิงพูดอย่างเย็นชา
ดวงตาขององค์หญิงฉายเวยเบิกกว้าง และส่ายหัวกล่าว
“จะเป็นไปได้ยังไง เย่ยู่หยางจะถูกเหยียนฮั๋วกวงทำร้ายได้อย่างไร เขาไม่มีทางทำอย่างนั้นได้ แม่นางเย่ เจ้าคงเข้าใจผิดแล้ว”
“ใช่! องค์หญิงหญิงอย่าฟังเรื่องไร้สาระของนาง ข้าชื่นชมองค์หญิงจริงๆ แต่ข้าไม่มีทางทำสิ่งที่ไร้เมตตาและผิดศีลธรรมแบบนั้นได้ ข้าไม่ใช่คนแบบนี้!”
เหยียนฮั๋วกวงรีบปฏิเสธ แล้วชี้ไปที่เย่จายซิง
“เจ้าอย่ามาพ่นเลือดใส่คนอื่น ถ้าเจ้าและเย่ยู่หยางสงสัยข้า ก็เอาแสดงหลักฐานออกมา มิฉะนั้นเจ้าจูกข้อหาใส่ร้าย!”
เย่จายซิงเอ่ยเยาะเย้ย “เจ้ามันจะไปมีค่าอะไร เจ้าคู่ควรให้ข้าใส่ร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ กล้าทำไม่กล้ารับ ถ้าเจ้ากล้าพอ กล้าแข่งกับน้องชายของข้าอย่างเปิดเผยในอีกสิบวันข้างหน้าหรือไม่ มาตัดสินกันว่าใครฝีมือสูงกว่า เจ้ากล้าแข่งหรือไม่?”
“เจ้าป่วยหรือเปล่า! จุดตันเถียนของเย่ยู่หยางใช้การไม่ได้ เจ้ามาขอให้เขาแข่งกับเหยียนฮั๋วกวง เจ้าต้องการฆ่าเขาหรือ?”
องค์หญิงฉายเวยยืนขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา มองเย่จายซิงด้วยความรังเกียจ
นางรู้สึกว่าเย่ยู่หยางมีน้พี่สาวที่น่าเกลียดแบบนี้ มันเป็นความโศกเศร้าของเขา
เย่จายซิงเอ่ยอย่างเย็นชา
“น้องชายข้า ข้าเชื่อมั่น องค์หญิงไม่ต้องห่วง”
เดิมทีนางก็ชอบฉายเวยอยู่บ้าง แต่นางไม่คิดว่าในฐานะองค์หญิง นางไม่รู้จักมองคนเลย มองของนางก็คิดไม่ชัดเจน ผู้หญิงแบบนี้ไม่คู่ควรกับน้องชายของนาง
“เจ้า...เจ้ามันคนไม่รู้อะไรเลย เย่ยู่หยาวมีสภาพอย่างไรเจ้ามองไม่เห็นหรือ? เหยียนฮั๋วกวงเป็นผู้ฝึกตนแดนศิษย์ทิพย์ขั้นแปด ปีหน้าอาจจะทะลวงสู่แดนอาจารย์ทิพย์ แค่เขาขยับนิ้วเย่ยู่หยางก็ล้มลงกับพื้นแล้ว แต่เจ้ายังจะให้เขามาแข่งกัน ข้าว่าเจ้านั่นแหละอยากให้เย่ยู่หยางตาย”
เหว้ยไฉ่เวยกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ข้าไม่ล้มแน่ องค์หญิงไม่ต้องกังวล ข้าพร้อมจะแข่งกับเหยียนฮั๋วกวงในอีกสิบวัน ขึ้นอยู่กับเหยียนฮั๋วกวงว่าจะตกลงหรือไม่”
เย่ยู่หยางเดินลงบันไดช้าๆ ด้วยท่าทางสง่างามมาก
“เย่ยู่หยาง อย่าเข้าใจข้าผิด ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าไร้ประโยชน์ ข้าแค่เป็นห่วงเจ้า เจ้าจะแข่งกับเหยียนฮั๋วกวงไม่ได้ ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเจ็บปวด อย่าฟังพี่สาวของเจ้าเลย อย่าทำลายตัวเอง อีกเดี๋ยวข้าจะไปที่เฉินตู ไปขอยาประสูติมาให้เจ้า
เหว้ยไฉเวยเอ่ยด้วยความรีบร้อน
นางเป็นห่วงเย่ยู่หยาง แต่นางก็รู้ดีว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเย่ยู่หยางเป็นอย่างไร และไม่เพียงพอที่จะแข่งกับเหยียนฮั๋วกวง
“องค์หญิง วางใจได้เลยว่า ข้าจะไม่ทำให้เขาเป็นอันตราย”
เหยียนฮั๋วกวงพูดกับเหว้ยฉายเวยด้วยความจริงจัง
แม้ว่าเขาจะอยากตบเย่ยู่หยางจนตายจริงๆ แต่เขาก็ยังต้องสร้างความประทับใจดีๆ ใก้กับเหว้ยฉายเวย
“องค์หญิง เจ้าไม่จำเป็นต้องขอยาประสูติให้ข้าแล้ว ร่างกายของข้ากำลังฟื้นตัว การฝึกฝนของข้าก็กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น”
เย่ยู่หยางพูดกับเหว้ยฉายเว แล้วมองไปที่เหยียนหัวกวง
“หลังจากผ่านไปสิบวัน การบ่มเพาะของข้าก็คงกลับมาสู่สภาพเดิมเหมือนเมื่อครึ่งปีที่แล้ว คงใช้คำว่าจะทำให้ข้าเป็นอันตรายไม่ได้แล้ว
ทั้งเหว้ยไฉเวยและเหยียนฮั๋กวงดูตกใจมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะฟื้นตัวมาได้จริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...