ทังหยางไม่มีไฝที่ใต้คาง นั่นก็หมายความว่าคนที่ถูกตัดลิ้นจนขาดคนนั้น ก็คือทังหยางตัวจริงอย่างนั้นรึ?
แต่หยู่เหวินเห้ากับท่านชายสี่ต่างก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า นี่เป็นกลยุทธ์ที่ยังไม่ทันสมบูรณ์ ก็ถูกพวกเขาบุกเข้ามาทำลายแผนจนแตกกระเจิง ดังนั้น ใครคือทังหยางตัวจริงกันแน่ ชั่วขณะนี้จึงไม่สามารถอาศัยแค่การดูว่ามีหรือไม่มีไฝใต้คางมาตัดสินได้
หรงเยว่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นฮูหยินเหยา จึงอดถามด้วยใบหน้าซีดเผือดไม่ได้ว่า "ท่านชาย ฮูหยินเหยาล่ะ?"
ท่านชายสี่พูดอย่างเฉยเมย: "ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนรับผิดชอบเฝ้าดูนางจากทางด้านหลังหรอกรึ?"
“อะไรคือข้ารับผิดชอบด้านหลัง? เป็นเจ้าต่างหากที่ต้องตามอยู่ด้านหลัง ข้าเป็นหน่วยบุกให้ด้านหน้า มันก็ต้องเป็นกลุ่มที่รับผิดชอบด้านหลัง ที่ต้องคอยดูแลความปลอดภัยของฮูหยินเหยาอยู่แล้วสิ ที่ข้าไปเชิญเจ้ามา ก็หวังว่าจะให้เจ้าดูแลความปลอดภัยให้ฮูหยินเหยาต่างหาก!” หรงเยว่ร้อนรนกังวลใจแทบแย่แล้ว
ท่านชายสี่ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเค้นคำพูดลอดริมฝีปากออกมาสองสามประโยคว่า "ไม่ใช่อย่างแน่นอน ใครตามด้านหลังยังไม่ชัดเจนอีกรึ? ข้าเข้ามาก่อนแท้ ๆ"
“ นั่นเป็นเพราะข้าคิดว่าเจ้าพบตัวฮูหยินเหยาแล้ว ถึงได้เข้ามาก่อน แล้วเจ้าก็ตามรอยฮูหยินเหยามาตลอดทาง พื้นฐานข้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการบุกโจมตีด้านหน้า....” หรงเยว่รู้ว่าท่านชายสี่เริ่มโยนความผิดหน้าด้าน ๆ แล้ว อีกทั้งยังเชี่ยวชาญมากจนชนิดที่ใต้หล้านี้ไม่มีใครเกินอีกด้วย จึงไม่มัวเสียเวลาพูดอะไรอีก รีบพาคนออกไปตามหาทันที
ท่านชายสี่มองตามเงาแผ่นหลังของหรงเยว่อย่างไม่พอใจ “พอแต่งงานแล้ว เริ่มผลักความรับผิดชอบเก่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ”
หยู่เหวินเห้าก็ร้อนใจมากเช่นกัน เขายังไม่รู้เรื่องของฮูหยินเหยา หลังจากถามจนได้ความแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนอย่างรุนแรง "นั่นหมายความว่า ฮูหยินเหยาน่าจะเกิดเรื่องแล้วน่ะสิ?"
ท่านชายสี่พูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง: "ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นได้หรอกน่า ตอนที่พวกเรามา ก็มีคนไปบอกฮุ่ยเทียนให้รีบมาแล้วล่ะ ถ้าฮุ่ยเทียนมา ฮูหยินเหยาไม่มีทางเกิดเรื่องได้แน่"
หยู่เหวินเห้าตกใจจนผงะ "แล้วทำไมเจ้าถึงไม่บอกหรงเยว่ล่ะ? เมื่อครู่นางร้อนใจแทบแย่แล้ว"
“ นางเริ่มรู้จักผลักความรับผิดชอบแล้ว ยังไม่ควรให้บทเรียนนางสักหน่อยหรือ? ให้นางร้อนใจนิด ๆ หน่อย ๆ จะเป็นไรไป ” ท่านชายสี่พูดด้วยท่าทางสบาย ๆ ไม่ยี่หระ
เมื่อหยู่เหวินเห้าได้ยินว่าฮูหยินเหยาจะปลอดภัย ก็รู้สึกโล่งอก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของทังหยางที่มีถึงสองคน เขาปรายตามองทั้งสองแวบหนึ่งด้วยความปวดหัว ทำได้แค่พาทั้งสองคนกลับไปด้วย
ทุกคนที่ถูกจับได้ในเรือนนั้น ต่างก็ถูกนำตัวกลับไปด้วยเช่นกัน
นี่ไม่ใช่สำนักงานใหญ่ของพวกเขา มีคนไม่มาก ไม่อย่างนั้นมันคงจะไม่ถูกทำลาย ทั้งยังสามารถช่วยคนออกมาได้ง่ายดายขนาดนี้แน่
เมื่อทังหยางทั้งสองถูกพาตัวกลับไป หยวนชิงหลิงก็ยังรู้สึกว่า ไม่ว่าคนไหนจะเป็นตัวจริง นางก็รู้สึกทุกข์ทรมานใจไม่ต่างกัน
หมอหลวงเฉาเพิ่งจะกลับมาพร้อมกับฮูหยินใหญ่พอดี จึงรีบเข้ามาช่วยทำการรักษา
หมอหลวงเฉารับผิดชอบรักษาคนที่ลิ้นถูกตัด หยวนชิงหลิงตรวจสอบอาการของคนที่เหมือนจะมีอาการสมองเสื่อม หยวนชิงหลิงให้สวีอีลองตรวจสอบดูว่า มีบาดแผลบนร่างกายของเขาบ้างหรือไม่ หรือว่ามีร่องรอยการถูกทุบตีบ้างหรือไม่ หลังจากที่สวีอีตรวจสอบดูแล้ว ก็บอกหยวนชิงหลิงว่าเขาไม่มีร่องรอยของการถูกทุบตี
หยวนชิงหลิงได้ทำการตรวจสอบที่ส่วนหัว กับส่วนของมือ ล้วนไม่มีบาดแผล มีรอยแผลเป็นอยู่บ้าง สวีอีบอกว่าเป็นบาดแผลเมื่อสมัยก่อนตอนที่อยู่ในสนามรบ ทำศึกจึงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นสวีอีก็ไปดูอีกคนที่อยู่ทางฝั่งหมอหลวงเฉา มีรอยแผลเป็นเหมือนกันทุกประการ แม้แต่ตำแหน่งก็ยังเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้มีแผลเป็นใหม่ ๆ ที่เละเทะกระดำกระด่างเพิ่มเข้ามามากขึ้น ทำให้ใครที่ได้เห็นต่างก็อดรู้สึกสงสารจับใจไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...