เพราะทังหยางจะออกเดินทางไกลในไม่ช้า หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าก็จะต้องไปทะเลสาบจิ้ง ดังนั้นพิธีลงนามระหว่างแม่นมฉีกับทังหยาง ในครั้งนี้จะต้องจัดขึ้นโดยเร็วที่สุด
ก็ไม่ได้จัดใหญ่โต เพียงแค่จัดงานเลี้ยงในจวน ทุกคนฉลองกันอย่างมีความสุข
ช่วงนี้จัดงานเลี้ยงติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนอารมณ์ดีอย่างมาก รู้สึกวันเวลาก้าวหน้าสู่ชัยชนะ
ภายใต้น้ำตาของทุกคน ทังหยางคุกเข่ากราบคำนับแม่นมฉี หกเกอเอ๋อกับหูหมิงก็คุกเข่ากราบคำนับทังหยาง ภายใต้คนมากมายเป็นพยาน สี่คนนี้กลายเป็นญาติพี่น้องกันแล้ว
เดิมบ้านทังหยางออกแบบไม่ดี มีเพียงห้องเดียว ตอนนี้ต้องเข้าไปอยู่สี่คน จึงอย่างน้อยต้องมีสี่ห้อง ดังนั้น ยังต้องก่อสร้างเพิ่ม
อาการบาดเจ็บสวีอีค่อยๆดีขึ้น งานนี้จึงมอบให้สวีอี ให้เขาเป็นงานควบคุมงาน
ก่อนเริ่มงาน สวีอีมาหาหยวนชิงหลิง บอกว่าฮูหยินทังคนเดิมคนนั้น ยังมีของใช้บางส่วนหลงเหลืออยู่ จะทิ้งเลยหรือเผาทิ้ง?
หยวนชิงหลิงไม่กล้าตัดสินใจเอง จึงให้เขาไปถามทังหยาง พรุ่งนี้ก่อนที่ทังหยางจะออกเดินทาง ถามให้ชัดเจนก่อนดีกว่า
สวีอีพูดขึ้นว่า “ข้าไม่กล้าถามเขา เขาดูเหมือนไม่ชอบให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา”
หยวนชิงหลิงจึงพูดขึ้นว่า “งั้นได้ ข้าไปถามเอง เจ้ากับช่างออกแบบก่อน”
นางเองก็ไม่สะดวกที่จะถาม ให้เจ้าห้าไปถาม เรื่องของผู้ชาย ให้ผู้ชายคุยกันดีกว่า
เจ้าห้าก็เป็นคนมีนิสัยหยาบตรงไปตรงมา คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หลังจากทานอาการค่ำแล้ว เดินไปห้องหนังสือพร้อมกับทังหยาง แล้วก็ถามขึ้นว่า “ของใช้ฮูหยินคนนั้นของเจ้ายังจะเอาไหม? หากไม่เอา จะให้เผาทิ้งหรือจะให้โยนทิ้ง?”
ทังหยางพูดขึ้นว่า “โยนทิ้งเผาทิ้ง ยังไงก็ได้”
“ไม่เก็บไว้ดูยามคิดถึงหรือ?” หยู่เหวินเห้าผลักประตูเข้าไปพร้อมถามขึ้น
ทังหยางพูดว่า “ไม่มีอะไรน่าคิดถึง”
หยู่เหวินเห้ามองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “คนก็ตายไปแล้ว ไม่ต้องเกลียดชังแล้ว”
ทังหยางจัดโต๊ะหนังสือให้กับเขา หยิบเอกสารออกมาหลายฉบับ พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่ส่งมาจากกรมการพระนคร อ๋องฉีบอกว่าให้ท่านดูด้วยตนเอง”
“วางไว้นี่แหละ เดี๋ยวข้าค่อยดู เจ้านั่งลง ข้าคุยกับเจ้าสักหน่อย” หยู่เหวินเห้ารู้สึกว่าอารมณ์ของเขาค่อนข้างเก็บกด คิดว่าเรื่องนั้นคงยังไม่ผ่านไป
ทังหยางแลดูไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ยังคงนั่งลง พร้อมพูดขึ้นว่า “คุยอะไร? หากเป็นเรื่องไม่มีความสุข ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป ไม่ต้องพูดถึงอีก”
“ผู้หญิงคนนั้นตายแล้วจริงหรือ?” หยู่เหวินเห้าพูดอ้อมค้อมไม่เป็น จึงถามขึ้นโดยตรง
ทังหยางก้มหน้าก้มตาลง พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม”
“เจ้าเห็นศพของนางด้วยตนเอง?”
“เห็น แต่ก็ถูกญาติของนางเอาไปอย่างรวดเร็ว” ความเจ็บปวดบางอย่าง เมื่อถูกพูดถึงก็แทบจะขาดใจ แต่ทังหยางควบคุมอารมณ์บนสีหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากสายตาจากเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่ปรากฏให้เห็นบนใบหน้า
ตอนที่หยู่เหวินเห้าถาม ก็ไม่ได้สนใจอารมณ์ของเขา แต่ก็เข้าใจเป็นอย่างดี เพราะเขาก็เคยเกือบที่จะเสียเจ้าหยวนไปหลายครั้ง
“ข้าปลอบคนไม่เป็น แต่คิดว่านางคงหวังอยากที่จะให้เจ้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี”
ทังหยางเงยหัวขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ นางจากสาปแช่งให้ข้าไม่ได้ตายดี ข้ารับปากว่าจะแต่งงานกับนาง แต่กลับแต่งงานกับคนอื่น”
หยู่เหวินเห้าอ้าปากค้าง แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าหยวนไม่มีทางสาปแช่งข้าเช่นนี้แน่”
“นั่นเพราะเจ้าไม่ได้ทรยศหักหลังนาง องค์ชายรัชทายาทลองเสนอเรื่องมีชายารองดูไหม?” ทังหยางพูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...