หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “เมื่อกี้เจ้าส่ายหัวให้กับข้า เป็นเพราะว่าหาไม่เจอหลุมใต้ดินในเรือนใช่ไหม? แล้วเจ้าก็พูดถึงจอบบนกำแพงทำให้นางกระวนกระวาย หมายความว่าอย่างไร?”
หรงเยว่พูดขึ้นว่า “บนพื้นไม่มีหลุม อาจเป็นเพราะใช้ดินกลบไว้แล้ว ข้าเห็นบนกำแพงมีจอบหนึ่งอัน บนจอบเปื้อนไปด้วยดิน น่าจะเพิ่งขุดไม่นาน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่นางใช้ดินกลบในเวลาต่อมา”
“ดังนั้นตอนที่เจ้าพูดถึงจอบ ในใจนางจึงกระวนกระวาย” ฮูหยินเหยาพูดขึ้น
หรงเยว่พูดกับหยวนชิงหลิงอย่างจริงจังว่า “เรื่องนี้ จะต้องรีบบอกใต้เท้าทัง เมื่อกี้นางจะต้องรู้แล้วแน่ว่า พวกเรามาเพื่อหยั่งเชิงนาง”
หยวนชิงหลิงก็คิดว่าควรที่จะทำเช่นนี้ การหยั่งเชิงในครั้งนี้ ค่อนข้างวู่วาม แต่หากไม่มีการหยั่งเชิงก่อน แล้วไปบอกทังหยาง จะกลายเป็นยุยง ยังไงความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของคนอื่นก็ดีขนาดนี้
กลับมาถึงจวนอ๋อง ก็สั่งคนไว้ว่าเมื่อเห็นใต้เท้าทังกลับมา ก็ให้รีบเชิญเขามาหา
ทังหยางกลับจวนตอนพระอาทิตย์ตกแล้ว แต่ได้ยินคนใช้บอก ก็มาหยวนชิงหลิงที่ตำหนักเซี่ยวเยว่
เขานึกว่าจะถามเรื่องนักฆ่า เห็นหยวนชิงหลิงแล้วจึงพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนอ๋องฉีได้สอบสวนคนพวกนั้นแล้ว วันนี้ก็สอบสวนทั้งวัน บังคับล่อลวงด้วยผลประโยชน์และก็ใช้วิธีทรมาน อีกฝ่ายยอมรับแล้ว แต่ก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ หาคนที่อยู่เบื้องหลังไม่เจอ รู้เพียงว่ารับเงินมาแล้วและก็ต้องลักพาตัวเจ้ากับหมันเอ๋อ ตอนนี้ได้ส่งคนไปสืบประวัติความเป็นมาของคนพวกนี้ คิดว่าน่าจะเป็นนักฆ่าที่ถูกซื้อมาจริงๆ ไม่ได้เคยเจอคนที่อยู่เบื้องหลัง”
“รู้สถานะของข้า กลับยังไม่ยอมที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง อีกฝ่ายให้เงินเยอะมากหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
ทังหยางชู้นิ้วทั้งห้าขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ลักพาตัวพวกเจ้าทั้งสอง ให้ห้าหมื่นตำลึง”
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เห็นที คนที่อยู่เบื้องหลังนี้ไม่ขาดแคลนเงิน”
“หากเป็นหลินเซียวกับพวกเถ้าแก่ซุน ถือว่าไม่ขาดแคลนเงินจริงๆ แค่เงินที่ฉู่หมิงหยางให้พวกเขาก็หลายล้านตำลึงแล้ว” ทังหยางพูดขึ้นอย่างเฉยเมย
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “คิดไม่ถึงจริงๆ ถึงตอนนี้แล้ว ข้ายังได้รับผลกระทบจากสองพี่น้องคู่นี้”
ทังหยางเห็นว่านางหวนคิดถึงเรื่องที่ฉู่หมิงชุ่ยกระทำกับนาง จึงพูดปลอบขึ้นว่า “ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว พระชายารัชทายาทไม่จำเป็นต้องใส่ใจคนพวกนี้”
หยวนชิงหลิงพยักหัว มองดูทังหยาง เชิญเขานั่งลงก่อน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
ทังหยางนั่งลง พร้อมถามขึ้นว่า “เรื่องอะไรหรือ? เชิญพระชายารัชทายาทพูดมาได้เลย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนทังหยวนบอกข้าว่า มีหลายครั้งตอนที่พาหมาป่าไปเดินเล่นตอนกลางคืน แล้วเห็นฮูหยินของเจ้าฝังสิ่งของอยู่ในเรือน มีชุดดำกับอาวุธ เพราะเป็นคำพูดของเด็ก ข้าก็ไม่ค่อยอยากเชื่อ ดังนั้นวันนี้ข้ากับหรงเยว่ จึงไปที่บ้านของเจ้า พูดคุยกับฮูหยินของเจ้า หรงเยว่ก็ลองหยั่งเชิงนาง บอกว่านางมีวรยุทธ และมีวรยุทธที่สูงอย่างมาก ตรงนี้ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารู้หรือไม่ แต่พวกเราคิดว่าควรที่จะบอกเจ้า”
สีหน้าทังหยางเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูจากตรงนี้ หยวนชิงหลิงคิดว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย และก็ไม่เคยสงสัยฮูหยินของตน
“ทำไมหรือ? คนที่รังแกนาง ล้วนเป็นคนที่ไม่มีวรยุทธหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
สายตาทังหยางแทบแฝงไปด้วยเลือด เนิ่นนาน ค่อยพูดขึ้นว่า “ที่ข้ารู้มาก็คือ มีหลายครั้งที่นางเกือบถูกขอทานข่มขื่น ยังมีพวกนักเลงไปวุ่นวายภายในบ้านของนาง ไม่เพียงปล้นของยังทำร้ายคน นางไปที่ทำการปกครอง ที่ทำการปกครองก็ไม่สนใจ รวมทั้งคนในบ้านของนางก็ถูกรุมทำร้ายหลายครั้ง นางขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครช่วย คิดฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ดีที่ถูกช่วยเหลือไว้ หากนางมีวรยุทธ เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นไปไม่ได้ แสดงว่านี่ล้วนเป็นความเท็จ”
หยวนชิงหลิงคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะน้ำเน่าได้ขนาดนี้ หากไม่รู้ เพียงแค่มองดูพวกเขา รักกันมาตั้งแต่วัยรุ่น ตอนนี้ก็รักใคร่กันอย่างมาก ซึ่งเป็นที่อิจฉาของคนอื่น ใครจะไปคิดว่าภายในความจริง กลับมีการวางแผนมากมายขนาดนี้?
แต่มีอย่างหนึ่ง หยวนชิงหลิงยังคงไม่เข้าใจ จึงพูดขึ้นว่า “แต่ตอนที่นางมาหาเจ้า เจ้าห้ายังไม่เป็นองค์ชายรัชทายาท แสดงว่าที่นางแต่งงานกับเจ้า ไม่ใช่เพราะเป็นการต้องการที่จะเข้าใกล้เจ้าห้า”
ทังหยางส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนั้นถึงแม้องค์ชายรัชทายาท ยังไม่ถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท แต่ก่อนที่ท่าน.... ก่อนที่จะเกิดเรื่องในจวนองค์หญิง องค์ชายรัชทายาทก็มีผลงานแล้ว คุณความดีด้านการสู้รบโดดเด่น หากนางมีความตั้งใจแอบแฝงจริง บางทีตอนนั้นอาจจะไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท แต่ตอนนี้ต้องใช้แน่นอน”
ตอนที่ทังหยางพูดถึงตรงนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด พร้อมพูดขึ้นว่า “สมมุติว่าตอนนั้นเป้าหมายไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท งั้นแสดงว่าไม่ใช่คนของอ๋องอานหรืออ๋องจี้ อาจจะไม่ใช่คนเป่ยถังด้วยซ้ำ เพราะตอนที่องค์ชายรัชทายาทยังไม่ใช่องค์ชายรัชทายาท คนที่คอยทำร้ายเขามีเพียงอ๋องอาน หรืออ๋องจี้ จุดประสงค์ของนางก็คือเพียงแค่ต้องการที่จะปักหลักอยู่ในเมืองหลวง หรือวางหมากไส้ศึกอยู่ในเมืองหลวง และอยู่ข้างกายข้า ข้ามีโอกาสที่จะได้สัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลโดดเด่นมากมาย ข่าวที่ได้มาก็ค่อนข้างเยอะ นางเองก็ง่ายที่จะปกปิดตนเอง”
“เจ้าสงสัยหงเย่?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“ไม่ ไม่ใช่หงเย่” ทังหยางโบกมือ สมองครุ่นคิดอย่างว่องไว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...