บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1111

สถานการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร หยวนชิงหลิงไม่สนใจทั้งไม่คิดจะไถ่ถาม เจ้าห้าออกไปแต่เช้ากลับมาจนค่ำ สองคนสามีภรรยาได้คุยกันน้อยลง หยู่เหวินเห้าทุกวันนี้คือกลับมาถึง พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย พอเช้ามาฟ้ายังไม่ทันสว่างก็ต้องรีบออกไป ไม่มีเวลาพูดคุยกับหยวนชิงหลิงได้สักกี่ประโยคด้วยซ้ำ

สภาพของทังหยางดีขึ้นบ้างแล้ว สามารถจดจำหยวนชิงหลิงได้ แต่ปฏิกิริยานั้นเชื่องช้าและออกจะเฉื่อย ๆ เนือย ๆ ท่านชายหงเย่สั่งให้คนนำยามาให้ บอกว่ามันจะทำให้สติของทังหยางแจ่มชัดตื่นตัวได้เร็วขึ้น

หลังจากกินยาแล้ว วันรุ่งขึ้นเขาก็เริ่มดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ไม่ว่าจะถามอะไรเขา ก็จะไม่ตอบแบบทื่อ ๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่เริ่มมีการคิดวิเคราะห์บ้างแล้ว

ดู ๆ ไปแล้วเหมือนว่าถ้าค่อย ๆ รักษาตัวไปอีกสักสองสามวัน ก็คงจะไม่เป็นไรแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ราบรื่นกว่าที่คิดไว้เมื่อก่อนหน้านี้พอสมควรทีเดียว

เรื่องของโสวฝู่ฉู่ก็หมักหมมมาหลายวันแล้ว เสียงประณามจากบรรดาขุนนางกับประชาชนที่ต่อต้านอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนานร้อนฉ่าไปจนถึงจุดเดือดแล้ว แต่หยู่เหวินเห้ากลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการควบคุมตัวพวกเขา ทั้งไม่อธิบายอะไรแทนอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนานด้วย และยังไม่มีการเชิญอ๋องผิงหนานไปโรงเตี๊ยมอีก แต่ทุกวันจะเห็นเขาเข้าออกจวนฉู่วันละครั้ง จากนั้นก็จะกลับไปหารือกับเน่ย์เก๋อเกี่ยวกับการเมือง จนพลบค่ำถึงค่อยออกจากวังไป

เดิมที บรรดาลูกศิษย์ของโสวฝู่ฉู่ยังรอให้หยู่เหวินเห้าตัดสินใจ ยังไม่ไปเข้าร่วมก่อเรื่องก่อราวกับบรรดาขุนนางเฒ่าเหล่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าหยู่เหวินเห้าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ก็เริ่มแอบกังวลใจกันขึ้นมาแล้ว เริ่มมีฎีกาไถ่ถามเรื่องให้หยู่เหวินเห้าทำการตรวจสอบเรื่องการวางยาพิษ

หยู่เหวินเห้ายังคงเมินเฉยไม่สนใจ ถึงขั้นให้ความรู้สึกว่า เขาจงใจปล่อยให้พวกนั้นทำให้เรื่องราวมันยิ่งใหญ่โตมากขึ้นเลยทีเดียว

ขุนนางเหล่านี้มีทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ทั้งยังมีจำนวนค่อนข้างมาก ถ้าหากก่อปัญหาอะไรขึ้นมา สิ่งต่าง ๆ คงยากจะจัดการให้คลี่คลายลงได้เป็นแน่

ราชครูเหว่ยก็เคยเตือนหยู่เหวินเห้าแบบนี้เช่นกัน แต่หยู่เหวินเห้าก็ยังไม่สนใจอยู่ดี ยังคงปล่อยให้น้ำในสระนี้ขุ่นจนกลายเป็นตะกอนโคลนไปเรื่อย ๆ

ในตอนที่สถานการณ์ทางการเมืองวุ่นวายถึงขีดสุด ข่าวลือจากชาวบ้านแพร่กระจายไปทั่วสารทิศ มีคนบอกว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของอ๋องชินเฟิงอัน แต่เป็นฝีมือของหงเล่ผู้ปกครองแคว้นซู่ที่ยังไม่ตาย แล้วแอบลอบแทรกซึมเข้ามาในราชวงศ์เป่ยถัง ทำการสมรู้ร่วมคิดกับขุนนางชั่วบางคนในราชวงศ์เป่ยถัง คิดล้มล้างระบอบการปกครองของราชวงศ์เป่ยถัง อีกทั้งเวลานี้หงเล่ได้ร่วมมือกับเป่ยโม่ วางตัวสายลับจำนวนมากเอาไว้ในเมืองหลวง โดยมีเป้าหมายคือการยึดครองเป่ยถัง

เดิมทีข่าวนี้ฟังดูไร้สาระสิ้นดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครเชื่อ ในเมื่อหงเล่ผู้ปกครองแคว้นซู่ได้ตายไปแล้ว คนตายจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไรกัน? แต่เรื่องของอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนาน เป็นขี้ปากของประชาชนในเมืองหลวงมานานหลายวันแล้ว จนตอนนี้กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไม่มีอะไรน่าสนใจอีก แล้วจู่ ๆ ก็มีข่าวที่น่าตกใจกว่าโผล่ขึ้นมา ไม่ว่าทุกคนจะเชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ต้องจุดประเด็นให้ผู้คนเกิดการถกเถียงกันขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่เกินสามวัน ข่าวลือที่ว่าหงเล่ยังไม่ตาย แล้วไปร่วมมือกับเป่ยโม่ วางสายลับแทรกซึมเข้ามาซ่อนเร้นอยู่ในราชวงศ์เป่ยถัง ก็ได้เข้ามาแทนที่ข่าวลือเดิมที่ว่า อ๋องผิงหนานวางแผนฆ่าโสวฝู่ฉู่ไปโดยสิ้นเชิง

เดิมทีพวกขุนนางที่อยากให้คุมขังอ๋องผิงหนานในตอนแรก มีหลายคนที่เปลี่ยนมารอดูท่าที แต่ก็ยังมีพวกสุนัขจนตรอกที่ยิ่งร้อนรนจนอยู่ไม่สุข อยากให้หยู่เหวินเห้ารีบคุมตัวอ๋องผิงหนานให้ได้โดยเร็ว

และในเวลานี้เอง หยู่เหวินเห้าก็ได้มีราชโองการออกมาว่า มีรางวัลให้คนที่มาแจ้งเบาะแสของสายลับได้ อีกทั้งเงินรางวัลสูงสุดอาจสูงถึงหนึ่งพันตำลึง หากใครพบเห็นบุคคลน่าสงสัย พวกเขาสามารถมาแจ้งได้ที่กรมการพระนคร หรือที่ทำการปกครองได้ทันที

หลังจากออกประกาศคำสั่งนี้ไปแล้ว กู้ซือรองหัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์ ก็ได้นำคนตรงไปยังที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวง ไปจัดการรวบตัวเถ้าแก่ซุนกับหลินเซียวด้วยความเร็วสูง ชนิดที่ไม่ปล่อยให้มีเวลาตั้งตัว นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังสามารถจับกุมสายลับได้อีกนับสิบ ตอนที่คนเหล่านี้ถูกจับ ทั้งหมดล้วนถูกวางยาพิษ ไม่มีใครที่ขัดขืนได้แม้แต่คนเดียว

ส่วนทางราชสำนัก จู่ ๆ หยู่เหวินเห้าก็ออกคำสั่งให้คุมตัวขุนนางทั้งหมดที่ยังสนับสนุนให้จับกุมอ๋องผิงหนาน สั่งให้ขังพวกนั้นไว้ในคุกของกรมอาญา แล้วทำการสอบสวนอย่างช้า ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน