บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 72

“โส่วเหล่าซานออกมา หาที่มัดนางไว้ หาน้ำให้นางดื่มด้วย พรุ่งนี้นางถึงจะฟื้น หลังจากนางฟื้นก็จับตาดูนางให้ดี”

สิ้นเสียงของหลงเฟยหลี มารหนูแคระครึ่งคนครึ่งปีศาจกุลีกุจอขุดใต้ดินขึ้นมา ใบหน้าสอพลอ

“ขอพระองค์ทรงวางพระทัย ข้าน้อยจะเฝ้านางอย่างดีแน่!”

“นางไม่ได้ดูง่ายๆ เหมือนภายนอก ถ้านางหนีไป ข้าจะถลกหนังเจ้า !”

โส่วเหล่าซานตัวสั่นเทา ผงกหัวงก ๆ

หลงเฟยหลีก็เดินกลับตำหนักโดยไม่เหลียวหันกลับ

หลังจากที่เขาไป โส่วเหล่าซานลูบเคราบาง ๆ ใต้คางคิดในใจว่า :

ก็แค่สาวน้อยที่ไม่ได้บำเพ็ญ จะไม่ง่ายตรงกัน มีเชือกปีศาจมัดแน่นหนาไว้ นางยังจะหนีได้อีกเหรอ?

โส่วเหล่าซานแบกเย่จายซิงขึ้นไหล่ หาห้องมือหนึ่งห้อง มัดแขนและขาของนางไว้กับเสาหิน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ไปไหน นั่งขัดสมาธิบนพื้นนำผลึกปีศาจออกมาฝึกฌาน

พอเขาเข้าสู่ฌาน เย่จายซิงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แม้แต่ระดับการหายใจก็ไม่เปลี่ยนแปลง

นางฟื้นตั้งนานแล้ว ตอนถูกดูดเลือดนางก็ฟื้นแล้ว แต่หลังจากนางต้องแน่ใจว่าไม่ตกอยู่ในอันตรายจึงไม่บุ่มบ่าม

ไอพิษมีสารพิษที่ทำให้ผู้ฝึกฌานต่ำหรือไม่ได้ฝึกฌานมาหมดสติเป็นเวลานาน แต่นางได้ดื่มน้ำค้างทิพย์ในช่องว่างเวลาอยู่ตลอด น้ำค้างทิพย์สามารถบรรเทาพิษได้ นับจากนี้เป็นต้นไป นางก็มีภูมิต้านทานพิษมากขึ้น

เพียงแต่ที่ทำให้นางเหนือความคาดหมายคือ เดิมทีนางนึกว่าเจียวปีศาจจะลักพาตัวนางมากินเสียอีก แต่กลับนึกไม่ถึงว่า เจียวปีศาจจากอสูรปีศาจขั้นแปดจะถูกคนสั่งการมา

สิ่งที่นางยิ่งคิดไม่ถึงคือ ใจกลางเทือกเขาพระอาทิตย์ลับฟ้า จะมีพระราชวังโบราณเช่นนี้อยู่ ผู้พักอาศัยไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่กลับเป็นมนุษย์

ไม่ถูก นางได้ยินคลุมเครือว่าเขาพูดว่าเขาเป็นอสูรครึ่งมารครึ่งปีศาจ หรือเขาเป็นอสูรที่เกิดจากมารและปีศาจ เวลานั้นนางไม่กล้าลืมตาดูเขา รู้เพียงแต่ว่าเสียงของเขาอันตราย มีกลิ่นอายประหลาด ถ้าเป็นอสูรที่เกิดจากมารและปีศาจ อย่างนั้นต้องอัปลักษณ์แน่

ในแผ่นดินเทียนเหย้า เล่ากันว่า ทายาทที่เกิดจากสายพันธุ์ต่างชนิดกัน ล้วนหน้าตาน่าเกลียด ถูกเรียกว่าอสูร ดังนั้น ภพมาร ภพมนุษย์ ภพมารจึงไม่แต่งงานข้ามกัน และไม่ไปมาหาสู่กัน เพราะแต่ละภพมีปราการกั้น หลายปีมานี้ก็ไม่เคยเกิดสงครามใหญ่เกิดขึ้น

ปีศาจที่อยู่ในเทือกเขาพระอาทิตย์ลับฟ้า ที่จริงเป็นสัตว์แห่งภพปีศาจที่ต่ำสุด มีความสามารถในการสืบพันธุ์สูง ฆ่าไม่หมด ดังนั้นจึงเห็นได้ทั่วไปในภูเขาภพมนุษย์

และการแพร่พันธุ์ของสัตว์อสูร ยังเป็นภัยพิบัติใหญ่ในภพมนุษย์

แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจต่างกัน เผ่าพันธุ์ปีศาจเกิดมาก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคน แต่สูงใหญ่กำยำกว่ามนุษย์ กายหยาบกว่ามาก ดูถูกมนุษย์ที่รูปร่างเล็กกว่าเสมอมา

ภพปีศาจเต็มไปด้วยไอมาร โดยทั่วไปเผ่าพันธุ์ปีศาจจะไปจากภพปีศาจน้อยมาก

ชายผู้ดูดเลือดของนาง ไม่รู้ว่าอาศัยอยู่ในภพปีศาจหรือภพมารไม่ได้ จึงมายังภพมนุษย์

นางจ้องดูมารหนูฝึกฌานอยู่สักพัก นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นเผ่าพันธุ์มาร พูดให้ถูกต้องก็คือ นี่คือเผ่ามารที่จำแลงกายไม่สำเร็จ เป็นเผ่ามารที่ต่ำต้อยที่สุดในเผ่ามาร

ข้างหลังเขายังมีหางหนูยาวอยู่หางหนึ่ง หน้าตาปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง ดวงตาแหลมเหมือนตะเข็บ ผอม ๆ เล็ก ๆ ไม่ถึงสามฟุต ท่าทางต่ำช้า

แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ การฝึกฌานของมารตัวนี้ดูแล้วก็ไม่ต่ำต้อย คิดจะหาทางหลบหนีภายใต้หนังตาของเขาเป็นไปไม่ได้แน่ เย่จายซิงคิดไปคิดมา ได้แต่รอให้โส่วเหล่าซานออกไปนางจึงค่อยคิดหาทาง

นางจะนั่งรอความตายไม่ได้ จะให้ชายหนุ่มครึ่งมารครึ่งปีศาจดื่มเลือดของนางจนหมดไม่ได้

แม้นางไม่รู้ว่าทำไมชายหนุ่มผู้นั้นจึงชอบเลือดของนาง

เมืองหลินฟง มีผู้คนตั้งมาก ทำไมต้องเจาะจงเลือกนางด้วย นางไม่เห็นว่าเลือดของนางจะพิเศษตรงไหนเลย

“เจ้าไป๋ ข้าถามหน่อย เผ่าปีศาจเผ่ามารชอบดื่มเลือดมนุษย์เหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา