ตอน บทที่ 1035 เป็นเจ้าพระยาเจิ้งเป่ย จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1035 เป็นเจ้าพระยาเจิ้งเป่ย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
สองคนสามีภรรยาได้ตัดสินใจแล้วว่า จะไม่มีลูกแฝดหญิงอะไรอีกทั้งนั้นแล้ว
แค่สองท้อง ได้ลูกมาห้าคน เท่านี้ชีวิตพวกเขาก็วุ่นวายโกลาหลไม่ว่างเว้นแต่ละวันแล้ว ถ้ายังมีลูกสาวตัวน้อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก คงเหนื่อยจนแทบบ้าแน่ ดังนั้นมาตรการความปลอดภัยจึงต้องมีเตรียมไว้ให้เพียงพอ
แม้ว่าเจ้าห้าจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้ลูกสาว แต่จริง ๆ แล้วก็เขาไม่เต็มใจที่จะมีลูกเพิ่มอีกแล้ว ทั้งสองคนคุยกันเรียบร้อยแล้วว่า ถ้าพวกเขาต้องการผู้หญิงจริง ๆ ให้รอจนกว่าแฝดสองจะโตกว่านี้หน่อย แล้วจึงค่อยเอามาเลี้ยงอีกสักคน เจ้าห้าไม่ได้กลัวว่ามีลูกเยอะแล้วจะเอะอะวุ่นวาย แต่กลัวว่าเจ้าหยวนจะเป็นอันตรายถ้าต้องคลอดลูกมาก ๆ แบบนั้น
เขาไม่อยากแบกรับความเสี่ยงอะไรแบบนั้น ลูกสาวเขาก็อยากได้ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือภรรยาที่เป็นคนที่สำคัญที่สุด
ในวันรุ่งขึ้น หยู่เหวินเห้ากลับไปที่กรมการพระนคร เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยก็มาหาเขา บอกว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดกับเขา
หยู่เหวินเห้าคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องของฮู่เฟย จึงเชิญไปที่เรือนรับรองด้านข้าง หลังจากนั่งลงแล้วพูดคุยกัน จึงได้ผลสรุปว่าเป็นเพราะสิ่งที่เจ้าสิบพูดจริง ๆ
หยู่เหวินเห้าพูดว่า "เจ้าสิบเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง? เขาพูดแค่ประโยคเดียว ทำไมทุกคนถึงได้เอามาคิดเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้? เจ้าพระยาเจิ้งเป่ย เจ้านี่ก็จริง ๆ เลยนะ ใคร ๆ เขาก็ไม่พูดกันแล้วแท้ ๆ เจ้าก็ยังจะยึดมั่นถือมั่นอยู่ได้ นี่มันจะไม่น่าเบื่อไปหน่อยรึ? "
เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยอึกอักลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าที่ขาวซีดเผือดสีว่า: "ไม่ใช่ ประโยคนั้นข้าเป็นคนสอนเขาเอง"
หยู่เหวินเห้าตกใจจนผงะ “อะไรนะ? เจ้าสอนรึ?”
“ไม่ใช่สอน!” สีหน้าเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “ข้าก็แค่พูดแบบสนุกปากเฉย ๆ ใครจะไปรู้ว่าเด็กคนนี้จะจำได้ ทั้งยังไปพูดในงานเลี้ยงวันนั้นอีก ตอนที่ข้าได้ยินเรื่องนี้เข้า ก็ตกใจแทบตายแล้ว”
หยู่เหวินเห้ามองเขาแล้วพูดอย่างราบเรียบว่า: "เอาเถอะ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เจ้าก็อย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าใครก็พอ"
เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยสีหน้าโศกเศร้าจนเหมือนจะร้องไห้ "มีคนรู้ พวกเขาไปทูลรายงานต่อหน้าฝ่าบาทแล้ว คนในวังส่งข้อความมาถึงข้า บอกให้ข้าเข้าวังในวันพรุ่งนี้"
“ใครไปรายงานต่อหน้าฝ่าบาท? เจ้าไปพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าใครกัน ? ทำไมเจ้าถึงได้เลอะเลือนเช่นนี้?”
หยู่เหวินเห้าถูกเขาทำให้โกรธแทบตายแล้วจริง ๆ เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยไม่ได้มีความคิดอะไรเช่นนั้นหรอก แต่ปากของเขาไม่เคยมีหูรูดมาแต่ไหนแต่ไร อยากพูดอะไรก็พูดแบบไม่เคยสนใจผลที่จะตามมา ก่อนหน้านี้ก็เคยพูดอะไรที่ก่อให้เกิดเรื่องร้ายใหญ่โตมาแล้ว นิสัยแบบนี้ของเขาจะฆ่าเขาในสักวันหนึ่งเข้าจริง ๆ
เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยถอนหายใจเฮือก "ในวันนั้นข้าเข้าวังไปเยี่ยมพระสนม องค์ชายสิบขอให้ข้าไปเล่นกับเขาในสวน เล่นกันไปเล่นกันมา เรื่องมันก็เริ่มตรงนี้ล่ะ เขาบอกว่าเขาจะเป็นแม่ทัพเหมือนข้า ข้าก็พูดชมเขาไปว่าเขาฉลาดมาก ในอนาคตไม่ต้องพูดว่าเป็นแค่แม่ทัพหรอก ต่อให้เป็นฮ่องเต้เขาก็สามารถเป็นได้ เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นแค่เรื่องพูดกันเล่น ๆ พูดแล้วก็แล้วไปไม่ได้คิดอะไรจริงจัง "
“ตอนนั้นมีใครได้ยินบ้าง?”
“เป็นพวกข้ารับใช้ในวัง มีอยู่ที่นั่นกันหลายคน ข้าไม่ค่อยได้สนใจมากนัก รู้แค่ว่ามีคนที่เล่นด้วยอยู่หลายคน แต่ละคนอยู่ห่างออกไปราวสามถึงสี่จั้ง ใครจะรู้ว่าจะโดนได้ยินเข้าจนได้ล่ะ?"
เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยพูดพลางถอนหายใจอย่างเคร่งเครียด “เมื่อก่อนข้าเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกยกตนข่มท่าน ต่อมาภายหลังก็รู้จักเรียนรู้ความผิดของตัวเอง อุตสาห์รู้จักสงบปากสงบคำมาได้ตั้งนาน ใครจะรู้ว่าปากจะพูดจาพาจนเข้าอีกครั้งแล้ว รัชทายาท ท่านต้อง เชื่อข้านะ ข้าไม่ได้หมายความไปทางร้ายอะไรอย่างนั้นเลย มันเป็นแค่คำพูดพล่อย ๆ ก็เท่านั้นเอง”
ต่อให้ไม่ทำผิดพลาดในวันนี้ ก็จะต้องมีข้อผิดพลาดอื่น ๆ ตามมาในวันพรุ่งนี้อยู่ดี อย่างไรก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงมันได้ เว้นเสียแต่ว่าจะถูกกำจัดออกไป
เมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินรายงานที่ว่านี้ ก็รีบเข้าวังเพื่อไปคุยเรื่องนี้กับฮู่เฟยทันที
ฮู่เฟยไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะเป็นคำพูดยั่วยุของพ่อตัวเอง นางโกรธจนร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว “มิน่าล่ะ เมื่อวันที่สี่ของวันตรุษจีน ข้าทูลขอฝ่าบาทว่าอยากจะเชิญคนจากบ้านเดิมเข้าวัง ฝ่าบาทถึงได้ปฏิเสธ ที่แท้ก็เป็นเพราะเหตุผลนี้นี่เอง”
หยวนชิงหลิงถามว่า "ฝ่าบาททรงรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่สี่ของวันตรุษจีนแล้วรึ?"
“ ต้องรู้แล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นพระองค์จะปฏิเสธทำไมล่ะ? ปกติพระองค์ทรงยินดีมากเวลาที่คนจากบ้านเดิมของข้าเข้าวังมาเยี่ยมเยียนข้า” ฮู่เฟยเดิมทีรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมาก แต่มาตอนนี้ ใบหน้าของนางถึงกับขาวซีดเผือดสีไปทั้งหน้า หันไปมองหยวนชิงหลิงพลางถามขึ้นว่า “ เจ้าว่า ฝ่าบาทจะทรงเชื่อท่านพ่อของข้าหรือไม่? ”
หยวนชิงหลิงพูดปลอบใจว่า: "เชื่อหรือไม่นั้นยากที่จะพูดได้ แต่ตอนนี้คิดว่าคงจะเชื่อ เจ้าคิดว่าฝ่าบาทรู้เรื่องนี้ตั้งแต่วันที่สี่ของตรุษจีน แต่กลับไม่มีรับสั่งให้เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยเข้าวังมาเพื่อสอบถาม เป็นไปได้ว่าอาจทำการตรวจสอบแบบลับ ๆ ไปแล้ว เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ถึงค่อยเรียกเขาเข้าวังมาเพื่อคุยเรื่องนี้ให้มันชัดเจนมากกว่า”
ฮู่เฟยกลับพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า: "ถ้าอย่างนั้นหลังจากตรวจสอบแล้ว ทรงรู้สึกว่าเขามีเจตนาแอบแฝงขึ้นมาล่ะ?"
หยวนชิงหลิงพูดว่า: "จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ? ท่านเจ้าพระยาจะต้องไม่มีเจตนาแอบแฝงอะไรแบบนั้นแน่ หากว่าฝ่าบาททรงคิดว่าเขามีเจตนาร้ายจริง ๆ ทำไมพระองค์ไม่หยิบเรื่องขึ้นมาจัดการ? แต่กลับเก็บซ่อนไว้อย่างลับ ๆ จนมาตอนนี้ค่อยมีรับสั่งเรียกให้เข้าวังเพื่อสอบถาม นั่นแปลว่าพระองค์จะต้องทรงเชื่ออย่างแน่นอน อาจแค่อยากจะเตือนเขาสักสองสามประโยค ให้เขารู้จักพูดอย่างระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงองค์ชายสิบ ฝ่าบาทจะต้องทรงใส่พระทัยมากแน่ ต้องไม่ยอมให้เกิดปัญหาอะไรที่กระทบองค์ชายสิบได้เด็ดขาด”
หลังจากได้ฟังการวิเคราะห์ของหยวนชิงหลิง ฮู่เฟยก็รู้สึกว่าฟังดูมีเหตุผล จึงถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง พลางพูดอย่างดุดันว่า: “ท่านพ่อนี่ก็จริง ๆ เลย ข้าบอกเขาตั้งหลายครั้งแล้วนะว่าจะพูดจะคุยกับใครให้รู้จักระวังตัวให้มาก ตอนนี้เขาทำงานให้องค์ชายรัชทายาท ข้าก็ได้รับความโปรดปรานอยู่ในวัง มันต้องมีใครหลายคนที่อยากเห็นพวกเราโชคร้ายอยู่แล้ว เขาก็ยังไม่รู้จักใส่ใจ ครั้งนี้เกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ แล้วไหมล่ะ? เฮ้อ! ข้ายังอยากทูลขอให้ฝ่าบาทส่งเขาไปไกล ๆ เมืองหลวงสักทีจริง ๆ ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของเขา ในอนาคตอาจเกิดเรื่องที่ร้ายแรงยิ่งกว่านี้ขึ้นมาอีกก็เป็นได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...