สถานที่อันตรายสุดท้ายของวงแหวนสวรรค์ ก็คือค่ายกลหมอผี ท่านชายหงเย่เคยเดินผ่านหลายครั้ง แต่พบว่าค่ายกลหมอผีของวงแหวนสวรรค์ในครั้งนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน แต่ตามที่ท่านชายหงเย่กับแม่นมฉินบอกเล่า หยวนชิงหลิงก็คิดคำนวณดู หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ก็หาทางออกเจอ ออกมาจากวงแหวนสวรรค์ได้อย่างราบรื่น
สามารถแก้ค่ายกลได้เป็นครั้งที่สอง แม้แต่ค่ายกลหมอผีก็สามารถแก้ได้ ทำให้แม่นมฉินเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง
นางเห็นว่าอันตรายอย่างที่สุด กลับถูกแก้ปัญหาได้อย่างง่ายได้เช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกแปลกใจอย่างมาก
หลังจากออกมาจากวงแหวนสวรรค์ ทุกคนไม่ได้พักผ่อน มุ่งหน้าตรงไปยังที่อยู่ของหมอผีอย่างเดียว
แม้ว่าสงครามกำลังจะเริ่มต้น แต่ไม่สามารถปล่อยหยวนชิงหลิงไว้ในสถานที่ใด ที่นี่เป็นแดนหมอผีของเจียงเป่ย มีอันตรายรอบด้าน ดังนั้นไม่ว่ายังไงหยู่เหวินเห้าก็พานางไปด้วย
ท่านชายหงเย่กับอะโฉ่วก็ไม่ไปไหน แต่นี่ก็เท่ากับว่าคนเจียงเป่ย จะไม่เชื่อถือเขาอีกต่อไป เสียสละฐานกำลังในหนานเจียงง่ายดายเช่นนี้ ช่างทำให้ไม่สามารถเข้าใจ
เขาไม่มีความเสียดายเลยสักนิด เหมือนดั่งเจียงเป่ยไม่ใช่รากฐานของเขา ไม่มีความผูกพันเลยสักนิด
แม้แต่อ๋องอาน ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ท่านชาย ที่จริงเจ้าไม่ตามไปก็ได้”
ท่านชายหงเย่ยิ้มพูดขึ้นว่า “มีความแตกต่างอะไร? พาพวกเจ้าออกมาจากวงแหวนสวรรค์ พวกเขาก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของข้า”
เดิมอ๋องอานก็เป็นคนหนึ่งที่มีแผนชั่วร้าย รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะสามารถมีฐานกำลังเช่นนี้ ปล่อยวางอย่างง่ายดายเช่นนี้ น่าเสียดายอย่างมาก แต่หากท่านชายหงเย่ปล่อยทิ้ง แล้วตามไปด้วยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เขากับแม่นมฉิน ทั้งสองคนคุ้นเคยแดนหมอผีอย่างมาก ส่งผลดีต่อการที่พวกเขาจะตามหาจวิ้นจู่จิ้งเหอ
กลยุทธ์ถูกวางไว้แต่แรกแล้ว นอกจากส่งคนร้อยกว่าคนไปตามหาหยู่เหวิยเทียนกับหมันเอ๋อแล้ว ที่เหลือบุกโจมทั้งหมด
หยู่เหวินเห้าให้หยวนชิงหลิงติดตามอยู่กับทีมกำลังสนับสนุนตามหา ภายในร้อยกว่าคน เพราะเป็นการตามหาจากสถานที่ ที่ถูกแนวหน้าจัดการแล้ว ความอันตรายจึงมีไม่มาก บวกกับมีอะซี่เสี้ยวหงเฉิงกับจิ่นหนิงอยู่ด้วย ไม่เกิดปัญหาใหญ่อะไรแน่
แดนหมอผีถือเป็นศูนย์กลางของเจียงเป่ย รัศมีรอบๆประมาณหนึ่งร้อยไมล์ กว้างใหญ่มาก แต่แดนหมอผีมีประชาชนธรรมดาคนอื่นของเจียงเป่ยเข้ามาน้อยมาก ดังนั้น การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการโจมตีหมอผีกับองครักษ์หมอผีเป็นหลัก
พวกเขาอาศัยอยู่บนภูเขายาวต่อเนื่องอย่างไม่สม่ำเสมอลูกนี้ แทบไม่เห็นหลังคาบ้านเลย แม่นมฉินพูดว่า สถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ ล้วนถูกซ่อนไว้ด้วยต้นไม้ใหญ่หรือภูเขา หากไม่เข้าไปใกล้ก็จะหาไม่เจอ และนี่ก็คือความอันตรายที่แอบซ่อนอยู่ เพราะในสถานที่อยู่ของหมอผี มีความอันตรายอย่างที่คิดไม่ถึงอยู่มากมาย
อะซี่เล่าถึงสถานการณ์ของหมันเอ๋อให้หยวนชิงหลิงฟังแล้ว ในใจหยวนชิงหลิงก็ค่อนข้างร้อนรน ไม่รู้ว่าหมันเอ๋อจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมา และก็ไม่รู้ว่าคนของเจียงเป่ย จะทำอย่างไรกับนางบ้าง อยากที่จะตามให้เจอโดยเร็ว
กองกำลังใหญ่เข้าโจมตี ไม่นาน ได้ยินเสียงการต่อสู้กันอย่างสะท้านฟ้า หยวนชิงหลิงไม่เคยผ่านศึกสงคราม ในใจอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว แต่ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ศึกครั้งใหญ่ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
จิ่นหนิงกับเสี้ยวหงเฉิงนั่งอยู่ด้านหน้า อะซี่คอยปกป้องหยวนชิงหลิง พาคนร้อยกว่าคนมุ่งหน้าไป ตรวจค้นภายในบ้านสถานที่อยู่ทั้งหมด บ้านเรือนพวกนี้ล้วนทำจากไม้ทั้งหมด ดูจากข้างนอกเล็กมาก แต่หลังจากเข้าไปแล้วค่อยพบว่ากว้างขวางอย่างมาก ภายในห้องเลี้ยงแมลงมีพิษไว้มากมาย แล้วทั้งหมดล้วนเป็นการเลี้ยงไว้อย่างอิสระ บนพื้น บนโต๊ะล้วนมีเต็มไปหมด สีดำทมิฬ ดูแล้วก็น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
และตรงด้านบนสุดของแดนหมอผี มีทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่ ทางเข้าถ้ำมีต้นไม้ใหญ่สองต้น ต้นไม้สูงเท่าฟ้า รากของต้นไม้โผล่ออกมาจากพื้นดิน พัวพันกันไว้ กิ่งก้านและใบก็เขียวชอุ่มมากเช่นกัน เหมือนดั่งร่มผืนใหญ่ ปกคลุมท้องฟ้าบดบังแดด
ต้นไม้ใหญ่สองต้น มัดคนไว้ต้นละคน นั่นก็คือจวิ้นจู่จิ้งเหอกับอ๋องชุนหยู่เหวิยเทียน ทั้งสองคนต่างไม่ได้สติ หลับตามือทั้งสองข้างห้อยลง
ปากถ้ำมีหมันเอ๋อกับคนแก่หลังค่อมยืนอยู่ คนแก่ทั้งสองคนสวมชุดสีเทา ใบหน้าเปลี่ยนรูปบูดเบี้ยวอย่างรุนแรง จมูกกับตาซ้ายแทบจะซ้อนทับกัน ตาขวาก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยต้อกระจก แต่ภายในต้อกระจกนั่นเป็นสีแดง ฉายเรืองแสงสีแดง มองผ่านอย่างรวดเร็ว ยังนึกว่าเป็นอสูรชั่วร้าย
หมันเอ๋อจ้องมองดูเขา สายตามีความลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ความลังเลก็ถูกความเย็นชาแทนที่อย่างรวดเร็ว พร้อมพูดขึ้นว่า “นั่นล้วนเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ต่อจากนี้ไป ข้าคือคนของเจียงเป่ย”
นางยกมีดสั้นขึ้น แล้วแทงลงไปบนหัวใจของหยู่เหวิยเทียน
“บรู้วว์.....” ทันใดนั้น เสียงหมาป่าส่งเสียงดังขึ้น เสียงไม่ดัง และเพียงแค่ได้ยิน กลับทะลุทะลวงรุนแรงอย่างมาก
หมันเอ๋อเอียงหัวนิ่งงัน เสียงนี้ เหมือนคุ้นเคยอย่างมาก
คนชราทั้งสองคนมองไปรอบๆอย่างระแวดระวังในทันที เสียงทุกอย่างในหุบเขานี้ สำหรับพวกเขาแล้วถือเป็นเสียงที่คุ้นหูอย่างมาก
สัตว์มีพิษมากมายที่นี่ ไม่มีหมาป่าเพียงอย่างเดียว
“บรูวว์บรูวว์บรูวว์” แล้วก็ดังติดต่อกันอีกสามครั้ง เสียงสูงต่ำใกล้ไกลแต่ละครั้งล้วนไม่เหมือนกัน เสียงแรกไร้ตัวตน เสียงที่สองห่างไกล เสียงที่สามกลับเหมือนอยู่รอบๆนี้
คนชราพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มในทันใดว่า “หมันเอ๋อ ลงมือ”
สายตาหมันเอ๋อตื่นตกใจ ชูมีดสั้นขึ้นแล้วก็แทงตรงหน้าอกหยู่เหวิยเทียนไปเรื่อย แต่ก็ในวินาทีนั้น หมาป่าหิมะตัวหนึ่งโดดลงมาจากฟ้า กระโจนไปบนตัวของหมันเอ๋อ จนนางกระเด็นไปอีกทางด้านหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...