หยวนชิงหลิงเติบโตขึ้นมาในยุคสมัยที่สงบสุขและเจริญแล้ว แต่เพราะมาอยู่ที่ราชวงศ์เป่ยถังนานหลายปีแล้ว นางก็รู้ว่าเรื่องบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ นางไม่สามารถทำตัวเป็นพระแม่มารีได้
การคงอยู่ของประเทศชาติ คือความรับผิดชอบของทุกคน นี่ไม่ใช่คำขวัญอะไรทั้งนั้น แต่เป็นจิตวิญญาณอันสูงส่ง ที่ต้องแลกด้วยเลือดและชีวิตเพื่อให้ได้มา
พรุ่งนี้ต้องจัดการเรื่องฉู่หมิงหยาง ดังนั้น หยู่เหวินเห้าจึงพูดว่า "อุดอู้อยู่แต่ในบ้านจนเบื่อมาหลายวันแล้ว วันพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าออกไปพักผ่อนเสียหน่อย ไปกันแค่เราสองคนดีหรือไม่?"
“จะไปไหนรึ?” อันที่จริงหยวนชิงหลิงอาลัยอาวรณ์อยากจะไปทะเลสาบจิ้งสักครั้ง แต่ถ้าไปทะเลสาบจิ้ง ก็ต้องพาซาลาเปาไปด้วย
“ยังไม่ได้กำหนดหรอกว่าจะไปที่ไหน แค่ออกไปเที่ยว แต่อยู่ค้างได้เพียงคืนเดียวนะ วันมะรืนต้องรีบกลับมา ดังนั้นเลยไปทะเลสาบจิ้งไม่ได้” หยู่เหวินเห้าก็รู้ความคิดของนางเช่นกัน ทะเลสาบจิ้งเป็นความอาลัยอาวรณ์ของนางมาโดยตลอด เพราะนั่นเป็นหนทางกลับบ้านของนาง
อันที่จริงแล้วสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ สำหรับหยวนชิงหลิง ทะเลสาบจิ้งแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงหนทางกลับบ้าน แต่ยังเป็นหนทางที่จะช่วยให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย คำพูดของฟางหวู่ติดตรึงอยู่ในใจนางเสมอ การที่ฟางหวู่ให้ความสนใจการสแกนสมองเป็นอย่างมาก นั่นแปลว่าต้องมีการตรวจพบสิ่งผิดปกติบางอย่างแน่
ไปทะเลสาบจิ้งไม่ได้ หยวนชิงหลิงจึงพูดว่า “ในเมื่อมีเวลาแค่วันเดียว เช่นนั้นพวกเราไปเดินเล่นรอบ ๆ ชานเมืองเมืองหลวงกัน หรือไม่ก็ไปแหล่งการเกษตร ดีหรือไม่?”
“แหล่งการเกษตร?”
“ ถูกต้อง หมู่บ้านการเกษตรของราชวงศ์เป่ยถัง ข้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว ดูเหมือนว่าจะยังไม่เคยได้สัมผัสชีวิตของคนในพื้นที่ชนบทที่ทำการเกษตรจริง ๆ มาก่อนเลย ” หยวนชิงหลิงพูดแบบไม่จริงจังนัก แต่ขณะที่พูดอย่างนั้น ในใจกลับเต็มไปด้วยความคาดหวังจริง ๆ
หยู่เหวินเห้ายิ้ม “ไปหมู่บ้านการเกษตรไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรอกรึ? ในเมืองหลวงก็มีหมู่บ้านการเกษตร ไม่จำเป็นต้องออกจากเมืองหลวงหรอก”
“ ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย พรุ่งนี้เราก็ออกเดินทางกันเถอะ ” การได้ออกไปเที่ยวด้วยกันตามลำพังกับเขา ทิ้งความวุ่นวายทุกอย่างไว้ที่นี่ เป็นเรื่องที่นางคาดหวังรอคอยมาโดยตลอด
เมื่อเห็นความสุขในแววตาของหยวนชิงหลิง หยู่เหวินเห้าก็รู้สึกว่าตัวเองติดค้างนางมากมายเหลือเกิน เข้าไปสวมกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง ประทับริมฝีปากบนเรือนผมเงางามของนางเบา ๆ
หลังจากใช้เวลาร่วมกันมาห้าปี นอกจากตอนที่เขาไปเข้าร่วมรบในแนวหน้า ก็เหมือนว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันแทบจะทั้งวันทั้งคืน เขาไม่สามารถจินตนาการได้จริง ๆ ว่า ถ้าจู่ ๆ วันหนึ่งหยวนชิงหลิงหายไปจากชีวิตเขา ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี
ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น “ทำไมเราไม่ไปให้เร็วขึ้นสักหน่อยล่ะ?”
“ตอนนี้เลยรึ?” หยวนชิงหลิงตกตะลึง “แต่ตอนนี้มันใกล้จะค่ำแล้วนะ”
"พวกเราเช่าเรือนางโลม สักลำออกจากทะเลสาบ เราไปพายเรือในทะเลสาบเล่นกันก่อน รอถึงพรุ่งนี้เช้าเราค่อยขี่ม้าเข้าไปในเขตชนบท"
หยู่เหวินเห้ายิ่งพูดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น จูบที่แก้มนาง คิ้วยกสูงอย่างมีความสุข
รอยยิ้มที่ผ่อนคลายสบายอารมณ์เช่นนี้ ไม่ปรากฏบนใบหน้าของเจ้าห้ามานานมากแล้ว หยวนชิงหลิงรู้สึกเจ็บแปลบในใจ ยกยิ้มให้เขาน้อย ๆ "ดี!"
แอบหนีออกไปโดยไม่บอกลูก ๆ ทั้งสองคนดูเหมือนจะทิ้งความกังวลวุ่นวายทั้งหลาย แล้วย่องออกไปกันแบบเงียบ ๆ แต่เมื่อพวกเขาขี่ม้าอยู่บนท้องถนน หยวนชิงหลิงกลับรู้สึกว่า สิ่งที่เรียกว่าการย่องออกมาแบบเงียบ ๆ นี้ ก็เป็นได้แค่ภาพลวงตาเท่านั้น ที่ด้านหลังพวกเขายังมีคนมากมายที่ติดตามมาด้วยอย่างลับ ๆ
แต่ก็ไม่สนแล้วดีกว่า ได้ออกไปเที่ยวกับเขาแบบนี้สักครั้ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ลืมมันได้ทั้งนั้น ทำเหมือนว่าคนข้างหลังพวกนั้นไม่มีตัวตนอยู่ก็แล้วกัน
ในตอนที่เจ้าห้าทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หยวนชิงหลิงมองดูเขาแล้ว ในใจก็แอบสัมผัสได้ว่า ยิ่งนับวัน เขาก็ยิ่งมีความงามสง่าของผู้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว บรรยากาศอันราบเรียบ กับนิสัยประมาทเลินเล่อได้หายไป เริ่มมีท่าทางสมฐานะของผู้สืบเชื้อสายแห่งขัตติยะ ซึ่งดูได้จากทุกอิริยาบถที่เขาแสดงออกมาให้เห็น
ส่วนนาง กลับไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากมายอะไรเลย
มาถึงริมทะเลสาบ ที่นี่ยังคงคึกคักอยู่ มีบรรดานักวิชาการและผู้มีความสามารถทางวรรณกรรมมากมายมาเช่าเรือนางโลม แล้วก็ยังมีพวกพ่อค้าหาบเร่ต่าง ๆ เบียดเสียดกันอย่างคับคั่ง แสงไฟสว่างไสวส่องให้ทะเลสาบเป็นประกายพร่างพราว ราวกับค่ำคืนที่มีดวงดาวลอยอยู่เต็มท้องฟ้า
ถ้ายอมจ่าย ก็ง่ายที่จะเช่าเรือนางโลม ตัวเรือนั้นมีขนาดเล็กแต่ตกแต่งได้หรูหรามาก นาน ๆ จะได้ออกมาทั้งที หยู่เหวินเห้าจึงไม่ขี้เหนียวเงินทอง ยอมควักเงินห้าตำลึงในหนึ่งคืน จ่ายออกไปแบบไม่นึกเสียดายแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...