ในช่วงพลบค่ำ หรงเยว่ก็ขอตัวกลับไปจวนอ๋องหวยก่อน แต่ฮูหยินเหยากลับไม่เต็มใจจะจากไป มาคุยกับหยวนชิงหลิงว่านางอยากอยู่ค้างที่จวนอ๋องฉู่สักคืน
การที่มีคนเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอพักที่จวนสักคืนด้วยตัวเองเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หยวนชิงหลิงมองนางพลางเอ่ยถามว่า "เป็นอะไรไปรึ?"
ฮูหยินเหยาปรายตามองนางแวบหนึ่ง “ทำไม? แค่ข้าอยากจะค้างที่นี่สักคืนก็ต้องถามเหตุผลด้วยรึ? ไม่อยากต้อนรับกันหรืออย่างไร?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพลางพูดว่า: "ข้าต้องยินดีต้อนรับอยู่แล้วสิ แต่เจ้าวางใจปล่อยให้เจ้าหมาน้อยอยู่ตัวเดียวได้อย่างนั้นรึ?"
ทุกวันนี้ ฮูหยินเหยาผู้ซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นทาสหมาเต็มขั้น นางมักพูดติดปากอยู่เสมอว่าจะใช้ชีวิตที่มีหมาเป็นแสงนำทางไปจนกว่าจะสิ้นลม แล้วจะตัดใจปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังตลอดทั้งคืน โดยไม่สนใจให้ข้าวให้น้ำมันได้จริง ๆ น่ะหรือ?
ฮูหยินเหยากลับตอบว่า“ ตอนที่ข้ามาวันนี้ ข้าก็พามันมาที่นี่ด้วยแล้ว ตอนนี้อยู่ในสวน ข้าให้ฉี่หลอช่วยดูแลมันให้ ป้อนอาหารไปเรียบร้อยแล้วล่ะ”
หยวนชิงหลิงรู้สึกแปลกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว “ หมายความว่าตอนที่เจ้ามาที่นี่วันนี้ ก็วางแผนไว้แล้วว่าจะอยู่ค้างที่นี่สักคืนแล้วอย่างนั้นรึ?”
“บางที…” ฮูหยินเหยามองนางด้วยรอยยิ้มสดใส “อาจจะอยู่สักสามวัน ห้าวัน หรือไม่ก็เจ็ดวัน อาจรอจนกว่างานแต่งของหมันเอ๋อจะเสร็จสิ้นลงก่อน ถึงค่อยกลับไปก็ยังไม่แน่”
“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นรึ?” หยวนชิงหลิงตั้งใจถามอย่างจริงจังแล้วในครั้งนี้ จ้องนางเขม็ง “หรือว่าหยู่เหวินจุน ไม่ก็ฉู่หมิงหยางมาหาเจ้าอีกแล้วอย่างนั้นรึ?”
หลังจากที่หลินเซียวกับฉู่หมิงหยางไปหาพวกเขาครั้งนั้น ทุกอย่างก็ยังคงสงบเงียบดี เพียงแค่เป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับเรื่องของคุณหนูห้าตระกูลกู้ ทำให้ฮูหยินรองตระกูลกู้โกรธมากจนแทบควันออกหู แต่ฉู่หมิงหยางกลับมีท่าทางเหมือนคนที่หลงเพ้อจนไม่มีสติ อย่างไรก็ไม่ยอมหยุด พอดีตอนนี้ ทางนี้ก็กำลังเตรียมงานแต่งกันอยู่ จึงปล่อยให้นางบ้าบออยู่กับตัวเองไปเรื่อย ๆ ก่อนแล้วกัน
ฮูหยินเหยาส่ายหน้า “ไม่หรอก พวกเขามีหรือจะกล้ามาอีก? หลังจากมากันครั้งที่แล้ว โดนท่านเทียนสั่งสอนไปยกหนึ่ง ก็ไม่ได้มาอีกเลย”
“แล้วที่เจ้าทำอย่างนี้มันเพราะอะไรกันล่ะ? หรือจะบอกว่าไม่มีเหตุผลอะไร แค่อยากมาอยู่ที่นี่สักระยะ?” หยวนชิงหลิงไม่ยอมปล่อยให้นางแกล้งตีเนียน เมื่อก่อนถ้าไม่มีอะไร ขอให้นางมาพักอยู่ที่นี่สักวันสองวัน นางยังไม่ยอมมาง่าย ๆ ครั้งนี้ถึงกับเป็นฝ่ายเอาหมามาด้วยถึงค่อยเดินทางมา มันจะต้องมีอะไรแน่ ๆ
ฮูหยินเหยายังคงส่ายหน้า ไม่มีท่าทีอื่นใดให้เห็น "แค่อยากมาอยู่ที่นี่สักสองสามวัน ถ้าหากเจ้าไม่ต้อนรับ ข้ากลับบ้านเดิมเอาก็ได้"
พูดจบ นางก็ลุกขึ้น
หยวนชิงหลิงรีบคว้าตัวนางไว้ทันที "เอาล่ะ ๆ ไม่ถามแล้ว เจ้าอยากอยู่ก็อยู่เถอะ เจ้านี่นะ ช่างเป็นคนปากแข็งบังคับไม่ได้เสียจริง ๆ เลย ถ้าเจ้าไม่อยากบอก ให้ข้าง้างปากเจ้าก็ยังไม่ได้อะไรเลยสักนิด จะอยู่ก็อยู่ไปเถอะ อยู่ไปจนกว่าเจ้าจะรู้สึกว่าพอแล้ว ไม่เอาแล้ว เช่นนี้ดีหรือไม่?”
ฮูหยินเหยาพูดติดตลกว่า “ได้ เช่นนั้นข้าจะอยู่ไปตลอดชีวิต”
“ข้าแทบจะรอไม่ไหวเลยเชียวล่ะ!” หยวนชิงหลิงพูดด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี แต่เมื่อเห็นว่านางยังพูดจาหยอกล้อได้ จึงชี้ชัดได้ว่าไม่ใช่วิกฤตใหญ่อะไร น่ากลัวว่าเพราะอยู่คนเดียวแล้วคงจะเหงาจึงอยากมาร่วมสนุกที่นี่ ถึงอย่างไรตอนนี้จวนอ๋องฉู่ก็กำลังเตรียมงานแต่งของหมันเอ๋อ ก็เป็นอะไรที่สนุกสนานมีชีวิตชีวามากจริง ๆ นั่นแหล่ะ
เพื่อความรอบคอบ เมื่อหรงเยว่มาถึงในวันรุ่งขึ้น หยวนชิงหลิงก็ยังคงเล่าเรื่องนี้ให้นางฟังเป็นการส่วนตัว แล้วขอให้หรงเยว่ไปถามฮุ่ยเทียน ว่าช่วงนี้ฮูหยินเหยาได้พบใครมาบ้างหรือไม่
หรงเยว่ถึงกับไปด้วยตัวเอง แต่ฮุ่ยเทียนกลับไม่ได้อยู่ในบ้านตัวเอง แต่ไปหยิบจับเศษกระเบื้องที่แตกอยู่ในบ้านของฮูหยินเหยา แล้วซ่อมแซมหลังคา หรงเยว่ใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปถามว่า “จวนหลังนี้เพิ่งจะซ่อมแซมไปเองไม่ใช่รึ? ทำไมถึงพังอีกแล้วล่ะ?”
“ลมแรง กระเบื้องบางอันเลยโดนพัดปลิวน่ะ พอดีว่าข้าว่าง ก็เลยมาซ่อมให้นางเสียหน่อย จริงสิ เมื่อวานนางไม่ได้กลับมา เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?” ฮุ่ยเทียนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หลังคานี้เป็นเพราะลมแรงมาก พัดถล่มจนกระจัดกระจายไปหมด ปกติเขาเป็นคนที่มักมีสีหน้าเย็นชา ไม่ทุกข์ไม่ร้อนไม่ก้าวก่ายเรื่องทางโลก ตอนนี้มาถามหาฮูหยินเหยา ก็มีท่าทีราบเรียบมาก ราวกับถามไปตามมารยาทอะไรทำนองนั้น
หรงเยว่ตอบว่า "นางจะไปพักอยู่ที่จวนอ๋องฉู่สักสองสามวัน พระชายารัชทายาทให้ข้ามาถามว่า ช่วงนี้มีใครมาที่นี่บ้างหรือไม่? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือไม่? ทำไมอยู่ดี ๆ ก็ไปขอพักอยู่ที่จวนอ๋องฉู่โดยไม่มีเหตุผล?"
ฮุ่ยเทียนโยนกระเบื้องที่พังลงมาโดยไม่เงยหน้า พูดอย่างเฉยเมยว่า: “ไม่มีใครมาที่นี่อีก นอกจากหลินเซียวกับฉู่หมิงหยางในวันนั้น”
“ในวันนั้นมีเจ้าอยู่ด้วย แต่จะพูดไป นางไม่มีทางเสียเปรียบใครง่าย ๆ อยู่แล้ว ไม่มีทางเจอเรื่องที่ทำให้ต้องน้อยเนื้อต่ำใจแน่ ” หรงเย่พูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...