บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1026

เมื่อมาถึงตำหนักฉินคุน ฝูเป่าก็วิ่งพรวดออกมาหา พยายามถูไถเท้าของหยวนชิงหลิง เป็นมิตรอบอุ่น

หยวนชิงหลิงอุ้มมันขึ้นมา “โอ้โห ฝูเป่า ช่วงนี้เจ้ากินอะไรเนี่ย? อ้วนจนเป็นก้อนกลมแล้ว”

ฝูเป่าลู่หูลง เพิ่มความระแวดระวัง เห่าโฮ่งๆ ไปเรื่อย ยังไง? จะไม่ให้ข้ากินข้าวหรือ?!

หยวนชิงหลิงชอบอกชอบใจ อุ้มมันเข้าตำหนักคารวะไท่ซ่างหวง

บุคคลสำคัญทั้งสามของเป่ยถังกำลังนั่งสง่าอยู่ที่เก้าอี้ปรมาจารย์ เมื่อเห็นองค์รัชทายาทกับพระชายามาใบหน้าก็เผยความคาดหวัง ตอนที่หยวนชิงหลิงให้คนไปแจ้งข่าวก็บอกว่าเป็นเหล้าบุหรี่หายากที่นำมาจากต้าโจว แล้วยังเป็นสิ่งที่พวกเขาชอบมากอีก

ไม่ได้พบไท่ซ่างหวงมาระยะหนึ่ง ไท่ซ่างหวงอ้วนท้วมมาหน่อย สีหน้าไม่เลว รู้ได้เลยว่าช่วงนี้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เมื่อคารวะแล้ว หยู่เหวินเห้าก็เริ่มนำสิ่งของออกมา โดยมากแล้วเป็นบุหรี่ เหล้าและชา

ไท่ซ่างหวงหยิบซิการ์ออกมากล่องหนึ่ง “นี่คือบุหรี่หรือ? โอ้ กล่องนี้สวยจริงๆ ทำจากเหล็กหรือ? บนนั้นมีตัวอักษรด้วย ตัวอักษรเขียนได้ไม่เลวเลย สูบบุหรี่มีผลทำลายสุขภาพหรือ? เฮอะ! เขียนผิดแล้ว นี่มันไม่สมเหตุผล”

ว่าแล้วเขาก็สูดดมกลิ่น เนื้อตัวระริกระรี้เป็นไม่ได้ เขาที่บอกจะเลิกบุหรี่เมื่อก่อนหน้านี้ พอหยวนชิงหลิงไปแล้ว ทุกวันต้องไปสูบที่ปากประตูนิดหน่อยถึงจะสบาย

“เพคะ ซิการ์ รสค่อนข้างเข้ม สูบหนึ่งอึกเท่ากับหนึ่งวัน” หยวนชิงหลิงหยิบขึ้นมา แล้วนำออกมาสามมวน แบ่งให้คนใหญ่โตทั้งสามคนละมวน แล้วล้วงไม้ขีดออกมากล่องหนึ่ง จุดให้ทั้งสามตรงนั้น

เมื่อไท่ซ่างหวงเห็นดังนั้นก็ร้อนรน “เอ๋ เจ้ารีบขนาดนั้นทำไมกัน? ถุงยาสูบข้าเล่า! รีบไปเอามา จะเสียของไม่ได้เด็ดขาด!”

“ไม่ต้องใช้ถุงยาสูบหรอกเพคะ สูบอย่างนี้แหละ วางที่ริมฝีปากแล้วสูบอึกหนึ่ง” หยวนชิงหลิงเอ่ย

ไท่ซ่างหวงลังเลไปแพล็บหนึ่ง “สูบอย่างนี้เลยหรือ?”

“เพคะ!”

ทั้งสามมองกันไปกันมา ไม่เคยพบเห็นการสูบเช่นนี้มาก่อน แต่เรื่องแปลกใหม่อย่างไรก็ต้องลอง

ไท่ซ่างหวงสูบก่อนทีหนึ่ง ซิการ์รสเข้มมากจริงๆ อึกเดียวก็แทบทำเขาสำลัก

“เยี่ยม! ของดี!” จากนั้นเขาก็ปรีดา กล่าวชื่นชม

“ครั้งนี้สูบได้แค่สองอึกนะเพคะ วันละครั้งเท่านั้น” หยวนชิงหลิงกล่าวเตือน

เมื่อนั้นไท่ซ่างหวงจึงรีบสูบไปอีกอึก แล้วให้คนรับใช้ตัดทิ้งอย่างระมัดระวัง วางกลับเข้ากล่องอย่างทะนุถนอม จากนั้นก็เอ่ยกับเซียวเหยากงและโสวฝู่ฉู่ “พวกเจ้าก็มีคนละกล่อง เอาของข้าไปมวนหนึ่ง ต้องเอาจากพวกเจ้ากลับมามวนหนึ่งนะ”

โสวฝู่ฉู่รู้สึกอัศจรรย์ใจมาก มองเซียวเหยากงทำหน้าดื่มด่ำ “เป็นยังไง? รสเข้มละสิ? สูบมากไม่ได้จริงๆ จะเวียนศีรษะเอา”

ครั้นแล้วหยวนชิงหลิงก็เปิดไวน์แดง เทให้คนละนิดหน่อย สมัยหนุ่มๆ พวกเขาต่างดื่มเหล้าแรง บัดนี้แก่ชราแล้วจึงค่อยๆ เปลี่ยนมาดื่มเหล้าหมักที่ค่อนข้างอ่อนนุ่ม ดังนั้นรสไวน์แดงจึงยอดเยี่ยมมาก

เมื่อนั่งอยู่ด้วยกันก็พูดเรื่องสนุกของต้าโจว ที่จริงก็ไม่มีเรื่องสนุกอะไร แม้แต่พบเห็นก็ไม่เคย โดยมากก็ได้ยินมาจากระหว่างทาง แต่กลับทำให้สามเสือที่ไม่ได้ไปไหนไกลนานต้องตะลึง

หยู่เหวินเห้าดื่มไวน์แดงสองสามอึก แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ต้าโจวมีรถม้าอย่างชนิด ไม่ต้องใช้ม้าลากก็เคลื่อนได้”

เซียวเหยากงหัวเราะ “เป่ยถังเราก็มีเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ ไม่ใช้ม้า ใช้วัวก็ได้”

“ไม่ใช่! ไม่ใช้อะไรทั้งนั้น นั่งอยู่บนนั้นมันก็เคลื่อนไหวเองได้” หยู่เหวินเห้าเอ่ย

ทั้งสามพากันแสดงออกว่าไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด นอกเสียจากผีสางมาลาก แน่นอนว่าเหตุแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะต้าโจวเคยมีข่าวเรื่องทหารผี หยู่เหวินเห้าโต้แย้งกับพวกเขา บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับผีสาง แต่พวกเขาแน่วแน่ในสิ่งที่ตนเชื่อถือ หยู่เหวินเห้าจึงไม่อาจพูดโน้มน้าวพวกเขา

หลังจากดื่มเหล้านิดหน่อยแล้ว หยวนชิงหลิงก็พยุงไท่ซ่างหวงไปเดินเล่น ให้หยู่เหวินเห้าเล่าเรื่องมหัศจรรย์ของต้าโจว ที่ความจริงแล้วเป็นเรื่องจากยุคปัจจุบันกับเซียวเหยากงและโสวฝู่ฉู่ต่อ แม้จะโต้แย้งกันหน้าดำคร่ำเครียด แต่ก็เป็นวันคืนที่สงบงดงาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน