บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1067

กลางดึก หยู่เหวินเห้าถูกปลุกให้ตื่นขณะที่กำลังหลับสนิท ทังหยางสาวเท้าก้าวเข้ามาเร็วจี๋ พลางรายงานว่า: "รัชทายาทรีบตื่นเถอะ อ๋องฉีสั่งให้คนมารายงานว่าองค์ชายใหญ่เกิดเรื่องแล้ว"

หยู่เหวินเห้าลุกขึ้นเปิดม่าน เผยให้เห็นสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ "เกิดเรื่องรึ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"

“บาดเจ็บสาหัส พูดกันว่าเกือบจะไม่รอดแล้ว มีคนไปรายงานที่กรมการพระนครกลางดึก อ๋องฉีได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว และส่งคนมาแจ้งให้ท่านทราบพ่ะย่ะค่ะ” ทังหยางสรุปรายงาน

หยวนชิงหลิงได้ยินว่าคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็สะดุ้งตื่นเหมือนกัน "ข้าก็จะไปที่นั่นด้วย"

ทังหยางประสานมือแล้วหันหลังกลับออกไป รอให้ทั้งสองคนแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมา สวีอีก็รออยู่ข้างนอกเช่นกัน จากนั้นก็เร่งออกเดินทางไปกลางดึก

กล่องยาของหยวนชิงหลิงเตรียมไว้พร้อมแล้ว จับมือหยู่เหวินเห้าไว้แน่น

เมื่อครู่ทังหยางบอกว่า น่ากลัวว่าอาจจะไม่รอดแล้ว นางเห็นสายตาของเจ้าห้าพลันฉายแววหวั่นไหวอย่างปิดไม่มิด

หยู่เหวินจุนทำเรื่องชั่วช้าอำมหิตมามาก ทั้งยังลงมือกับเจ้าห้านับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลอบสังหารครั้งแรก เขาเกือบจะฆ่าเจ้าห้าได้สำเร็จเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนั้น คนอย่างหยู่เหวินจุนถึงตายก็ไม่สาสมกับความผิดและบาปกรรมที่ทำลงไป แม้ว่าเจ้าห้าจะเกลียดเขาเข้าไส้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้ตายโดยไม่แยแสได้

หยู่เหวินเห้าจับมือนาง แล้วส่งสายตาปลอบโยนมาให้นางแวบหนึ่ง "ไม่เป็นไรหรอก"

รถม้าแล่นไปท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิด สวีอีขับรถเอง เสียงหวดแส้ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม ก็มาถึงส่วนลานนอกบ้านของหยู่เหวินจุน

ลานบ้านจุดโคมไฟสว่างไสว ทั้งอ๋องฉีกับคนของกรมการพระนครต่างก็มาถึงกันหมดแล้ว ม้าของอ๋องฉียังไม่ได้ผูกให้เรียบร้อยด้วยซ้ำ เดินเพ่นพ่านไปมาอยู่ข้างนอก สวีอีรีบเข้าไปช่วยผูกไว้กับต้นไม้ ก่อนจะรีบวิ่งตามเข้าไปข้างใน

เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของกรมการพระนครก็ตามมาด้วย เนื่องจากได้รับรายงานคดีในกลางดึก ชั่วขณะนั้นต่างคนต่างก็ไม่รู้สถานการณ์ หัวหน้าพลตระเวนของกรมการพระนครเลยไปหาเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพรู้เรื่องทักษะทางการแพทย์บ้างเล็กน้อย มาถึงก็รีบช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน จากนั้นอ๋องฉีก็ส่งคนไปเชิญหมอ แต่หมอที่ให้ไปเชิญยังไม่มา กลายเป็นว่าหยวนชิงหลิงมาถึงก่อน

เมื่อทั้งสามเข้าไป อ๋องฉีก็เข้ามา ตะโกนเรียกด้วยสีหน้าขาวซีดว่า “พี่ห้า!”

หยู่ดหวินเห้าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม แล้วหันไปมองรอบ ๆ บนพื้นมีเลือดจำนวนมาก มีคนรับใช้สองคนคุกเข่าอยู่บนพื้น ร้องไห้กันจนแทบขาดใจ แต่ไม่เห็นฉู่หมิงหยาง

หยู่เหวินจุนนอนนิ่งอยู่บนเตียง ราวกับว่าเขาตายไปแล้ว บนใบหน้าขาวซีดเผือดสีราวกับไร้เลือด ปากเปิดอ้าออกเล็กน้อย แต่ไม่รู้สึกว่ามีลมเข้าออก

มีแผลที่หน้าผากแต่ไม่รุนแรง เหมือนจะโดนอะไรบางอย่างกระแทกใส่ แค่มีเลือดออกนิดหน่อย มีรอยแผลเล็ก ๆ ประมาณรอยตะปู แต่มีแผลใหญ่ที่น่าจะถึงแก่ชีวิตได้ที่หน้าอก เจ้าหน้าที่ชันสูตรพูดกับหยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิงว่า : "เป็นรอยแผลที่เกิดจากกระบี่ ทั้งยังเป็นกระบี่ที่ดุดันรุนแรงมาก เรียกได้ว่าเกือบจะทะลุหัวใจเลยทีเดียวพ่ะย่ะค่ะ"

หยวนชิงหลิงตรวจดูแล้ว พบว่าหัวใจของเขาเกือบจะหยุดเต้นไปแล้ว ระบบการหายใจก็อ่อนแอมาก บางครั้งชีพจรก็เต้น ๆ หยุด ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่านี่ไม่ดีมากแล้วจริง ๆ

ตรวจสอบบาดแผลเรียบร้อย และเริ่มการถ่ายเลือดฉุกเฉิน

หยู่เหวินเห้ากับอ๋องฉีกำลังสอบปากคำถึงคดีนี้ คนรับใช้ร้องไห้พลางพูดว่า: "ข้าน้อยไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนที่พระชายาองค์ชายใหญ่กลับมาเมื่อคืน พวกเขาก็ทะเลาะกันใหญ่โต ทังยังสู้กันด้วย ข้าน้อยพยายามห้ามแล้วก็ห้ามไม่อยู่ พระชายาองค์ชายใหญ่เกือบถูกตีตายอยู่แล้ว นางวิ่งหนีออกไปข้างนอก

องค์ชายใหญ่ไม่ได้ไล่ตามไป กลับไปที่ห้องก็ทุบทำลายข้าวของครู่หนึ่ง จากนั้นก็กินเหล้าแล้วเข้านอน ข้าน้อยตื่นขึ้นมาเมื่อกลางดึก มองเข้าไปทางหน้าต่าง ก็เห็นว่ามีรอยเลือดบนพื้น จึงเปิดประตูเข้ามาดู เห็นองค์ชายใหญ่กำลังนอนอยู่บนเตียง แต่ที่หน้าอกมีเลือดไหล ทั้งยังไหลออกมาเยอะมากด้วย ข้าน้อยตกใจมากจึงรีบไปรายงานที่กรมการพระนครพ่ะย่ะค่ะ "

หยู่เหวินเห้าถามด้วยใบหน้าที่เย็นชา: "ทำไมเขาถึงทะเลาะกับ ทั้งยังสู้กันด้วย?"

คนรับใช้ปาดน้ำตาลวก ๆ ริมฝีปากสั่นเทา “ข้าน้อยได้ยินว่าเป็นเพราะเรื่องเงิน องค์ชายใหญ่ให้พระชายาองค์ชายใหญ่ส่งเงินออกมา พระชายาองค์ชายใหญ่ตอบว่าไม่มี ก็เลยทะเลาะกัน สุดท้ายก็เกิดลงไม้ลงมือกันจนได้"

“พระชายาองค์ชายใหญ่ล่ะ? ออกไปแล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลยรึ?” หยู่เหวินเห้าถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน